JJNY : โพลปชช.หวังแก้ปัญหาศก.ปากท้อง│‘ณัฐชา’ ฝากอย่าลืมสวัสดิการปช│‘อมรัตน์’อัดพท.‘อันธพาลชน’│ชาวชิคาโกต่อต้านการส่งทหาร

โพลประชาชนหวัง”อนุทิน” นายกฯคนที่32 แก้ปัญหาศก.ปากท้อง
.
.
“สวนดุสิตโพล” หวัง”อนุทิน” นายกฯคนที่32 แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน กอบกู้ความไว้วางใจ
.
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง”ความคาดหวังต่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 32″ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,191 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่2-5 กันยายน 2568 พบว่า ภารกิจเร่งด่วนที่อยากให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ดำเนินการมากที่สุด คือการแก้ปัญหาค่าครองชีพและปากท้อง ร้อยละ 68.26 ในขณะที่ความเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 32จะสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 56.09 นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ76.66 เห็นด้วยหากรัฐบาลใหม่ประกาศยุบสภาภายใน 4 เดือน เพื่อเลือกตั้งใหม่และสิ่งที่อยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่มากที่สุดคือ ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 53.81
.
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ไม่ว่านายกฯ คนใหม่จะเป็นใครประชาชนก็ยังคงกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และปากท้องจนมีเสียงเรียกร้องให้คืนอำนาจผ่านการยุบสภาในเวลาอันสั้น สะท้อนภาวะ “วิกฤตความศรัทธาต่อวาจาของนักการเมือง”การทำหน้าที่ของนายกฯ ใหม่จึงเต็มไปด้วยความท้าทายทั้งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ บริหารงานอย่างโปร่งใสและทำตามสัญญาที่ให้ไว้เพื่อกอบกู้ความไว้วางใจจากประชาชน
.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจพร พึงไชย อาจารย์หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมืองมหาวิทยาลัยสวนดุสิต อธิบายว่า ผลสำรวจสะท้อนถึงปัญหาปากท้องซึ่งยังเป็นปัญหาที่ประชาชนต้องการให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาแก้ไขมากที่สุด นอกจากนี้ความเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้อยู่ในระดับปานกลางก็เป็นสัญญาณว่าประชาชนให้โอกาสนายกรัฐมนตรีในการนำพาประเทศ เท่ากับว่าจากนี้นายกรัฐมนตรีจะต้องเร่งสร้างผลงานเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นจากประชาชน ดังนั้นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลควรดำเนินการ คือ การวางยุทธศาสตร์และสิ่งสำคัญที่สุดคือการแสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีความคาดหวังต่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
.
ซึ่งผลสำรวจนี้ประชาชนต้องการให้เร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและโปร่งใสรวมถึงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อหวังให้มีรัฐบาลที่มีความชอบธรรม และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวด้วยเพราะปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และที่สำคัญภายใต้ ครม.อนุทิน 1จะเป็นอย่างไรคงต้องติดตาม
.

.
‘ณัฐชา’ ฝากรัฐบาลใหม่ อย่าลืมสวัสดิการประชาชน แม้เวลาสั้น แต่สามารถทำได้ทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_5358318
.
‘ณัฐชา’ ฝากรัฐบาลใหม่ อย่าลืมสวัสดิการประชาชน แม้เวลาสั้น แต่สามารถทำได้ทันที
.
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม.พรรคประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ว่า ในห้วงเวลาที่สังคมกำลังจับตาไปที่ “หน้าตาคณะรัฐมนตรีใหม่” ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่สำคัญ นั่นคือ การเปิดทางสู่ประชามติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนนั้น ตนอยากฝากอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรถูกละเลย คือการให้โอกาสประชาชนไทยได้อ้าปากลืมตาผ่านการสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า
.
แม้รัฐบาลใหม่นี้จะมีเวลาจำกัด แต่ยังมีหลายเรื่องที่รัฐบาลชุดก่อนเคยรับปากกับประชาชน แต่ขาดความจริงใจและความจริงจังในการผลักดัน ทั้งที่ข้อเสนอสวัสดิการหลายอย่างได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการร่วมและผ่านมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2567 แต่กลับถูกปล่อยให้ค้างเติ่ง ประชาชนที่เฝ้ารอความหวังจึงยังไม่ได้รับสิทธิตามที่ควรได้รับ
.
ข้อเสนอสำคัญเหล่านี้ ได้แก่ การปรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดให้เป็นแบบถ้วนหน้า การเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได และการปรับเบี้ยผู้พิการเป็นแบบถ้วนหน้า ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายใหม่ หากรัฐบาลใหม่มีเจตนารมณ์ชัดเจน เพียงนำกลับมาเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและออก “มติ ครม.” รองรับ ก็สามารถเดินหน้าต่อได้ทันที
.
การทำให้ข้อเสนอสวัสดิการทั้ง 3 เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง จำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมเพียง 38,548 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินอุดหนุนเด็กถ้วนหน้าขาดอยู่ 7,401 ล้านบาท เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขาดอยู่ 28,013 ล้านบาท และเบี้ยผู้พิการขาดอยู่ 3,134 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้ไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับงบประมาณประเทศกว่า 3.78 ล้านล้านบาท ถือเป็นเม็ดเงินที่รัฐบาลสามารถจัดหาได้ทันที หากเพียงแต่กล้าที่จะตัดสินใจและจัดลำดับความสำคัญใหม่หรือไม่
เงินจำนวนนี้สามารถจัดหาได้จากงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลทุกยุคใช้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติหรือการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และในครั้งนี้ “สวัสดิการประชาชน” ก็ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนไม่ต่างกัน เพราะเป็นการลงทุนกับชีวิตมนุษย์อย่างแท้จริง
.
“นี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาลใหม่ ที่จะไม่เพียงทำหน้าที่รักษาการจนกว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ยังสามารถทิ้งผลงานที่จับต้องได้ให้กับสังคม เป็นผลงานที่ประชาชนจดจำได้จริงว่า แม้มีเวลาจำกัด แต่รัฐบาลนี้เลือกที่จะทำในสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือการยกระดับคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน” นายณัฐชากล่าว
.

.
‘อมรัตน์’ อัด‘เพื่อไทย‘อันธพาลชน’ ยื่นประธานสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญฟัน ‘อนุทิน-ณัฐพงษ์’
https://www.dailynews.co.th/news/5090561/
.
‘อมรัตน์’ อัด‘เพื่อไทย‘แบบนี้เรียก‘อันธพาลชน’ ทำให้พรรคตกต่ำลงไปอีก หลัง ‘สส.เพื่อไทย’ ยื่นประธานสภาฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ’อนุทิน-ณัฐพงษ์‘ พ้น สส. เหตุทำ MOA แนะ 4 เดือนนี้ตั้งหลักใหม่ สร้างผลงานฝ่ายค้าน พร้อมวางแผนหาเสียงแล้วกลับมาขอโอกาสจากประชาชนดีกว่า
.
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ภายหลังมีหนังสือ สส.เพื่อไทย ยื่นประธานสภาฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พ้น สส. เหตุทำ MOA เข้าข่ายแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ครอบงำพรรคการเมือง ล้มล้างประชาธิปไตย โดยระบุว่า
.
“ออกทะเลไปไกล แบบนี้เรียกอันธพาลชน ยิ่งทำให้พรรคตกต่ำลงอีกหรือไม่ เพราะ #เพื่อไทย ก็ตอบรับข้อเสนอทุกข้อของ #พรรคประชาชน ไม่ต่างกับ #ภูมิใจไทย

ระหว่าง 4 เดือนนี้ตั้งหลักใหม่ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้คนเห็นผลงาน วางแผนหาเสียง ทำนโยบายดี ๆ แล้วกลับมาขอโอกาสจากประชาชนอีกครั้งจะดีกว่าเยอะ”
.
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid027RGWWVoFK61Hi9boFoB2AxLaVD2Cuanb6BCsgJHPViHEkeznKgL5PL81SbzUFuj7l&id=100054162881442
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่