ความน่าเบื่อ ของบ้านที่เป็นร้านค้า

กระทู้คำถาม
ผมลาออกจากงานประจำแล้วย้ายกลับมาอยู่บ้านต่างจังหวัด เพราะอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย มีครอบครัว มีลูก และตั้งใจสร้างบ้านเล็ก ๆ อยู่ติดกับบ้านพ่อแม่ เนื่องจากตอนนั้นอาชีพหลักของผมคือขายของออนไลน์ รายได้ก็ดีและมั่นคงในระดับหนึ่ง จึงไม่ได้กังวลเรื่องเงินมากนัก

แต่พอกลับมาอยู่บ้าน พ่อแม่มีความตั้งใจว่าอยากให้เปิดร้านขายของชำหน้าบ้าน ผมกับภรรยาก็พยายามอธิบายว่าไม่อยากเปิด เพราะในซอยมีร้านอยู่แล้วตั้ง 3 ร้าน เราจะกลายเป็นร้านที่ 4 แถมยังอยู่ลึกสุดในซอยอีกด้วย แต่พ่อแม่ก็ยังยืนยันอยากให้เปิด บอกว่าอยากให้มีร้านของตัวเองไว้ขาย

สุดท้ายผมก็ยอมเปิด เพราะไม่อยากขัดใจท่าน และคิดว่าอย่างน้อยอาจจะช่วยกันทำให้เป็นรายได้เสริม เราพยายามหาจุดต่างจากร้านอื่น เช่น รับรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับโอนเงิน จ่ายบิลต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้บริการมากขึ้น

ตอนนี้ร้านเปิดมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว อายุร้านก็พอ ๆ กับอายุของลูกเลย แต่ยิ่งขายกลับยิ่งขาดทุน ทั้งที่ใช้ระบบจัดการร้านครบทุกอย่าง แต่สินค้ากำไรน้อยมาก ขายเท่าไหร่ก็ไม่พอ ต้องควักเงินตัวเองมาเติมของอยู่เรื่อย ๆ พอพูดกับพ่อแม่ว่าขาดทุน ท่านก็ไม่ค่อยฟัง แถมยังอยากให้ซื้อของมาเติมตลอด

ทุกวันนี้แทบไม่เหลือเงินเก็บแล้ว แต่ก็ยังต้องเปิดร้านต่อ เพราะบ้านที่อยู่ก็อยู่หลังร้าน จะปิดร้านไปเลยก็ไม่ได้ เพราะต้องอาศัยอยู่เลี้ยงลูก กินนอนตรงนี้

สิ่งที่ทำให้เบื่อที่สุดคือ ความรู้สึกเหมือน “บ้านไม่ใช่บ้าน” อีกต่อไป เพราะมีคนแปลกหน้าเข้ามาตลอดเวลา บางคนมากินเหล้า สูบบุหรี่ หรือแม้แต่ขอของในร้านฟรี ๆ ความเป็นส่วนตัวไม่มีเลย ​ไม่ว่าตอนเข้าห้องน้ำ หรือกินข้าว หรือตอนที่กำลังทำงานอื่นๆอยู่ วันหยุดก็ไม่มี จะออกไปไหนก็ลำบาก เพราะต้องเฝ้าร้าน ถ้าออกไปนาน ๆ กลับมาที พ่อแม่ก็มักจะทำหน้าบึ้งเหมือนเราไม่สนใจร้าน ทั้งที่ใจจริงเราไม่อยากเปิดตั้งแต่แรกแล้ว

ตอนนี้ขายได้วันละร้อยสองร้อย บางวันแทบขายไม่ได้เลย กำไรยังไม่พอจ่ายค่าไฟของตู้แช่ ของในร้านก็ขาด ของหมด เติมไม่ทัน ไม่มีเงินหมุนแล้ว พ่อแม่ก็ยังอยากให้ซื้อของมาเพิ่มอีก

พูดตรง ๆ คือ ตอนนี้ผมเหนื่อยและเบื่อมาก อยากแค่มี “บ้านที่เป็นบ้าน” จริง ๆ ไม่ใช่บ้านที่ต้องกลายเป็นร้านค้าตลอดเวลา นี่แหละคือความอึดอัดที่ผมกำลังเจออยู่ทุกวัน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่