ตามรอย ไทม์ไลน์วิวัฒนาการผีเสื้อ ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ Part 3

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขณะนี้เรายืนอยู่ ณ ช่วงกลางเข้าปลายครีเทเชียส
หรือก็คือสัก 105-85 mya
พูดได้สั้นๆและชัดเจนว่า "หายนะ"
โลกเขย่ารุนแรงดุจดั่งกอดซิลล่าปรากฏตัว

มหาทวีปกอนด์วานาแยกเป็นเสี่ยง
อเมริกาใต้หลุดออกจากแอฟริกา
ออสเตรเลียแยกตัวออกจากแอนตาร์กติกา

ทวีปแยกตัวขนาดนี้ แน่นอนว่า แผ่นดินไหวมหาศาล
อภิมหาภูเขาไฟระเบิดจนมี คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon dioxide) ท่วมท้นชั้นบรรยากาศ
ผืนเปลือกโลกผลักตัวเบียดดันกันไปมาจนน้ำทะเลสูงกว่าค่าเฉลี่ยปัจจุบันกว่า 200 เมตร
ไม่ได้แค่จม ครอบน้ำแข็งขั้วโลก (Polar ice cap) ลงอย่างสมบูรณ์
จนโลกเสียกระจกสะท้อนรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์
แต่ยังมีต้นไม้มากมายถูกจมลงโดยที่ยังไม่ตาย
เกิด การเจือปนแร่ธาตุ (Nutrient influx) ลงน้ำอย่างบ้าคลั่ง
ทั้งฟอสเฟตเอย ไนเทรทเอย ไหนจะ ซีลีเคท ซัลเฟท อีก
โหสาหร่ายชอบสิครับ
โตไว ตายไว ลดออกซิเจนลงฮวบฮาบ

ไหนจะ ลาวาไหลลงทะเล (Volcanic outpouring)
เติมโลหะให้สาหร่าย โหนี่มันสรวงสวรรค์ all you can eat ชัดๆ
แอลจีบูม ยิ่งสวบออกซิเจนเข้าไปอีก

สภาพห้องปิดตาย พืชพรรณพาล้มตาย โดยเฉพาะช่วงพีค 94 mya
แต่ใดๆแล้ว พื้นที่สีเขียว มันต้องมีไง มันคือจุดเริ่มห่วงโซ่อาหารอะครับ
วิวัฒนาการเลยแก้ปัญหาลวกๆ ด้วยการผักชีโรยหน้าด้วยพืชที่แพร่พันธุ์ได้ไว
และที่สำคัญ ชอบสภาพแวดล้อม "ห้องปิดตาย" อย่าง หญ้า

ในช่วงที่หญ้าปกครองโลก เลพีโดเองก็ปรับตัวลดขนาดตัวเองลง
เพราะหญ้ามันเล็กแถมคุณค่าโภชนาการแย่มาก
ตัวใหญ่ก็ยิ่งเสี่ยงตายเพราะจะต้องการพลังงานมากขึ้นครับ


มาถึงจุดนี้คุณอาจจะมองว่าถูกต้อง กับการย่อส่วน ก็ เราเปลี่ยนเขาไม่ได้เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเองนี่นา
โน ครับ นี่ไม่ใช่มายด์เซทของธรรมชาติ เลย ! เปลี่ยนคือปรับหมดครับ ไปทั้งระบบ
เราไม่สามารถหาเอาความคิดอารยธรรมมนุษย์ที่พึ่งก่อกำเนิดมาหลักหมื่นปี ไปต่อต้านร้อยล้านปีแห่งวิวัฒนาการครับ
ยังไงแล้วมนุษย์ก็ยังไม่ฉลาดมากพอที่จะขึ้นไปอยู่ ณ จุดสูงสุดของโลกครับ

ด้วยความตระหนักว่าหญ้านี่มันใช้พื้นที่โดยไม่คุ้มประโยชน์ไปมาก
เห็นทีถึงคราวของวิวัฒนาการพืชบ้างหละ



16 Family Andesianidae
Fossil Record (FR) : N/A
Etymology (E) : Andes

ก่อนจะไปดูวิวัฒนาการดังกล่าว ขอคั่นนิดนึงด้วย เทือกเขาแอนดีส (Andes range)
เอาเข้าจริงๆแล้ว หญ้าก็ไม่ได้แทนที่ทุกอย่างครับ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่แยกออกมาจากกอนด์วานา หรือที่เราเรียกกันว่า โลกใหม่ (New world)
ยังมีพืชโบราณมากมายที่ยังรอดอยู่ โดยเฉพาะกลุ่ม สน และเครือญาติ ในอเมริกาใต้

ขึ้นไปบน ทุ่งไม้พุ่มแอนดีส (Andean shrubland) ตามที่มาชื่อวงศ์
แถบนั้นลมแรงมาก จึงมีเส้นบนปีกซับซ้อนขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแรง.


และตัวก็ต้องใหญ่ เพื่อต้านลมได้ดีขึ้นครับ
ไม่เจาะแค่ใบแล้วด้วยครับ หาเจาะลำต้นด้วย เพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นจากทั้งลมและความแห้งแล้ง
ข้อมูลน้อยมาก ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันกินอะไรกันแน่ แต่เชื่อว่าเป็น บีชใต้ (Southern beech) ที่กำลังขยายเขตในบริเวณนั้นพอดี



รู้ไหมครับว่าธรรมชาติ โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ มันฟื้นตัวได้ไวมากๆเลย
หญ้าเอง มาโดยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบขอไปที QA แห่งวิวัฒนาการไม่ปล่อยให้อยู่นานหรอกครับ
ประมาณ 92-90 mya ก็เริ่มกลับมามีพุ่มไม้เตี้ยและการกลับมาบานสะพรั่งของพืชดอกแล้วครับ

แถมค้นพบว่าการเจาะใบ มันอันตรายเกินไปครับ ยิ่งกับหญ้า ถ้าตาดีหน่อยมันเห็นได้ง่าย
แถมต้นเตี้ยๆ ต่อให้จะราบตามหน้าดิน แต่มันก็คือการไม่มีกำแพงกันลมครับ
หญ้าไกลต้นลม ยังไงก็แกว่งไกวรุนแรงกว่าไม้สูงที่ระยะเท่ากัน
ได้เมาหญ้า แบบที่เราเมาเรือกันพอดี

เลยไปเจาะลำต้นครับ
เป็นที่มาของ Superfamily Adeloidea (17th - 21th) จาก Adelos ที่แปลว่า ซ่อนตัว

แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องตัวเล็กแล้ว
ด้วยขนาดเฉลี่ย 5-25 มม.
กลับมาบินเกี้ยวเท่ๆด้วยเลย


Nemophora degeerella, Yellow-barred longhorn moth

17 Family Incurvariidae
FR : N/A (คาดว่า 115-90 mya)
E : Incurvus (โค้งงอ)

มาจากปีกทรงโค้งตอนพัก

Incurvaria masculella, Feathered leafcutter moth

FR ที่ทับซ้อนกับเจ้าหลานชายแห่ง Superfamily Nepticuloidea (14th - 15th) ขนาดนี้
มันคือ Plan B ของจริงเลยหละครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เจาะใบหญ้าดูทรงไม่น่ารอด เลยมองการณ์ไกลพัฒนาเจาะลำต้นไปควบคู่ด้วยเลย
แล้วก็ตามนั้นครับ ผู้หลบซ่อน ประสบความสำเร็จและได้ไปต่อ

แต่เนื่องจากช่วงนั้น ปลายครีเทเชียส พืชล้มตายไปมาก เหลือไม่กี่ชนิด ถ้าจะไม่ลงไปหญ้าก็ต้องพรางตัวเก่งมากหน่อยหละ
ตัวอ่อนเลยมีการตัดใบไม้มาหุ้มเหนือลำตัวขณะคลานระหว่างรูเจาะ หรือตอนย้ายต้นไม้ ด้วยครับ
และใบไม้ที่เอามาบังตัวนี้ ยังช่วยหลบ ต่อปรสิต (Parasitoid wasp) ด้วยครับ

ขยายความต่อปรสิต
คือมันตั้งแต่ยุคหลานชายแล้วครับ
ด้วยความที่การแข่งขันอยู่รอดสูงอะ ต่อบางชนิดก็ไปเจาะตัวอ่อนเลพีโด แล้วแอบวางไข่ฝังในตัวครับ
นี่หละถึงบอกว่า เจาะใบหญ้ามันอันตราย

ในช่วงเวลานี้ พืชดอกก็กลับมาเพิ่มความหลากหลายอีกครั้ง จากเดิมทีพัฒนาให้ตัวอ่อนมุดหญ้าตากแดดมาแล้ว
จะอัพเกรดให้อยู่ในกลางวันดีขึ้น เพื่อตามดอกไม้ที่มักบานใต้แสงอาทิตย์ ก็คงไม่ได้ยากอะไร
ทำให้ 17th คือกลุ่มแรกครับที่
1. พัฒนาปีกสำหรับบินระยะไกล
2. ปรับดวงตาให้เหมาะสมต่อสภาพกลางวัน
3. ออกมาใช้ชีวิตในทุ่งกว้าง ไม่หลบซ่อนอีกต่อไป
4. มี หลวดงวง (Proboscis) ที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ สำหรับดูดน้ำหวานดอกไม้


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่