เช็ก 5 อาการสำคัญก่อนเป็น ‘อัลไซเมอร์’ เตือนล่วงหน้าเป็นปี-10 ปี
"หมอสุรัตน์" แนะเช็ก 5 อาการสำคัญก่อนเป็น "อัลไซเมอร์" หรือ "สมองเสื่อม" ชี้ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าเป็นปีๆ บางคนอาจถึง 10 ปี
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 68 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคสมองเสื่อม โดยระบุว่า
5 อาการที่เกิดก่อนสมองเสื่อม (Alzheimer’s)
หลายคนคิดว่า “สมองเสื่อม = ลืมความจำ” แต่ความจริงแล้วโรค Alzheimer’s ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าเป็นปีๆ อาจถึง 10 ปี ก่อนที่เราจะเห็นอาการหลงลืมชัดเจน นั่นเราเรียก prodrome อาการเตือนสำคัญ เพราะตอนนี้มันมีการตรวจระยะแรกได้แล้ว เช่น ตรวจเลือด หรือ น้ำไขสันหลัง
วันนี้เรามาดู 5 อาการสำคัญที่มักเกิดขึ้น ก่อนเข้าสู่ระยะสมองเสื่อมกันครับ
1.ความจำคำพูดเริ่มถดถอย (Verbal memory decline)
– มักเกิด ประมาณ 8 ปีก่อน ระยะ MCI (Mild Cognitive Impairment สมองเสี่ยงเสื่อม ขั้นต้น )
– ลืมบทสนทนาที่เพิ่งคุยไป หรือจำคำพูดบางอย่างไม่ได้
– คนรอบข้างมักยังไม่ทันสังเกตเห็น เพราะอาการยังไม่รุนแรง
2.การหาคำพูดยากขึ้น เราเรียก word finding difficulty
– เวลาจะพูดหรืออธิบายอะไร มักจะ “นึกไม่ออก”
–
ใช้คำง่ายๆ แทนคำที่เฉพาะเจาะจง เช่น บอกว่า “ไอ้นั่นๆ” แทนที่จะพูดชื่อสิ่งของตรงๆ น้อยๆ ไม่เป็นไร บ่อยๆ ต้องสงสัย
– เป็นอาการที่มักเริ่มชัดขึ้นใน 2–3 ปีก่อน MCI อันนี้เสี่ยง
3.การตัดสินใจและการคิดวิเคราะห์ถดถอย
– ทำงานที่เคยง่ายกลับรู้สึกยุ่งยากขึ้น เช่น การวางแผนการเงิน การขับรถในเส้นทางเดิม
– ตัดสินใจผิดพลาดบ่อยขึ้น หรือทำอะไรช้า อันนี้ สะท้อนถึง “ความยืดหยุ่นในการคิด” ที่เริ่มลดลง การประมวลผลจะเสีย เคยเฉียบคม เริ่มโง่ทึบ
4.อารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนไป
– บางคนอาจมีอาการ วิตกกังวลมากขึ้น หงุดหงิดง่าย หรืออารมณ์แกว่ง
– ไม่ค่อยสนุกกับกิจกรรมที่เคยชอบ อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากอารมณ์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในสมอง เรียกว่า Mild Behavioral impairment (MBI)
5.ความสับสนเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน
– เช่น ลืมว่าวางของไว้ที่ไหน ลืมขั้นตอนเล็กๆ ในการทำงาน งงๆ นี่ชั้นทำอะไรอยู่
– บางคนหลงสถานที่ แม้ยังไม่ถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตมาก แต่เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ควรจับตา
อาการก่อนสมองเสื่อมอาจเริ่มขึ้นตั้งแต่ 8–10 ปีก่อน ที่คนรอบข้างจะสังเกตเห็น โดยเริ่มจาก ความจำคำพูดถดถอย → หาคำพูดยาก → ตัดสินใจไม่ดีเหมือนเดิม → อารมณ์เปลี่ยน → เริ่มสับสนในชีวิตประจำวัน
อันนี้ สงสัย ต้องเจอหมอ หรือติดตามตรวจสมอง จะให้ดี ก็มา test ดีไปอีก ก็เจาะเลือดหาสาร amyloid หรือ tau ขยะอัลไซล์เมอร์ในสมอง....
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/5116056/
‘ยาคลายกล้ามเนื้อ’ ใช้มากไป ทำลายระบบประสาท
Tolperisone เป็นยาคลายกล้ามเนื้อที่ถูกใช้บรรเทาเมื่อเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ แต่หากใช้ยาบ่อยเกินไปหรือใช้โดยไม่มีการดูแลจากแพทย์ อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงและกระทบต่อระบบประสาท
เมื่อเกิดอาการปวดเนื้อปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม หนึ่งในวิธีที่ถูกเลือกใช้บรรเทาหรือแก้ไขอาการดังกล่าว นั่นคือการกินยาคลายกล้ามเนื้อ แต่ยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงที่อาจกระทบกับร่างกายได้เช่นกัน
สาระน่ารู้จาก “คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล” มีคำแนะนำเกี่ยวกับสรรพคุณและข้อควรระวังของยาดังกล่าว เพื่อการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง นิยมใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง อาทิ ผู้ป่วยปวดเมื่อยจากการออกกำลังกาย ผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบ หรือผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ยานี้มักช่วยลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ลดความเจ็บปวด และปรับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ข้อดีของยา Tolperisone คือมีผลกดระบบประสาทส่วนกลางน้อยกว่ายาคลายกล้ามเนื้อกลุ่มอื่น จึงทำให้ง่วงซึมน้อยกว่า จึงเหมาะกับคนที่ยังต้องใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ อย่างไรก็ตาม การใช้ยานี้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะหากใช้ไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียในระยะยาว
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Tolperisone
ยา Tolperisone ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยการยับยั้งการรับความรู้สึกเจ็บปวดจากเส้นประสาทไปยังไขสันหลัง ช่วยลดการตอบสนองของรีเฟล็กซ์ในไขสันหลัง ทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงและหดเกร็งคลายตัว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เมื่อใช้ยา Tolperisone ต่อเนื่องหรือเกินขนาด
แม้ยา Tolperisone มีแนวโน้มปลอดภัยสูงกว่ายาบางชนิด แต่หากใช้ต่อเนื่องหรือใช้ในขนาดที่สูงเกินไป ก็จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ อาทิ
-ง่วงนอน
-อาการวิงเวียน ปวดศีรษะ
-คลื่นไส้
-กล้ามเนื้ออ่อนแรงสับสน
-เกิดอาการแพ้ยาในบางราย
ในกรณีที่ผู้ป่วยใช้ยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจเกิดอันตรายจากการสะสมของตัวยาในร่างกาย หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ หรือไต
ผลกระทบจาการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อบ่อย ๆ
การใช้ยาคลายกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่องอาจส่งผลต่อสมองและระบบประสาทส่วนกลางได้ หากใช้ยา Tolperisone เป็นเวลานาน โดยไม่มีการติดตามจากแพทย์ อาจเกิดผลกระทบ เช่น ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง สมาธิลดลง หรือมีอาการง่วงนอนเรื้อรัง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว
ในบางกรณีอาจเกิดความเคยชินของระบบประสาท ทำให้ต้องใช้ยาปริมาณมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลเท่าเดิม จึงควรใช้ยานี้เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น และต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์
ภาวะดื้อยา
การใช้ยา Tolperisone ติดต่อกันนานเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะดื้อยา คือร่างกายเริ่มไม่ตอบสนองต่อยาในขนาดเดิม ทำให้ต้องเพิ่มขนาดยาเพื่อให้ได้ผล ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
แม้ Tolperisone จะไม่ใช่ยาที่ออกฤทธิ์เสพติด แต่การใช้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็น ก็อาจทำให้เกิดการพึ่งพายาในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง จึงควรเว้นระยะการใช้และประเมินอาการร่วมกับแพทย์เป็นระยะ
แนวทางการใช้ Tolperisone อย่างปลอดภัย
เพื่อความปลอดภัย ควรใช้ Tolperisone เฉพาะเมื่อแพทย์สั่ง และไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป หากมีอาการดีขึ้นแล้ว ควรหยุดใช้ตามคำแนะนำ ไม่ควรปรับขนาดยาเอง หรือใช้ยาเดิมซ้ำเมื่ออาการกลับมาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
การติดตามผลการรักษาเป็นระยะ การสังเกตอาการข้างเคียง และการแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เป็นสิ่งสำคัญมาก เช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกร็งซ้ำ
ทางเลือกอื่นแทนยา Tolperisone
หากไม่ต้องการพึ่งยา Tolperisone เป็นประจำ ยังมีทางเลือกอื่นที่สามารถช่วยลดอาการเกร็งหรือปวดกล้ามเนื้อได้ อาทิ การทำกายภาพบำบัด การใช้ความร้อน-ความเย็น การออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อ หรือเทคนิคการผ่อนคลาย อาทิ การนวด การฝังเข็ม นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรบางชนิดที่ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ เช่น ยานวดขมิ้นชัน ยานวดไพล แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะสมุนไพรบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยาแผนปัจจุบัน
Tolperisone เป็นยาคลายกล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเมื่อใช้อย่างเหมาะสม แต่การใช้ยาบ่อยเกินไปหรือใช้โดยไม่มีการดูแลจากแพทย์ อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ภาวะดื้อยา และผลกระทบต่อระบบประสาท ดังนั้น การเลือกใช้ยาอย่างรู้เท่าทัน พร้อมพิจารณาทางเลือกอื่นควบคู่กัน คือแนวทางที่ช่วยให้เราดูแลกล้ามเนื้อได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว....
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/5115947/
มี 2 เรื่อง เช็ก 5 อาการก่อนเป็น ‘อัลไซเมอร์’ เตือนล่วงหน้าเป็นปี-10 ปี และ ‘ยาคลายกล้ามเนื้อ’ ใช้มากไป ทำลายระบบประสาท
"หมอสุรัตน์" แนะเช็ก 5 อาการสำคัญก่อนเป็น "อัลไซเมอร์" หรือ "สมองเสื่อม" ชี้ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าเป็นปีๆ บางคนอาจถึง 10 ปี
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 68 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคสมองเสื่อม โดยระบุว่า
5 อาการที่เกิดก่อนสมองเสื่อม (Alzheimer’s)
หลายคนคิดว่า “สมองเสื่อม = ลืมความจำ” แต่ความจริงแล้วโรค Alzheimer’s ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าเป็นปีๆ อาจถึง 10 ปี ก่อนที่เราจะเห็นอาการหลงลืมชัดเจน นั่นเราเรียก prodrome อาการเตือนสำคัญ เพราะตอนนี้มันมีการตรวจระยะแรกได้แล้ว เช่น ตรวจเลือด หรือ น้ำไขสันหลัง
วันนี้เรามาดู 5 อาการสำคัญที่มักเกิดขึ้น ก่อนเข้าสู่ระยะสมองเสื่อมกันครับ
1.ความจำคำพูดเริ่มถดถอย (Verbal memory decline)
– มักเกิด ประมาณ 8 ปีก่อน ระยะ MCI (Mild Cognitive Impairment สมองเสี่ยงเสื่อม ขั้นต้น )
– ลืมบทสนทนาที่เพิ่งคุยไป หรือจำคำพูดบางอย่างไม่ได้
– คนรอบข้างมักยังไม่ทันสังเกตเห็น เพราะอาการยังไม่รุนแรง
2.การหาคำพูดยากขึ้น เราเรียก word finding difficulty
– เวลาจะพูดหรืออธิบายอะไร มักจะ “นึกไม่ออก”
– ใช้คำง่ายๆ แทนคำที่เฉพาะเจาะจง เช่น บอกว่า “ไอ้นั่นๆ” แทนที่จะพูดชื่อสิ่งของตรงๆ น้อยๆ ไม่เป็นไร บ่อยๆ ต้องสงสัย
– เป็นอาการที่มักเริ่มชัดขึ้นใน 2–3 ปีก่อน MCI อันนี้เสี่ยง
3.การตัดสินใจและการคิดวิเคราะห์ถดถอย
– ทำงานที่เคยง่ายกลับรู้สึกยุ่งยากขึ้น เช่น การวางแผนการเงิน การขับรถในเส้นทางเดิม
– ตัดสินใจผิดพลาดบ่อยขึ้น หรือทำอะไรช้า อันนี้ สะท้อนถึง “ความยืดหยุ่นในการคิด” ที่เริ่มลดลง การประมวลผลจะเสีย เคยเฉียบคม เริ่มโง่ทึบ
4.อารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนไป
– บางคนอาจมีอาการ วิตกกังวลมากขึ้น หงุดหงิดง่าย หรืออารมณ์แกว่ง
– ไม่ค่อยสนุกกับกิจกรรมที่เคยชอบ อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากอารมณ์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในสมอง เรียกว่า Mild Behavioral impairment (MBI)
5.ความสับสนเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน
– เช่น ลืมว่าวางของไว้ที่ไหน ลืมขั้นตอนเล็กๆ ในการทำงาน งงๆ นี่ชั้นทำอะไรอยู่
– บางคนหลงสถานที่ แม้ยังไม่ถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตมาก แต่เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ควรจับตา
อาการก่อนสมองเสื่อมอาจเริ่มขึ้นตั้งแต่ 8–10 ปีก่อน ที่คนรอบข้างจะสังเกตเห็น โดยเริ่มจาก ความจำคำพูดถดถอย → หาคำพูดยาก → ตัดสินใจไม่ดีเหมือนเดิม → อารมณ์เปลี่ยน → เริ่มสับสนในชีวิตประจำวัน
อันนี้ สงสัย ต้องเจอหมอ หรือติดตามตรวจสมอง จะให้ดี ก็มา test ดีไปอีก ก็เจาะเลือดหาสาร amyloid หรือ tau ขยะอัลไซล์เมอร์ในสมอง....
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5116056/
‘ยาคลายกล้ามเนื้อ’ ใช้มากไป ทำลายระบบประสาท
Tolperisone เป็นยาคลายกล้ามเนื้อที่ถูกใช้บรรเทาเมื่อเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ แต่หากใช้ยาบ่อยเกินไปหรือใช้โดยไม่มีการดูแลจากแพทย์ อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงและกระทบต่อระบบประสาท
เมื่อเกิดอาการปวดเนื้อปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม หนึ่งในวิธีที่ถูกเลือกใช้บรรเทาหรือแก้ไขอาการดังกล่าว นั่นคือการกินยาคลายกล้ามเนื้อ แต่ยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงที่อาจกระทบกับร่างกายได้เช่นกัน
สาระน่ารู้จาก “คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล” มีคำแนะนำเกี่ยวกับสรรพคุณและข้อควรระวังของยาดังกล่าว เพื่อการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง นิยมใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง อาทิ ผู้ป่วยปวดเมื่อยจากการออกกำลังกาย ผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบ หรือผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ยานี้มักช่วยลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ลดความเจ็บปวด และปรับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ข้อดีของยา Tolperisone คือมีผลกดระบบประสาทส่วนกลางน้อยกว่ายาคลายกล้ามเนื้อกลุ่มอื่น จึงทำให้ง่วงซึมน้อยกว่า จึงเหมาะกับคนที่ยังต้องใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ อย่างไรก็ตาม การใช้ยานี้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะหากใช้ไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียในระยะยาว
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Tolperisone
ยา Tolperisone ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยการยับยั้งการรับความรู้สึกเจ็บปวดจากเส้นประสาทไปยังไขสันหลัง ช่วยลดการตอบสนองของรีเฟล็กซ์ในไขสันหลัง ทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงและหดเกร็งคลายตัว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เมื่อใช้ยา Tolperisone ต่อเนื่องหรือเกินขนาด
แม้ยา Tolperisone มีแนวโน้มปลอดภัยสูงกว่ายาบางชนิด แต่หากใช้ต่อเนื่องหรือใช้ในขนาดที่สูงเกินไป ก็จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ อาทิ
-ง่วงนอน
-อาการวิงเวียน ปวดศีรษะ
-คลื่นไส้
-กล้ามเนื้ออ่อนแรงสับสน
-เกิดอาการแพ้ยาในบางราย
ในกรณีที่ผู้ป่วยใช้ยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจเกิดอันตรายจากการสะสมของตัวยาในร่างกาย หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ หรือไต
ผลกระทบจาการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อบ่อย ๆ
การใช้ยาคลายกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่องอาจส่งผลต่อสมองและระบบประสาทส่วนกลางได้ หากใช้ยา Tolperisone เป็นเวลานาน โดยไม่มีการติดตามจากแพทย์ อาจเกิดผลกระทบ เช่น ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง สมาธิลดลง หรือมีอาการง่วงนอนเรื้อรัง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว
ในบางกรณีอาจเกิดความเคยชินของระบบประสาท ทำให้ต้องใช้ยาปริมาณมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลเท่าเดิม จึงควรใช้ยานี้เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น และต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์
ภาวะดื้อยา
การใช้ยา Tolperisone ติดต่อกันนานเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะดื้อยา คือร่างกายเริ่มไม่ตอบสนองต่อยาในขนาดเดิม ทำให้ต้องเพิ่มขนาดยาเพื่อให้ได้ผล ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
แม้ Tolperisone จะไม่ใช่ยาที่ออกฤทธิ์เสพติด แต่การใช้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็น ก็อาจทำให้เกิดการพึ่งพายาในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง จึงควรเว้นระยะการใช้และประเมินอาการร่วมกับแพทย์เป็นระยะ
แนวทางการใช้ Tolperisone อย่างปลอดภัย
เพื่อความปลอดภัย ควรใช้ Tolperisone เฉพาะเมื่อแพทย์สั่ง และไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป หากมีอาการดีขึ้นแล้ว ควรหยุดใช้ตามคำแนะนำ ไม่ควรปรับขนาดยาเอง หรือใช้ยาเดิมซ้ำเมื่ออาการกลับมาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
การติดตามผลการรักษาเป็นระยะ การสังเกตอาการข้างเคียง และการแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เป็นสิ่งสำคัญมาก เช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกร็งซ้ำ
ทางเลือกอื่นแทนยา Tolperisone
หากไม่ต้องการพึ่งยา Tolperisone เป็นประจำ ยังมีทางเลือกอื่นที่สามารถช่วยลดอาการเกร็งหรือปวดกล้ามเนื้อได้ อาทิ การทำกายภาพบำบัด การใช้ความร้อน-ความเย็น การออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อ หรือเทคนิคการผ่อนคลาย อาทิ การนวด การฝังเข็ม นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรบางชนิดที่ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ เช่น ยานวดขมิ้นชัน ยานวดไพล แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะสมุนไพรบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยาแผนปัจจุบัน
Tolperisone เป็นยาคลายกล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเมื่อใช้อย่างเหมาะสม แต่การใช้ยาบ่อยเกินไปหรือใช้โดยไม่มีการดูแลจากแพทย์ อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ภาวะดื้อยา และผลกระทบต่อระบบประสาท ดังนั้น การเลือกใช้ยาอย่างรู้เท่าทัน พร้อมพิจารณาทางเลือกอื่นควบคู่กัน คือแนวทางที่ช่วยให้เราดูแลกล้ามเนื้อได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว....
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5115947/