อีวีจีนเบอร์ 1 'BYD' ยอดขาย 'หดตัว' ครั้งแรกในรอบ 18 เดือน

'บีวายดี' ยอดขายเดือนกันยายน ร่วงครั้งแรกในรอบ 18 เดือน สอดคล้องกับที่บริษัทหั่นเป้ายอดขายรายปีลง แต่นักวิเคราะห์คาดไตรมาสสุดท้ายอาจดีขึ้นจากแรงซื้อตุน ก่อนมาตรการลดหย่อนหมดอายุปีหน้า

บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในจีน "บีวายดี" (BYD Co.) รายงานยอดการส่งมอบรถลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 18 เดือน แม้ว่าบรรดาคู่แข่งในประเทศจะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดจีนก็ตาม

ยอดส่งมอบรถยนต์ในเดือนก.ย.2568 ลดลง 5.5% จากปีก่อนหน้า เหลือ 396,270 คัน ถือเป็นการ "หดตัว" ครั้งแรกของ BYD นับตั้งแต่เดือนก.พ.2567 และหากไม่รวมความผันผวนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ยอดส่งมอบจะถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และชีวิตประจำวัน

การลดลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายในปีนี้ลง 16% เหลือ 4.6 ล้านคัน ทว่าแม้ว่าผลประกอบการเดือนล่าสุดจะชะลอตัวลง แต่ราคาหุ้นของ BYD ที่ซื้อขายในฮ่องกงกลับเพิ่มขึ้นมากถึง 2.9% ในเช้าวันที่ 21 ก.ย.68 

ทั้งนี้ แม้ว่าโมเมนตัมของ BYD อาจจะชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะส่งมอบรถยนต์อีวีได้มากกว่าค่ายขู่แข่งอย่าง Tesla Inc. ซึ่งจะรายงานยอดส่งมอบในไตรมาสที่สามในวันพฤหัสบดี นี้ ซึ่งบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่าเทสลาจะส่งมอบรถยนต์รายไตรมาสได้ประมาณ 439,600 คัน ซึ่งยังต่ำกว่ายอดของบีวายดีที่ประมาณ 582,522 คันในช่วงเวลาเดียวกัน

เนื่องจากเดือนก.ย. และต.ค. เป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์ในจีนคึกคัก บีวายดี และบริษัทอื่นๆ น่าจะพยายามใช้ประโยชน์จากไตรมาสสุดท้ายให้มากที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายยอดขายประจำปี โดยภาษีซื้อรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นจะกลับมาปรับขึ้นตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดส่งมอบจะเพิ่มขึ้นในปลายปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคต้องการรีบซื้อรถก่อนที่มาตรการลดหย่อนภาษีจะหมดอายุ

ในทางตรงกันข้าม Geely กำลังไล่ตามบีวายดีอย่างรวดเร็วด้วยยอดขาย 273,125 คันในเดือนก.ย. ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 35% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยบริษัทกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สามารถแข่งขันกับบีวายดีได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการปฏิรูปแบรนด์ Zeekr ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

ส่วนแบรนด์อื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จในเดือนก.ย. ได้แก่ Xpeng Inc. ซึ่งมียอดขายพุ่งสูงขึ้น 95% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น 41,581 คัน และ Zhejiang Leapmotor Technology Co. ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้น 97% เป็น 66,657 คัน ในขณะที่ Xiaomi Corp. ยังคงเร่งการผลิตอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ YU7 ในเดือนมิ.ย. โดยส่งมอบรถยนต์ทำสถิติใหม่ไปแล้วกว่า 40,000 คันในเดือนที่แล้ว 

ทีมนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุในบันทึกถึงนักลงทุนว่า ในช่วงที่ยอดขายพุ่งสูงในช่วงปลายปี BYD จำเป็นต้องขายรถยนต์โดยเฉลี่ย 447,000 คันต่อเดือนในไตรมาสสุดท้าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 4.6 ล้านคัน

แต่จากข้อมูลยอดขายที่เผยแพร่โดยผู้ผลิตรถยนต์จนถึงขณะนี้ กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริดของจีนเติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Citi Research คาดการณ์ไว้ที่ 15% โดยรัฐบาลปักกิ่งเรียกร้องให้หลายอุตสาหกรรม รวมถึงภาคยานยนต์ ยุติการทำ "สงครามราคา" ที่ไม่ยั่งยืน 



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่