KEY POINTS
ฉากทัศน์ DUSIT เริ่มเปลี่ยน! ครึ่งปีแรก68 ขาดทุน -243 ล้านบาท ครึ่งหลังฟื้น
สวนทางปี 2569 โบรกคาดพลิกมีกำไร 2.9–3.3 พันล้านบาทรับทรัพย์ยอดโอนคอนโดฯ บวกเที่ยวไทยพุ่ง
หนุนราคาเป้าหมายสูงสุด 14.75 บาท
เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้วสำหรับโครงการ "ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค" เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บนทำเลทองสี่พระยา-สีลม ที่ผสาน Roof Park สวนลอยฟ้า 7 ไร่ใหญ่ที่สุดในไทย เชื่อมวิวสวนลุมพินีแบบพาโนรามิก 180 องศา สร้างประสบการณ์ Sport & Well-being Lifestyle ครบทุกมิติ กลายเป็นหมุดหมายใหม่ของเมืองที่หลายคนรอคอย
"ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค" เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่ดุสิตธานีร่วมทุนกับเซ็นทรัลพัฒนา รื้อถอนโรงแรมดุสิตธานีเดิมแล้วสร้างกลุ่มอาคารขึ้นใหม่
โรงแรม (ดุสิตธานี กรุงเทพฯ)
ที่พักอาศัย (ดุสิต เรสซิเดนเซส และดุสิต พาร์คไซด์)
ศูนย์การค้า (เซ็นทรัล พาร์ค)
สำนักงาน (เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส)
แต่ท่ามกลางความหรูหราอลังการกลับมีเงาดราม่าภายใน เมื่อกลุ่มผู้ถือหุ้นตระกูลดุสิตธานีเกิดความขัดแย้งยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2563 จนล่าสุดยังถูกจับตาว่าจะกระทบทิศทางการบริหารและอนาคตของโครงการหรือไม่
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า "แผนธุรกิจยังเดินหน้าตามเดิม" โดยปี 2569 จะเป็นปีที่ "บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT" เริ่มเก็บเกี่ยวผลเต็มๆจากการโอนคอนโดฯ และการฟื้นตัวของท่องเที่ยว
โค้ง2/68ต่ำสุดของปี-ครึ่งปีหลังเริ่มฟื้น
ฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ประเด็นดราม่าระหว่างผู้ถือหุ้น DUSIT นั้นมองว่าจะไม่ได้ทำให้ทิศทางการดำเนินงานเปลี่ยนไป โดยเชื่อว่าโครงสร้างการจัดการ และแผนธุรกิจยังเป็นไปตามเดิม ซึ่งปีพ.ศ.2569 จะเริ่มเห็นการเก็บเกี่ยวอย่างมีนัยสำคัญ คาดกำไร 2.9 พันล้านบาท
จากการโอนคอนโดมิเนียมในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (DCP) และภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ซึ่งหากมองอนุรักษ์นิยมที่ P/BV 1.0 เท่า ราคาเหมาะสมเบื้องต้นปี 2569 จะสูงได้ถึง 14.75 บาท ทำให้ DUSIT ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนซื้อถือข้ามปี
"ในช่วงครึ่งหลังปี68จะเร่งตัวขึ้นจากฤดูกาลท่องเที่ยว และสมมติฐานโอนคอนโดฯ DCP ที่ 10% ปีนี้ ขณะที่ราคาเหมาะสม DUSIT ปีนี้อิง P/BV กระทบเพียงเล็กน้อย"
ปี 69 กำไรฟื้นเต็มกำลัง
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ระบุว่า DUSIT ไตรมาส 2/68 รายงานขาดทุนสุทธิ -291 ล้านบาท จากขาดทุน -131 ล้านบาท ในงวดไตรมาส 2/67 และกำไร 48 ล้านบาทในงวดไตรมาส 1/68
หากดูกำไรหลัก (ไม่รวมรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำและกำไร-ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) เท่ากับ -244 ล้านบาท จากขาดทุน -127 ล้านบาทในงวดไตรมาส 2/67 และกำไร 37 ล้านบาทในงวดไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 1,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน (YoY) และลดลง 29% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เติบโตเล็กน้อย YoY
สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากโรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพ และโรงแรมภายใต้การบริหารงานโดยกลุ่มดุสิตในประเทศญี่ปุ่น โดยโรงแรมที่บริษัทลงทุนเอง มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate หรือ Occ. Rate) 65.9% ลดลง -5.6%YoY และลดลง -16.1%QoQ
ค่าห้องเฉลี่ย 3,455 บาทต่อคืน ลดลง-2%YoY และลดลง -31%QoQ และรายได้เฉลี่ยต่อห้อง 2,277 บาทต่อคืน ลดลง 10%YoY และลดลง 45%QoQ มี EBITDA Margin ที่ระดับ 7.4% ลดลงจาก 7.7% ในงวดไตรมาส 2/67 และระดับ 21.8% ในงวดไตรมาส 1/68 ช่วงครึ่งแรกปี68 มีขาดทุนสุทธิ -243 ล้านบาท จากขาดทุน -9 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปี67
DUSIT ปรับลดเป้าการเติบโตของรายได้รวมในปี 68 จากเดิมโต 30-35% เหลือ 20-25% เนื่องจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก โดยมีสมมติฐานการเติบโตของรายได้ธุรกิจโรงแรมที่ 20-25%, ธุรกิจอาหารที่ 10-15% และธุรกิจการศึกษาอยู่ที่ 10-12%
สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทมีแผนเริ่มทยอยโอนอาคารที่พักอาศัยของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ให้แก่ผู้ซื้อในช่วงปลายปี 68 และมีการโอนอย่างมีนัยสำคัญในปี 69 สำหรับโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ในส่วนของ Retail DUSIT ถือหุ้น 15% เปิดให้บริการ 4 ก.ย.68
ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการปี 68 เนื่องจาก Bloomberg Consensus คาดขาดทุนราว -277 ล้านบาท ก่อนพลิกมีกำไรราว 3,326 ล้านบาทในปี 69 เติบโตจากการโอนโครงการที่พักอาศัย Dusit Residences และ Dusit Parkside ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เฉลี่ย 9.72 บาท
ปีนี้เทิร์นอะราวด์
ก่อนหน้านี้นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DUSIT ประเมินแนวโน้มรายได้ปี 2568 คาดทำ 9,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20-25% จากปี 2567 มีรายได้ที่ 7,400 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้จากการส่งมอบงานโครงสร้างพื้นที่อาคารค้าปลีกของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค หรือ Bare Shell) เป็นการเติบโตของธุรกิจโรงแรม 20-25%, ธุรกิจอาหาร 10-15%, ธุรกิจการศึกษา 10-12% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 100% (ไม่รวม Bare Shell)
สัดส่วนรายได้ในปีนี้ใกล้เคียงปี 67 มาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม 66-67% ธุรกิจอาหาร 18% ธุรกิจการศึกษา 5% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 7%
อย่างไรก็ดีบริษัทมีหนี้รวม 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท จะครบกำหนดในปี 69 จำนวน 2,500 ล้านบาท ส่วนอีก 1,500 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ และเป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย 6,000 ล้านบาท คิดเป็นดอกเบี้ยจ่ายประมาณ 281 ล้านบาท ในปี 67 ซึ่งภาระดอกเบี้ยจ่ายดังกล่าวจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่พักอาศัยตั้งแต่ปลายปี 68 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้บริษัทกลับมาเทิร์นอะราวได้ในปีนี้
ราคาหุ้นพุ่ง 64.29%
DUSIT ไม่ได้เปลี่ยนแค่พื้นฐานเท่านั้น แต่ด้านราคาหุ้นถือว่าปรับเปลี่ยนขึ้นมาไม่น้อย หากพิจารณาจากข้อมูล SETSMART นับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.2563 ถึง 4 ก.ย. 2568 หุ้น DUSIT ปรับตัวเพิ่มขึ้น 64.29% จากราคา 7 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแตะที่ 11.50 บาท
และจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ระหว่างวันที่ 2 ม.ค. - 4 ก.ย.2568 ราคาหุ้น DUSIT ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 8.49%
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น DUSIT วันนี้ (5 ก.ย.68) ณ เวลา 15.16 น. แตะระดับ 11.40 บาท ลดลง 0.10 บาท คิดเป็น -0.87% มูลค่าการซื้อขาย 5.38 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 11.70 บาท และลดลงต่ำสุด 11.40 บาท.
DUSIT หุ้นพลิกเกม! ปีนี้เทิร์นอะราวด์-ปี69 กำไรพุ่ง 3,000 ล้านบาท