บางคน บอกว่า ที่อาฟริกา ไม่เจริญ ก็ เพราะ คนในนั้น จับคนในอาฟริกากันเอง ไปขายให้ ชาวยุโรปเอาไปเป็นทาส

 จาก Histofun Deluxe
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ถึง 19 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการค้าทาสในมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic slave trade) มันคือช่วงเวลาที่
ชาวยุโรปได้นำคนผิวดำจากแอฟริกาไปเป็นทาสในอาณานิคมของชาติยุโรปในทวีปอเมริกาและทะเลแคริบเบียน
ประมาณการว่า มีชาวแอฟริกาที่ตกเป็นทาสมากกว่า 10 ถึง 12 ล้านคนเลยทีเดียว
โดยยุโรปชาติแรกที่เริ่มต้นค้าทาสจากแอฟริกาก็คือโปรตุเกส ซึ่งย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 15
ก่อนที่ชาติมหาอำนาจยุโรปชาติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเปน ดัตช์ อังกฤษ และฝรั่งเศส จะเข้ามาเป็นผู้เล่นในการค้าทาสนี้ด้วย

ที่นี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วใครเป็นคนกวาดต้อนหรือจับคนผิวดำในแอฟริกาไปเป็นทาส หลายคนอาจคิดว่า น่าจะเป็นชาวยุโรปผิวขาว
แต่ความจริงอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะคนแอฟริกาผิวดำ ก็คือคนที่จับคนผิวดำด้วยกันเองไปขายเป็นทาสให้กับคนผิวขาว

ด้วยภูมิประเทศที่ทุรกันดารและความยากลำบาก ชาวยุโรปจึงเลือกที่จะไม่เข้าไปในแผ่นดินแอฟริกาเพื่อจับคนมาเป็นทาสด้วยตัวเอง
แต่เลือกทำการค้าทาสกับพ่อค้าทาสที่เป็นคนผิวดำท้องถิ่นแทน โดยพ่อค้าทาสเหล่านี้จะเป็นพวกผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
หรือบรรดาชนเผ่าที่เอาชนะเผ่าของศัตรูได้ แล้วจับเชลยมาขายเป็นทาสให้กับชาวยุโรป

สิ่งที่ชาวยุโรปต้องการจากพ่อค้าทาสเหล่านี้ นอกจากทาสแล้ว ก็เป็นสินค้าจำพวกทองคำ งาช้าง รวมไปถึงเครื่องเทศ
ส่วนสิ่งที่พ่อค้าทาสได้จากชาวยุโรปก็มีเหล็ก ปืน กระสุน ดินปืน กระจก มีด ผ้า และลูกปัด

อย่างไรก็ตามเรื่องที่ว่า คนผิวดำจับคนผิวดำด้วยกันเองไปขายเป็นทาส ก็ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียง นักประวัติศาสตร์บางคนมองว่า
ในช่วงที่ความต้องการทาสสูง ชาวยุโรปบางกลุ่มอาจจะเลือกเข้าไปในแอฟริกาเพื่อกวาดต้อนและจับคนมาเป็นทาสด้วยตัวเอง
แต่ชาวยุโรปส่วนใหญ่แล้ว ก็มักรอซื้อทาสจากพ่อค้าทาสที่จะกวาดต้อนคนจากพื้นที่ด้านในของทวีป

โดยคนผิวดำที่ถูกจับไปเป็นทาส จะต้องถูกล่ามโซ่และเดินขบวนเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรกว่าจะไปถึงชายฝั่งทะเลที่ชาวยุโรปรอซื้อทาสอยู่
ซึ่งราว 10-15% ของคนที่ถูกกวาดต้อนจะเสียชีวิตก่อนที่จะถึงชายฝั่ง คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่