สวัสดีค่ะ หนูก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึง ที่ถูกพี่บูลลี่ตั้งแต่เด็ก และเขาชอบทำให้หนูอับอายต่อหน้าคนอื่น ตอนเด็กหนูอ้วนดำ เขาก็ล้อทีนี้ก็มีพี่ที่รู้จักก็เขามารุมบูลลี่และหัวเราะเยาะ คำที่เขาจะชอบล้อประจำคือ"อีอ้วนคอดำ" หนูก็ทำได้แค่ยิ้มหัวเราะ ไม่มีใครเข้าใจ ตอนหนูโมโหแล้วด่ากลับไป แม่ก็เข้ามาเห็นตอนหนูด่าเขา สุดท้ายหนูก็ผิด เคยร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นสิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงหัวเราะเยาะ จนตอนนี้หนูก็ไม่กล้าร้องไห้ต่อหน้าใคร ไม่กล้าพูด หนูลดน้ำหนักลงมา10กว่ากี่โล แต่เขาก็ยังหาเรื่องอื่นมาบูลลี่ จนหนูเคยคิดว่าถ้าโตไปจะไม่กลับมาบ้านเฮงซวยนี้อีก พ่อแม่บอกไม่รักกันก็อย่าตัดขาดกัน แต่เขาทำกับหนูแต่ละอย่างเหมือนไม่เห็นหนูเป็นน้อง มีลงอะไรเขาเอามาลงกับน้องหมด จนปีที่แล้วหนูทนไม่ไหวจนพูดออกไปทั้งหมดว่าหนูโดนอะไรบ้าง แม่เข้าใจผิดมาตลอดเพราะพี่พูดให้หนูดูผิด และคนที่โดนตีคือหนูโดนหน้าบ้าง ครั้งนั้นที่โดนก็เกือบเข้าตา ตอนทะเลาะกับพี่แม่ก็โดนพ่อด่าว่าทำไมไม่ดูลูก แม่ด่าหนูหนูก็ไม่อะไรแต่เขากลับบอกหนูว่าหนูเป็นตัวปัญหา ครั้งนั้นที่โดนตีหนักๆแม่ให้เหตุผลว่า พี่แต่ก่อนโดนเยอะกว่านี้อีก แต่ทำไมหนูโดนคนเดียวโชคดีที่หนูผ่านตรงนั้นมาได้โดยที่ไม่เป็นซึมเศร้า และหนูก็พึ่งทะเลาะกับพี่มา เขาทำหนูก่อนพอหนูทำกลับเขากับรับไม่ได้ หนูก็เลยเลือกที่จะพูดกลับไปว่า "ทำคนอื่นเขาแล้วทำไมถึงรับไม่ได้" และเดินออกมา เพราะโดนไล่ แล้วเขาก็วิ่งมากระชากคอหนู และเตะขา หนูเจ็บแต่ร่างกายมันบอกว่าให้อดทนไปร้องที่อื่น จนขึ้นมาบนบ้านเห็นรอยแผลใหญ่ตรงคอ มันเป็นแผลที่เจ็บทั้งกายและใจ จนตอนนี้ก็มีทะเลาะกันแต่ไม่หนักเท่าตอนเมื่อ1-2ปีที่แล้ว ที่ทะเลาะกันจนหนูฟิวส์ขาด ในมือถือมีดจะเอามาแทงตัวเอง ดีที่ตอนนั้นใจไม่กล้าพอ พอแม่ขึ้นบนบ้านมา เขาถามหนูว่า"ทำไมทีนี้ไม่ทำคืนละ" ถ้าหนูทำคืนไปคงได้เข้าโรงบาล ไม่ได้โกรธใครเลยเพราะโกรธไม่ลง ขออย่าทำร้ายจิตใจกันเลย คือแม่ก็ได้มาขอโทษแต่ใจมันลืมไม่ลงจริงๆ เป็นช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานที่สุด (ได้มีการไปตรวจซึมเศร้าแล้ว ไม่ได้เป็นค่ะ)
ใครบูลลี่ไม่เจ็บเท่าคนในครอบครัว