ที่ผ่านมารัฐก็มีแนวคิดที่จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง ให้คนกรุงเทพจ่ายได้อย่างสบายกระเป๋า ซึ่งต้องการจ่ายเงินชดเชยให้รถไฟฟ้าไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าราคาถูก
วิธีการที่ดีกว่า ก็คือซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนมาเป็นของรัฐ ถึงจะใช้เงินมากกว่า แต่ระยะยาวก็คุ้มกว่าแน่นอน ได้โอกาสบริหารจัดการพื้นที่รอบรถไฟฟ้าเองด้วย สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์รอบพื้นที่รถไฟฟ้าได้เอง
คมนาคมตั้ง “อินฟราฟันด์” เวนคืนรถไฟฟ้า! BTS ลั่นพร้อมขายสีเขียว-สีชมพู-เหลือง-ส้ม
https://www.kaohoon.com/news/694315
ยิ่งคนขึ้นรถไฟฟ้ากันเยอะ คนที่ชอบใช้รถส่วนตัวก็ได้ประโยชน์ทางอ้อม ถนนมีรถน้อยลง คนขับรถส่วนตัวก็ขับรถถึงที่หมายได้เร็วขึ้น
ถ้าได้ทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คนก็ต้องขึ้นรถไฟไฟฟ้าเยอะขึ้น ที่คาดการณ์ก็คือ คนจะเพิ่มขึ้นซัก 30% ได้ ถ้าเดิมมีผู้โดยสารราวๆ 47,000 คน ก็เพิ่งมาราวๆ 14,100 ถ้าเดิมมีผู้โดยสารราวๆ 100,000 คน ก็เพิ่งมาราวๆ 30,000 มันต้องมีจุดที่ว่าแม้ค่าโดยสารถูกลง ก็ยังได้กำไรประมาณเดิม จากการที่มีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยแล้วก็ยังได้กำไรเท่าเดิม หรืออาจจะกำไรมากขึ้นก็ได้ ถ้ามีผู้โดยสารมากกว่าที่คาดไว้เยอะ เหมือนสายสีแดงกับสายสีม่วงที่พอปรับลดค่าโดยสารเหลือ 20 บาท ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก ทำกำไรได้ดี จนถึงจุดที่รัฐไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยแล้ว
สายอื่นๆถ้าลดค่าโดยสารลงเหลือแค่ 20 บาทตลอดสาย ก็ต้องได้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจนสามารถทำกำไรเท่ากับตอนที่ผู้โดยสารยังไม่เพิ่มขึ้น แล้วพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่รอบสถานีรถไฟฟ้าก็จะได้ประโยชน์จากการมีผู้โดยสารรถไฟฟ้ามาซื้อของเพิ่มมากขึ้น คอนโด,ที่อยู่อาศัยต่างๆที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าก็จะมีคนมาพักอาศัยมากขึ้น เพราะเมื่อค่าโดยสารถูกลง ก็มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น บริหารเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น คนก็ขอเลือกอาศัยในตำแหน่งที่เดินทางสัญจรง่ายดีกว่า
ซึ่งอนาคตน่าจะได้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกินกว่า 30% จากที่คาดการณ์ไว้ ที่คาดว่าได้เพิ่ม 30% ก็คาดการณ์จากที่ว่า ผู้ที่อยู่รอบๆสถานีรถไฟฟ้าในเวลานี้จะได้ขึ้นรถไฟฟ้าเมื่อค่าโดยสารถูกลง ถ้าอนาคตมีผู้มาซื้อที่อยู่อาศัยใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพราะค่าโดยสารรถไฟฟ้าใีราคาถูก ทำให้บริการค่าครองชีพแต่ละเดือนได้ดีขึ้น ก็จะช่วยให้คนมาซื้อที่อยู่อาศัยใกล้กับรถไฟฟ้าได้มากขึ้นอีก ผู้โดยสารรถไฟฟ้าอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% จากเดิมก็ได้
สายที่น่าซื้อก่อน ก็คือสายสีเขียว
เพราะใกล้จะหมดสัมปทานปี 72 ถ้าซื้อปลายปีนี้ ก็คงไม่แพง ปี 69 ก็ได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว 20 บาทตลอดสาย
ยุคนี้ พื้นที่ใกล้รถไฟฟ้าจะเป็นทำเลทองเหมือน 20-30 ปีก่อน มันไม่ได้แล้ว คือยังเป็นทำเลทองอยู่ แต่ก็ไม่เป็นทำเลทองเท่าสมัยก่อนแน่
สมัยก่อนรถไฟฟ้ามีแค่ 2 สาย สายสีเขียวกับน้ำเงิน ทำเลทองก็ไปกระจุกตัวกับ 2 สายนี้ ไม่นาน 2 สายนี้ก็คืนทุนง่าย คืนทุนเร็ว เพราะคนรีบแห่กันไปกระจุกตัวในพื้นที่ใกล้ๆ 2 สายนี้ เดี๋ยวนี้ทำเลทองกระจายไปทั่ว เพราะรถไฟฟ้ามีไปทั่วกรุงเทพ คนไม่ต้องแห่ไปกระจุกตัวอาศัยอยู่ใกล้สถานีสายสีเขียวกับน้ำเงินแล้ว คนกระจายตัวไปอยู่ในพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าของสายสีอื่นๆด้วย
สมัยก่อน คนจำนวน 100,000 ต้องการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า คนกระจายตัวไปอยู่ใกล้รถไฟฟ้าเพียงแค่ 40 สถานี รถไฟฟ้าสมัยก่อนก็คืนทุนเร็ว
สมัยนี้ คนจำนวน 100,000 ต้องการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า คนก็กระจายตัวไปอยู่ใกล้รถไฟฟ้า 190 สถานี ทุกวันนี้มีสถานีรถไฟฟ้าให้เลือกเยอะขึ้น คนเลือกที่อยู่ง่ายขึ้น รถไฟฟ้าสมัยนี้ก็คืนทุนช้ากว่าสมัยก่อนมาก เมื่อคนไม่รีบแห่ไปกระจุกตัวกับรถไฟฟ้าสายใดสายหนึ่ง คนกระจายตัวกันทั่ว กว่าที่แต่ละสถานีรถไฟฟ้าจะได้คนจำนวนมากๆมากระจุกตัวอาศัยอยู่ใกล้สถานีอย่างรวดเร็วเหมือนเมื่อ 20-30 ปีก่อน จึงเป็นไปไม่ได้ ต้องใช้เวลานานขึ้นพอสมควร ทำให้รถไฟฟ้าแต่ละสายที่สร้างช่วงหลังคืนทุนช้าลงและยากขึ้น เพราะมีคนมีตัวเลือกสถานีรถไฟฟ้ามากขึ้น อยู่ตรงไหนของกรุงเทพก็สะดวกเหมือนกัน ก็เป็นโอกาสที่จะให้รถไฟฟ้าคิดขายให้รัฐ ได้เงินก้อนใหญ่เร็วกว่าการรอ
ให้บริหารเองจนคืนทุน
ถ้าจะซื้อรถไฟฟ้ากลับคืนมาให้รัฐบริหารเอง รัฐอาจจะไม่ต้องซื้อรถไฟฟ้าคืนทีเดียวทุกสายก็ได้ ซื้อแค่บางสายมาก่อน แล้ว
ค่อยๆซื้อไปจนครบทุกสาย ก็แล้วแต่จะพิจารณา ประชาชนคนกรุงเทพก็จะได้ประโยชน์กันทั้งทางตรงและทางอ้อม คนใช้รถไฟฟ้าก็สบายกระเป๋า คนใช้รถส่วนตัวก็ขับรถไปไหนมาไหนเร็วขึ้น เพราะมีคนใช้รถส่วนตัวบางส่วนหันไปใช้รถไฟฟ้าประชาชนคนกรุงเทพก็จะได้ประโยชน์กันทั้งทางตรงและทางอ้อม
และรถไฟฟ้าอาจเป็นช่องทางนึงที่ให้รัฐเก็บผลประโยชน์ได้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนเติมน้ำมันลดลงไปเรื่อยๆ ถึงปตท.จะทำที่ชาร์จไฟฟ้าที่ปั๊มน้ำมัน แต่คนก็ใช้บริการชาร์จไฟฟ้าจากปั๊มน้ำมันน้อย เพราะรถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จแบตจากที่บ้านได้ การหารายได้ด้านพลังงานของภาครัฐจึงยากขึ้นพอสมควร รถไฟฟ้าอาจจะเป็นช่องทางในเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของภาครัฐที่ดีทางนึง
ถ้ารถไฟฟ้าทำราคา 20 ตลอดสายยาก รัฐบาลก็จะซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนมา รถไฟฟ้าเคยมีแนวคิดที่จะขายอยู่แล้ว
วิธีการที่ดีกว่า ก็คือซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนมาเป็นของรัฐ ถึงจะใช้เงินมากกว่า แต่ระยะยาวก็คุ้มกว่าแน่นอน ได้โอกาสบริหารจัดการพื้นที่รอบรถไฟฟ้าเองด้วย สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์รอบพื้นที่รถไฟฟ้าได้เอง
คมนาคมตั้ง “อินฟราฟันด์” เวนคืนรถไฟฟ้า! BTS ลั่นพร้อมขายสีเขียว-สีชมพู-เหลือง-ส้ม
https://www.kaohoon.com/news/694315
ยิ่งคนขึ้นรถไฟฟ้ากันเยอะ คนที่ชอบใช้รถส่วนตัวก็ได้ประโยชน์ทางอ้อม ถนนมีรถน้อยลง คนขับรถส่วนตัวก็ขับรถถึงที่หมายได้เร็วขึ้น
ถ้าได้ทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คนก็ต้องขึ้นรถไฟไฟฟ้าเยอะขึ้น ที่คาดการณ์ก็คือ คนจะเพิ่มขึ้นซัก 30% ได้ ถ้าเดิมมีผู้โดยสารราวๆ 47,000 คน ก็เพิ่งมาราวๆ 14,100 ถ้าเดิมมีผู้โดยสารราวๆ 100,000 คน ก็เพิ่งมาราวๆ 30,000 มันต้องมีจุดที่ว่าแม้ค่าโดยสารถูกลง ก็ยังได้กำไรประมาณเดิม จากการที่มีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยแล้วก็ยังได้กำไรเท่าเดิม หรืออาจจะกำไรมากขึ้นก็ได้ ถ้ามีผู้โดยสารมากกว่าที่คาดไว้เยอะ เหมือนสายสีแดงกับสายสีม่วงที่พอปรับลดค่าโดยสารเหลือ 20 บาท ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก ทำกำไรได้ดี จนถึงจุดที่รัฐไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยแล้ว
สายอื่นๆถ้าลดค่าโดยสารลงเหลือแค่ 20 บาทตลอดสาย ก็ต้องได้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจนสามารถทำกำไรเท่ากับตอนที่ผู้โดยสารยังไม่เพิ่มขึ้น แล้วพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่รอบสถานีรถไฟฟ้าก็จะได้ประโยชน์จากการมีผู้โดยสารรถไฟฟ้ามาซื้อของเพิ่มมากขึ้น คอนโด,ที่อยู่อาศัยต่างๆที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าก็จะมีคนมาพักอาศัยมากขึ้น เพราะเมื่อค่าโดยสารถูกลง ก็มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น บริหารเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น คนก็ขอเลือกอาศัยในตำแหน่งที่เดินทางสัญจรง่ายดีกว่า
ซึ่งอนาคตน่าจะได้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกินกว่า 30% จากที่คาดการณ์ไว้ ที่คาดว่าได้เพิ่ม 30% ก็คาดการณ์จากที่ว่า ผู้ที่อยู่รอบๆสถานีรถไฟฟ้าในเวลานี้จะได้ขึ้นรถไฟฟ้าเมื่อค่าโดยสารถูกลง ถ้าอนาคตมีผู้มาซื้อที่อยู่อาศัยใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพราะค่าโดยสารรถไฟฟ้าใีราคาถูก ทำให้บริการค่าครองชีพแต่ละเดือนได้ดีขึ้น ก็จะช่วยให้คนมาซื้อที่อยู่อาศัยใกล้กับรถไฟฟ้าได้มากขึ้นอีก ผู้โดยสารรถไฟฟ้าอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% จากเดิมก็ได้
สายที่น่าซื้อก่อน ก็คือสายสีเขียว เพราะใกล้จะหมดสัมปทานปี 72 ถ้าซื้อปลายปีนี้ ก็คงไม่แพง ปี 69 ก็ได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว 20 บาทตลอดสาย
ยุคนี้ พื้นที่ใกล้รถไฟฟ้าจะเป็นทำเลทองเหมือน 20-30 ปีก่อน มันไม่ได้แล้ว คือยังเป็นทำเลทองอยู่ แต่ก็ไม่เป็นทำเลทองเท่าสมัยก่อนแน่
สมัยก่อนรถไฟฟ้ามีแค่ 2 สาย สายสีเขียวกับน้ำเงิน ทำเลทองก็ไปกระจุกตัวกับ 2 สายนี้ ไม่นาน 2 สายนี้ก็คืนทุนง่าย คืนทุนเร็ว เพราะคนรีบแห่กันไปกระจุกตัวในพื้นที่ใกล้ๆ 2 สายนี้ เดี๋ยวนี้ทำเลทองกระจายไปทั่ว เพราะรถไฟฟ้ามีไปทั่วกรุงเทพ คนไม่ต้องแห่ไปกระจุกตัวอาศัยอยู่ใกล้สถานีสายสีเขียวกับน้ำเงินแล้ว คนกระจายตัวไปอยู่ในพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าของสายสีอื่นๆด้วย
สมัยก่อน คนจำนวน 100,000 ต้องการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า คนกระจายตัวไปอยู่ใกล้รถไฟฟ้าเพียงแค่ 40 สถานี รถไฟฟ้าสมัยก่อนก็คืนทุนเร็ว
สมัยนี้ คนจำนวน 100,000 ต้องการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า คนก็กระจายตัวไปอยู่ใกล้รถไฟฟ้า 190 สถานี ทุกวันนี้มีสถานีรถไฟฟ้าให้เลือกเยอะขึ้น คนเลือกที่อยู่ง่ายขึ้น รถไฟฟ้าสมัยนี้ก็คืนทุนช้ากว่าสมัยก่อนมาก เมื่อคนไม่รีบแห่ไปกระจุกตัวกับรถไฟฟ้าสายใดสายหนึ่ง คนกระจายตัวกันทั่ว กว่าที่แต่ละสถานีรถไฟฟ้าจะได้คนจำนวนมากๆมากระจุกตัวอาศัยอยู่ใกล้สถานีอย่างรวดเร็วเหมือนเมื่อ 20-30 ปีก่อน จึงเป็นไปไม่ได้ ต้องใช้เวลานานขึ้นพอสมควร ทำให้รถไฟฟ้าแต่ละสายที่สร้างช่วงหลังคืนทุนช้าลงและยากขึ้น เพราะมีคนมีตัวเลือกสถานีรถไฟฟ้ามากขึ้น อยู่ตรงไหนของกรุงเทพก็สะดวกเหมือนกัน ก็เป็นโอกาสที่จะให้รถไฟฟ้าคิดขายให้รัฐ ได้เงินก้อนใหญ่เร็วกว่าการรอให้บริหารเองจนคืนทุน
ถ้าจะซื้อรถไฟฟ้ากลับคืนมาให้รัฐบริหารเอง รัฐอาจจะไม่ต้องซื้อรถไฟฟ้าคืนทีเดียวทุกสายก็ได้ ซื้อแค่บางสายมาก่อน แล้วค่อยๆซื้อไปจนครบทุกสาย ก็แล้วแต่จะพิจารณา ประชาชนคนกรุงเทพก็จะได้ประโยชน์กันทั้งทางตรงและทางอ้อม คนใช้รถไฟฟ้าก็สบายกระเป๋า คนใช้รถส่วนตัวก็ขับรถไปไหนมาไหนเร็วขึ้น เพราะมีคนใช้รถส่วนตัวบางส่วนหันไปใช้รถไฟฟ้าประชาชนคนกรุงเทพก็จะได้ประโยชน์กันทั้งทางตรงและทางอ้อม
และรถไฟฟ้าอาจเป็นช่องทางนึงที่ให้รัฐเก็บผลประโยชน์ได้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนเติมน้ำมันลดลงไปเรื่อยๆ ถึงปตท.จะทำที่ชาร์จไฟฟ้าที่ปั๊มน้ำมัน แต่คนก็ใช้บริการชาร์จไฟฟ้าจากปั๊มน้ำมันน้อย เพราะรถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จแบตจากที่บ้านได้ การหารายได้ด้านพลังงานของภาครัฐจึงยากขึ้นพอสมควร รถไฟฟ้าอาจจะเป็นช่องทางในเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของภาครัฐที่ดีทางนึง