เช่นเดียวกับคนที่บอก เราไม่เห็นเชื้อโรค แต่ก็รู้ว่าเชื้อโรคมีจริง
ดังนั้นสรุปได้ว่า เราไม่เห็นผี แต่ผีมีจริง
>>พรุ่งนี้มี ก็เพราะการหมุนของโลกรอบดวงอาทิตย์ วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้
แสดงให้เห็นจะๆ จากภาพที่ถ่ายจากดาวเทียม เห็นโลกสว่างครึ่ง มืดครึ่ง
เชื้อโรคก็เหมือนกัน ถ้าจะดูจริงๆ ก็ส่องกล้องขยาย จะมองเห็น
>> แต่ ถามว่า ชาติหน้าที่อ้างว่ามี แสดงให้เห็นชัดๆได้ไหม
แล้วก็ชอบอ้าง งานวิจัยของ ศ.เอียน สตีเวนสัน ที่ทำมาตั้งเกือบ 70 ปีแล้ว ซึ่งทุกวันนี้ วงการจิตแพทย์ไม่ยอมรับงานวิจัยนี้
หลักฐานที่แกอ้างมาทุกอย่างโดนล้มล้างไปหมดแล้ว
ผีก็เหมือนกัน ทุกวันนี้มีกล้องมือถือหลายพันล้านเครื่อง กล้องวงจรปิดเป็นร้อยล้าน กล้องหน้ารถอีกพันล้าน
ไม่เคยถ่ายติดผีสักตัว
แต่เชื้อโรค ไปดูจากรูปที่กล้องจุลทรรศน์ถ่ายออกมาก็ได้ มันมีจริงๆ
>>เดี๋ยวก็อ้างอีกว่า เราไม่สามารถเอาหูไปรับรส เอาลิ้นไปฟังเสียง การเห็นผี เป็นเรื่องของจิตสัมผัส มีญาณทิพย์
เพราะคนไทยมัวเมาแบบนี้ พวกหมอผี ถึงรวยเป็นร้อยๆล้าน ในขณะที่นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รับเงินเดือนสามสี่หมื่น ใช้เดือนชนเดือน
พระที่เล่นเรื่องนี้กับเขาด้วย รวยเป็นพันล้าน
ถ้าไม่รีบแก้ไข สังคมไทยในอนาคตน่ากลัวมาก เพราะแม้แต่พระ ยังหลงในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส กาเม เงินตรา สุรา นารี
อย่าง อลงกตนี่ ทุกครั้งที่เผลอไปเห็นรูปกำลังอมยิ้ม (แกอมยิ้มทุกรูป) สยองเลย
ในประเทศไทย มีพระที่บรรลุขนาดเห็นชาติภพ การเกิดใหม่ กี่รูป
แล้วที่บอกว่าตายแล้วเกิด โดยที่ตัวเองยังไม่รู้จริง ถือว่า มุสา หรือไม่
ตอนนี้ก็มีพระที่พริ้วมากๆ อ้างคำพูดของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ถ้าผิดถูกตัวเองไม่เกี่ยว
แต่พี่แกไม่ได้อ่านจากต้นฉบับบาลี ไปอ่านฉบับแปล แน่ใจหรือว่า เป็น พุทธวัจน จริงๆ
ขนาดไอน์สไตน์ เพิ่งเสียชีวิตไปไม่กี่ปี คำพูดแกถูกนำมาอ้างเต็มไปหมดว่า เป็น Einstein quote สืบไปสืบมา ปรากฏว่า แกไม่ได้พูดจริง
>> แล้วพระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานไป 2,500 ปีแล้ว แถมไปอ่านฉบับแปลไทยมาอ้างอีก
>>> พุทธศาสนา ควรเป็นปรัชญาชีวิต ไม่ใช่เรื่องของวิญญาณ ชาติภพ
เช่นคำสอนของ หลวงพ่อปัญญา พระพยอม ท่านพุทธทาส หลวงพี่ไพศาล วิสาโล พระอาจารย์ประยุทธ์ ปยุตฺโต ฯลฯ
พรุ่งนี้มีจริงไหม ชาติหน้าก็มีจริง งง กับ ตรรกะนี้มากๆ
ดังนั้นสรุปได้ว่า เราไม่เห็นผี แต่ผีมีจริง
>>พรุ่งนี้มี ก็เพราะการหมุนของโลกรอบดวงอาทิตย์ วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้
แสดงให้เห็นจะๆ จากภาพที่ถ่ายจากดาวเทียม เห็นโลกสว่างครึ่ง มืดครึ่ง
เชื้อโรคก็เหมือนกัน ถ้าจะดูจริงๆ ก็ส่องกล้องขยาย จะมองเห็น
>> แต่ ถามว่า ชาติหน้าที่อ้างว่ามี แสดงให้เห็นชัดๆได้ไหม
แล้วก็ชอบอ้าง งานวิจัยของ ศ.เอียน สตีเวนสัน ที่ทำมาตั้งเกือบ 70 ปีแล้ว ซึ่งทุกวันนี้ วงการจิตแพทย์ไม่ยอมรับงานวิจัยนี้
หลักฐานที่แกอ้างมาทุกอย่างโดนล้มล้างไปหมดแล้ว
ผีก็เหมือนกัน ทุกวันนี้มีกล้องมือถือหลายพันล้านเครื่อง กล้องวงจรปิดเป็นร้อยล้าน กล้องหน้ารถอีกพันล้าน
ไม่เคยถ่ายติดผีสักตัว
แต่เชื้อโรค ไปดูจากรูปที่กล้องจุลทรรศน์ถ่ายออกมาก็ได้ มันมีจริงๆ
>>เดี๋ยวก็อ้างอีกว่า เราไม่สามารถเอาหูไปรับรส เอาลิ้นไปฟังเสียง การเห็นผี เป็นเรื่องของจิตสัมผัส มีญาณทิพย์
เพราะคนไทยมัวเมาแบบนี้ พวกหมอผี ถึงรวยเป็นร้อยๆล้าน ในขณะที่นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รับเงินเดือนสามสี่หมื่น ใช้เดือนชนเดือน
พระที่เล่นเรื่องนี้กับเขาด้วย รวยเป็นพันล้าน
ถ้าไม่รีบแก้ไข สังคมไทยในอนาคตน่ากลัวมาก เพราะแม้แต่พระ ยังหลงในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส กาเม เงินตรา สุรา นารี
อย่าง อลงกตนี่ ทุกครั้งที่เผลอไปเห็นรูปกำลังอมยิ้ม (แกอมยิ้มทุกรูป) สยองเลย
ในประเทศไทย มีพระที่บรรลุขนาดเห็นชาติภพ การเกิดใหม่ กี่รูป
แล้วที่บอกว่าตายแล้วเกิด โดยที่ตัวเองยังไม่รู้จริง ถือว่า มุสา หรือไม่
ตอนนี้ก็มีพระที่พริ้วมากๆ อ้างคำพูดของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ถ้าผิดถูกตัวเองไม่เกี่ยว
แต่พี่แกไม่ได้อ่านจากต้นฉบับบาลี ไปอ่านฉบับแปล แน่ใจหรือว่า เป็น พุทธวัจน จริงๆ
ขนาดไอน์สไตน์ เพิ่งเสียชีวิตไปไม่กี่ปี คำพูดแกถูกนำมาอ้างเต็มไปหมดว่า เป็น Einstein quote สืบไปสืบมา ปรากฏว่า แกไม่ได้พูดจริง
>> แล้วพระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานไป 2,500 ปีแล้ว แถมไปอ่านฉบับแปลไทยมาอ้างอีก
>>> พุทธศาสนา ควรเป็นปรัชญาชีวิต ไม่ใช่เรื่องของวิญญาณ ชาติภพ
เช่นคำสอนของ หลวงพ่อปัญญา พระพยอม ท่านพุทธทาส หลวงพี่ไพศาล วิสาโล พระอาจารย์ประยุทธ์ ปยุตฺโต ฯลฯ