U9 Xtreme ซึ่งเป็นไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าเน้นการใช้งานในสนามแข่ง เดิมเคยรู้จักกันในชื่อ 
Yangwang U9 Track Edition การเปิดตัวจัดขึ้นผ่านการถ่ายทอดสด และได้ผ่านการทดสอบยืนยันที่ 
Automotive Testing Papenburg ประเทศเยอรมนี ในเดือนกันยายน 2025 โดยทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 
496.22 กม./ชม. (308.4 ไมล์/ชม.) กลายเป็นรถผลิตเชิงพาณิชย์ที่ถูกบันทึกว่ามีความเร็วสูงสุดในประวัติศาสตร์
Yangwang ยังรายงานว่า U9 Xtreme ทำเวลาต่อรอบ 
Nürburgring Nordschleife ได้ที่ 
6:59.157 นาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติรถยนต์ไฟฟ้าผลิตเชิงพาณิชย์เดิมของ 
Xiaomi SU7 Ultra ที่ทำได้ 
7:04.957 นาที  U9 Xtreme ได้ทำลายสถิติเดิมของ 
Bugatti Chiron Super Sport 300+ ที่ทำไว้ 
490.5 กม./ชม. https://www.youtube.com/watch?v=Wf0RThR5jMQ
U9 EXTREAM พัฒนามาจาก 
U9 รุ่นปกติ แต่เสริมด้วยชุดแอโรไดนามิกขั้นสูง เช่น 
สปลิตเตอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดใหญ่, 
ฝากระโปรงดีไซน์ช่องคู่ (dual-channel hood) และ 
สปอยเลอร์หลังแบบ swan-neck ขนาดใหญ่ ตัวถังมีขนาด 
ยาว 4,991 มม. กว้าง 2,029 มม. สูง 1,351 มม. และมีระยะฐานล้อ 
2,900 มม. ล้ออัลลอยแบบ 
dual five-spoke ขนาด 20 นิ้ว จับคู่กับยาง 
GitiSport e·Gtr2 Pro แบบกึ่งสลิค ที่พัฒนาโดยความร่วมมือกับ Giti รองรับความเร็วสูงสุดถึง 
500 กม./ชม. ระบบเบรกใช้ 
คาลิเปอร์ไทเทเนียม พร้อมจานเบรก 
คาร์บอน-เซรามิกแบบอัปเกรด
ด้านท้ายรถมี 
ดิฟฟิวเซอร์สองชั้น เพื่อสร้างแรงกด (ground effect), 
กระจกหลังแบบซ้อนชั้น, และ 
ไฟท้ายแบบแยกส่วนเชื่อมด้วยโลโก้ Yangwang ภายในห้องโดยสารติดตั้ง 
หน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ, 
คอนโซลกลางทรง T พร้อมหน้าจอสัมผัสแนวตั้ง, ตกแต่งด้วย 
คาร์บอนไฟเบอร์ และ 
Alcantara เบาะแบบ 
bucket seat และพวงมาลัย 
มัลติฟังก์ชัน ช่วยตอกย้ำความเป็นรถสายสนามแข่ง
หัวใจหลักแห่งความแรงคือ 
มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ภายใต้ระบบ 
Yi Sifang ของ BYD บนแพลตฟอร์ม 
ซิลิคอนคาร์ไบด์ 1,200V แต่ละมอเตอร์ให้กำลัง 
555 kW รวมกันเท่ากับ 
2,220 kW (เกือบ 3,000 แรงม้า) ให้ 
อัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก 1,217 แรงม้าต่อน้ำหนัก 1 ตัน ระบบสามารถปรับแรงบิดแยกแต่ละล้อได้มากกว่า 
100 ครั้งต่อวินาที เพื่อควบคุมการกระจายกำลังอย่างแม่นยำ
โครงสร้างช่วงล่างบูรณาการระบบ 
DiSus-X active body control ของ BYD ซึ่งใช้ 
โช้กแบบวาล์วคู่ ปรับการเคลื่อนที่ขึ้น-ลงของล้อได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มการยึดเกาะในช่วงเร่ง เบรก และเข้าโค้ง นอกจากนี้ U9 Xtreme ยังเป็นรุ่นแรกที่ติดตั้ง 
แบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต Blade Battery เกรดสนามแข่ง พร้อม 
ระบบหล่อเย็นสองชั้น รองรับ 
การคายประจุสูงสุด 30C เพื่อจัดการความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
เรียกว่า BYD สร้างชื่อเสียงให้โลกยานยนต์อีกครั้งกับรถ ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ที่เร็วที่สุดในโลกตอนนี้
แซงหน้าทั้ง 
Bugatti Chiron Super Sport 300+ ที่ทำไว้ 
490.5 กม./ชม. และ ตัวจี๊ดอย่าง 
Xiaomi SU7 Ultra																															 
						
เร็วที่สุดในโลก 496.22 กม./ชม. BYD YANGWANG U9 EXTREAM
Yangwang ยังรายงานว่า U9 Xtreme ทำเวลาต่อรอบ Nürburgring Nordschleife ได้ที่ 6:59.157 นาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติรถยนต์ไฟฟ้าผลิตเชิงพาณิชย์เดิมของ Xiaomi SU7 Ultra ที่ทำได้ 7:04.957 นาที U9 Xtreme ได้ทำลายสถิติเดิมของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ที่ทำไว้ 490.5 กม./ชม. https://www.youtube.com/watch?v=Wf0RThR5jMQ
U9 EXTREAM พัฒนามาจาก U9 รุ่นปกติ แต่เสริมด้วยชุดแอโรไดนามิกขั้นสูง เช่น สปลิตเตอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดใหญ่, ฝากระโปรงดีไซน์ช่องคู่ (dual-channel hood) และ สปอยเลอร์หลังแบบ swan-neck ขนาดใหญ่ ตัวถังมีขนาด ยาว 4,991 มม. กว้าง 2,029 มม. สูง 1,351 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,900 มม. ล้ออัลลอยแบบ dual five-spoke ขนาด 20 นิ้ว จับคู่กับยาง GitiSport e·Gtr2 Pro แบบกึ่งสลิค ที่พัฒนาโดยความร่วมมือกับ Giti รองรับความเร็วสูงสุดถึง 500 กม./ชม. ระบบเบรกใช้ คาลิเปอร์ไทเทเนียม พร้อมจานเบรก คาร์บอน-เซรามิกแบบอัปเกรด
ด้านท้ายรถมี ดิฟฟิวเซอร์สองชั้น เพื่อสร้างแรงกด (ground effect), กระจกหลังแบบซ้อนชั้น, และ ไฟท้ายแบบแยกส่วนเชื่อมด้วยโลโก้ Yangwang ภายในห้องโดยสารติดตั้ง หน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ, คอนโซลกลางทรง T พร้อมหน้าจอสัมผัสแนวตั้ง, ตกแต่งด้วย คาร์บอนไฟเบอร์ และ Alcantara เบาะแบบ bucket seat และพวงมาลัย มัลติฟังก์ชัน ช่วยตอกย้ำความเป็นรถสายสนามแข่ง
หัวใจหลักแห่งความแรงคือ มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ภายใต้ระบบ Yi Sifang ของ BYD บนแพลตฟอร์ม ซิลิคอนคาร์ไบด์ 1,200V แต่ละมอเตอร์ให้กำลัง 555 kW รวมกันเท่ากับ 2,220 kW (เกือบ 3,000 แรงม้า) ให้ อัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก 1,217 แรงม้าต่อน้ำหนัก 1 ตัน ระบบสามารถปรับแรงบิดแยกแต่ละล้อได้มากกว่า 100 ครั้งต่อวินาที เพื่อควบคุมการกระจายกำลังอย่างแม่นยำ
โครงสร้างช่วงล่างบูรณาการระบบ DiSus-X active body control ของ BYD ซึ่งใช้ โช้กแบบวาล์วคู่ ปรับการเคลื่อนที่ขึ้น-ลงของล้อได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มการยึดเกาะในช่วงเร่ง เบรก และเข้าโค้ง นอกจากนี้ U9 Xtreme ยังเป็นรุ่นแรกที่ติดตั้ง แบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต Blade Battery เกรดสนามแข่ง พร้อม ระบบหล่อเย็นสองชั้น รองรับ การคายประจุสูงสุด 30C เพื่อจัดการความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
เรียกว่า BYD สร้างชื่อเสียงให้โลกยานยนต์อีกครั้งกับรถ ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ที่เร็วที่สุดในโลกตอนนี้
แซงหน้าทั้ง Bugatti Chiron Super Sport 300+ ที่ทำไว้ 490.5 กม./ชม. และ ตัวจี๊ดอย่าง Xiaomi SU7 Ultra