จากนอนแผ่ร้องแอ๊ในญี่ปุ่น สู่ ดุดันท้ายกระบะที่ภูเก็ต..เรากำลังให้แสงคนเหล่านี้โปรโมทตัวเองผ่านการล้อเลียนหรือไม่?

รายแรกถ้าโดนโทษอย่งามากก็แค่ค่าปรับ รายหลังอย่างมากก็แค่ค่าปรับกับถอนวีซ่า

แต่สิง่ที่สองรายนั้นได้คือ ที่ในสื่อแบบไม่เสียเงิน แม้จะเป็นการทำเพื่อด่าหรอืล้อเลียน แต่ก็ทำให้ชื่อและเรืง่อของคนเลห่านั้นยึดที่สื่อ และทำให้อัลกอริทึ่มดันเรื่งอคนพวกนี้ขึ้นมา

ถ้าคนที่กอ่เรื่องในเหตุการ์ณที่ภูเก็ตคือ คอนเทนท์ ครีเอเตอร์ สายผู้ใหญ๋...คือได้โปรโมทตัวเองและช่งอทางอืน่ของตัวเอง(เช่น อลฟ)ฟรีๆ

ส่วนรายที่นอนแผ่ร้องแอ๊ พุดตรงๆ ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยได้ยินชื่อเขาเลย จนมามีประเด็นดังที่ว่านั่นแหล่ะ

แฃ้วอัฃกอริทึ่มมันไม่สนหรอกนะว่าชื่อนั้นเหตุการณ์นั้นจะโดนกล่าวในแง่ไหน มันมองว่าโดนพูดถงึเยอก็ดันขึ้นฟีดรัวๆ พวกที่ทำเพจทำมุกล้อเลียนก็ไปช่วยโปรโมทให้แสงพวกนี้อีก

แบะอยากให้ทุกคน โดยเฉพาะชาวเน็ตไทย ลองย้อนดูนะว่า เรากำลังทำสิง่เดียวกันเวลามีข่าวพวกนี้ออกมาสู่สังคมไหม จนคนที่ไมควรจะได้แสงกลับได้แสงในสังคม โดยน้ำมือของพวกเราเอง..ลุงพลก็เข้าข่ายนะ เพระาถึงแม้จะเอามาลงเพจเพื่อด่า แต่ก็ทำให้ชื่อลุงพลถูกรู้จักมากขึ้นอีก