รีวิวผ่าตัดต่อมทอนซิล แก้ปัญหานอนกรน+หยุดหายใจตอนนอน

เรื่องของเรื่องคือ จขกท เป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหานอนกรนหนักมาก และมีภาวะหยุดหายใจตอนนอนค่ะ เราจะมาแชร์เกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้น การวินิจฉัยของหมอ รวมถึงเรื่องของการผ่าตัดรักษา เผื่อว่าใครมีปัญหาเหมือนเราจะได้เข้ามาอ่าน (และเตรียมใจก่อนได้)

อาการ
- ช่วงกลางปีที่แล้วเราเริ่มมีอาการนอนกรนค่ะ ตอนแรกคิดว่าอาการกรนของเราไม่หนัก แค่เหนื่อยเลยกรน แต่พอนานๆไปมันหนักเข้า เริ่มกรนดังและถี่ ทำให้คนที่อยู่ด้วยไม่สามารถนอนได้ ปลุกมาก็นอนกรนต่อ >> วิธีแก้ไขขั้นต้นคือเรานอนตะแคง แต่ก็ไม่ได้ช่วยมากนะคะ เพราะคนเราก็พลิกตัวตอนนอนอยู่ดี
- น้องชายที่นอนด้วยกันบอกว่า เราเคยตื่นมาสะดุ้งเฮือกเหมือนพยายามเอาอากาศเข้าปอด หรือบางทีมีอาการสำลัก
- ช่วงต้นปีนี้ เราต้องเดินทางไกลด้วยรถไฟ (รถนอน) และรถทัวร์ค่ะ ด้วยสภาพที่นอนคือมันนอนตะแคงไม่ได้ ทำให้เราตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อย พอตื่นมาจะรู้สึกเลยว่าตัวเองกลั้นหายใจอยู่ หรือรู้สึกได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองกรนเพราะมีการหายใจติดขัด มีเสียงตอนตื่น
- ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เริ่มรู้สึกว่าตัวเองนอน 6-8 ชม.ไม่เพียงพอ จะมีอาการง่วงตอนเช้าเสมอ

ปรึกษาแพทย์
- จากอาการด้านบนทั้งหมด แม่เราเลยให้เราลองไปปรึกษาหมอที่คลินิคหู คอ จมูกแถวบ้านค่ะ หมอก็สอบถามว่ามีอาการยังไงบ้าง ง่วงไหมตอนกลางวัน มีอาการป่วยเจ็บคอบ่อยมั้ย และหมอก็ส่องคอเราค่ะ
- หมอบอกว่า ต่อมทอนซิลเราค่อนข้างโต รวมถึงเพดานลิ้นไก่ต่ำ อาจจะไปขัดขวางเวลาหายใจตอนนอน ทำให้ร่างกายรับออกซิเจนไม่พอและพยายามเฮือกเอาอากาศตอนดึก ส่วนตอนกลางวันที่เพลียก็เพราะร่างกายไม่ได้พักผ่อนเพียงพอค่ะ วิธีการแก้ไขคือตัดต่อมทอนซิล และถ้าไม่หายก็ค่อยทำ sleep test หาสาเหตุต่อไป
- เราก็เอาไปปรึกษาแม่ค่ะ และตกลงกันว่าจะตัดต่อมทอนซิล โดยเราถามผลข้างเคียงจากการตัด หมอบอกว่า "ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่ตัด มีแน่" เพี้ยนเพลีย

การรักษา

1.วันแรก
- เรานอนโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 4 คืน 5 วันค่ะ โดยคืนแรกไม่มีอะไรมาก ห้ามกินน้ำกินอาหารตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป เพื่อที่จะผ่าตัดในวันต่อไป แนะนำว่าวันแรกที่เข้าพัก เตรียมสารเหลวเช่นน้ำหวานและไอศกรีมที่อยากกินไว้ในตู้เย็นไว้เลยค่ะ และถ้าจะให้ดีเตรียมกระดาษ ปากกาไว้ เพราะผ่าตัดเสร็จวันแรกๆจะพูดอะไรไม่ได้เลยค่ะ ไม่มีเสียง

2. วันที่ 2
- หกโมงเช้าวันถัดมา เราก็ได้ให้น้ำเกลือค่ะ แล้วก็นอนรอในชุดเตรียมผ่าตัด รอเขามาเข็นไปตอนประมาณแปดโมง พอเข้าไปในห้องผ่าตัด หมอวิสัญญีก็จะถามชื่อ นามสกุลเราเพื่อยืนยันตัวคนไข้ ครอบหน้ากากออกซิเจน และฉีดยาสลบเข้าตรงที่เดียวกับที่ให้น้ำเกลือค่ะ ยาจะจี๊ดๆแสบๆนิดหน่อย แล้วหลังจากนั้นไม่ถึงยี่สิบวิเราสลบเลย
- ผ่าตัดใช้เวลาไม่นานค่ะ เนื่องจากเป็นผ่าตัดเล็ก 1 ชม.เท่านั้น เท่าที่รู้คือหมอจะใช้เลเซอร์จี้ต่อมทอนซิล ของเราโดนสองข้างเพราะใหญ่ทั้งคู่ค่ะ ข้างละ 3 เซนกว่าได้
- หลังจากนั้นก็จะมาอยู่ในห้องพักฟื้นค่ะ พยาบาลจะเรียกเราและถามชื่ออีกครั้ง เราก็ตอบไปแต่ไม่มีเสียง 5555 แถมเรามึนหัวมาก เพราะฤทธิ์ยาสลบ ขยับตัวไม่ได้เลยเพราะมึน เหมือนโดนกดลงเตียง ส่วนแผลก็เจ็บคอตามสภาพ กลืนน้ำลายลำบากเหมือนเจ็บคอป่วย แต่ไม่รับรู้ถึงเลือดนะคะ สักพักก็จะมีบุรุษพยาบาลมารับค่ะ เราที่พอจะลุกได้ก็ย้ายลงเตียงเข็นเอง แล้วไปพักในห้องพิเศษต่อ
- พอถึงห้อง เราขอกินน้ำเย็นๆเลยค่ะ หิวน้ำมาก แล้วพยาบาลก็จะฉีดมอร์ฟีนค่ะ เพื่อแก้ปวดแผลและจะนอนพักได้ ด้วยฤทธิ์ยามันอาจทำให้ง่วงด้วยค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหมอจะสั่งยาตัวนี้ให้ด้วยมั้ยนะคะ ไม่น่าจะเป็นทุกเคสที่สั่ง
- พอตื่นมาหายมึนน้อยลง แต่ลำบากกินน้ำมาก กลืนแล้วเหมือนมีอะไรดันน้ำให้พุ่งออก (คิดว่าอาจจะเพราะร่างกายกันสำลัก) ส่วนระดับความเจ็บประมาณเราเป็นต่อมทอนซิลอักเสบกันค่ะไม่เจ็บมาก แต่มันดันเจ็บสองข้างนี่สิ เราพยายามกินของเย็นๆที่เตรียมมาแต่ก็กินมากไม่ไหว ช่วงนี้จะทำได้แค่กินของเหลวกับนอนค่ะ
- เราสามารถแปรงฟันได้ตามปกตินะคะ และบ้วนปากด้วยน้ำยาสูตรอ่อนๆหรือผสมน้ำได้ ระวังอย่าแปรงลึกถึงแผลก็พอค่ะ

3.วันที่ 3-5 เป็นต้นไป
- ยังคงเหมือนวันที่ 2 คือเจ็บคอ แต่จะเริ่มน้อยลง กินน้ำได้คล่องขึ้นค่ะ จะมีหิวข้าวบ้างแล้วเพราะกินได้แต่น้ำ ส่วนเรื่องยาหมอมีให้กินยาพารากับยาamoxicillinแบบน้ำเพิ่ม ส่วนตัวเราขอยาพ่นคอด้วยค่ะ บอกเลยว่าอันนี้ตัวเทพ ช่วยให้ไม่เจ็บคอระหว่างวันได้เยอะเลยค่ะ
- หมอจะมาส่องคอเช็คแผลและถามอาการค่ะ ของเราแผลไม่มีปัญหา หมอแจ้งว่าให้กินเหลวต่อไปอีก 7 วันค่ะ และวีคต่อๆไปค่อยกินอาหารอ่อน และอาหารปกติได้ตามลำดับ และให้ออกรพในวันที่ 5 ได้เลยค่ะ
- แนะนำว่าวีคอาหารเหลว ใครแพ้นมอย่าพยายามกินนมนะคะ เดี๋ยวจะท้องเสียไปหลายวัน ไม่มีแรงแบบเรา 55555555

ในวีคอาหารอ่อน เราเริ่มกินที่ nesle cerelac ของเด็กอ่อนค่ะ 55555555555 เพราะมันกินแล้วสบายคอ แล้วค่อยขยับๆเป็นโจ๊ก หรือก๋วยจั๊บญวน (แค่เส้นกับน้ำ) รวมๆประมาณ 20 กว่าวันค่ะที่เรากินปกติไม่ได้
เพี้ยนไม่สบาย

ผลลัพธ์
หลังผ่าตัดคนรอบข้างบอกเราไม่กรนเลย มีแค่ช่วงวันแรกหลังผ่าที่มีบ้าง เพราะผ่าตัดมาละแผลบวม การนอนรู้สึกนอนเต็มอิ่มขึ้นค่ะ โดยรวมดีขึ้นมาก หมอบอกว่าจะช่วยเรื่องป่วยเป็นทอนซิลอักเสบบ่อยๆด้วยค่ะ เรารู้สึกว่ามันดีมากเลยนะที่ไปตัดออกมา


ค่ารักษาพยาบาล
- ค่ารักษา ผ่าตัด ใช้สิทธิ์ประกันสังคมค่ะ
- ค่าห้องพัก ส่วนต่างจากประกันสังคมเรามีจ่ายเพิ่ม 4,400 บาทค่ะ
รวมๆเราว่าโอเคมาก เพราะถ้าไปทำที่เอกชนน่าจะ50,000-100,000 ได้เลย

สำหรับคนที่มีปัญหาที่ยังตัดสินใจอยู่ เราแนะนำให้ปรึกษาหมอได้เลยค่ะ ถ้าสาเหตุเป็นแบบเดียวกับเรา ทำใจเจ็บกับกินไรไม่ได้อย่างเดียว ผ่าเสร็จโล่ง นอนหลับสบายใจยาวๆค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่