แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำ
ผมกลับคาดหวังให้แฟนเป็นฝ่ายทำ รวมทั้งพยายามพูดชี้นำให้อีกฝ่ายรู้ ถ้าทำแบบนี้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นนะ พูดทั้งข้อดีว่าการทำดแบบนี้ทำให้ดูเป็นคนมีวุฒิภาวะ ควบคุมสติได้ ใจเย็นรู้วิธีแก้ปัญหา (แบบพูดอ้อมๆเพราะถ้าพูดตรงๆจะแปลว่าเราจะเป็นฝ่ายทำก่อน)
พูดโน้มน้าวถึงข้อดีให้ฟัง
ปรากฎว่าแฟนฟังเข้าใจทุกอย่าง แต่แฟนยิ่งได้ยินกลับยิ่งไม่ทำ แล้วยื่นคำขาดว่าผมต้องเป็นฝ่ายทำ
สรุปคือ ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ทั้งสองฝ่ายมีสติทั้งคู่ รู้วิธีแก้ปัญหา
แต่เลือกที่จะไม่แก้ปัญหาด่ากันไปมา
ตลกไหมครับ ทะเลาะกัน รู้วิธีแก้ปัญหาทั้งคู่ แต่ไม่ยอมทำทั้งสองฝ่าย เพราะมัวแต่จ้องจะให้อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดเสนอแก้ปัญหาให้อีกฝ่ายฟัง
พอไม่ยอมทั้งคู่ เลยทะเลาะกันทุกครั้งโดยปัญหาไม่ถูกแก้
บางครั้งปัญหาที่ทะเลาะกันอาจจะเล็กกว่าก็ได้
ถ้าเทียบกับปัญหาที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแก้ปัญหามัวแต่รอให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายเสนอโชว์วุฒิภาวะแก้ปัญหา
คิดยังไงกับสถานการณ์แบบนี้พอจะวิเคราะห์ได้ไหมครับ
เวลาทะเลาะกับแฟน ผมเป็นคนที่มีสติรู้วิธีแก้ปัญหารวมทั้งรู้วิธีควบคุมสถานการณ์ให้ดีขึ้น
ผมกลับคาดหวังให้แฟนเป็นฝ่ายทำ รวมทั้งพยายามพูดชี้นำให้อีกฝ่ายรู้ ถ้าทำแบบนี้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นนะ พูดทั้งข้อดีว่าการทำดแบบนี้ทำให้ดูเป็นคนมีวุฒิภาวะ ควบคุมสติได้ ใจเย็นรู้วิธีแก้ปัญหา (แบบพูดอ้อมๆเพราะถ้าพูดตรงๆจะแปลว่าเราจะเป็นฝ่ายทำก่อน)
พูดโน้มน้าวถึงข้อดีให้ฟัง
ปรากฎว่าแฟนฟังเข้าใจทุกอย่าง แต่แฟนยิ่งได้ยินกลับยิ่งไม่ทำ แล้วยื่นคำขาดว่าผมต้องเป็นฝ่ายทำ
สรุปคือ ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ทั้งสองฝ่ายมีสติทั้งคู่ รู้วิธีแก้ปัญหา แต่เลือกที่จะไม่แก้ปัญหาด่ากันไปมา
ตลกไหมครับ ทะเลาะกัน รู้วิธีแก้ปัญหาทั้งคู่ แต่ไม่ยอมทำทั้งสองฝ่าย เพราะมัวแต่จ้องจะให้อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดเสนอแก้ปัญหาให้อีกฝ่ายฟัง
พอไม่ยอมทั้งคู่ เลยทะเลาะกันทุกครั้งโดยปัญหาไม่ถูกแก้
บางครั้งปัญหาที่ทะเลาะกันอาจจะเล็กกว่าก็ได้ ถ้าเทียบกับปัญหาที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแก้ปัญหามัวแต่รอให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายเสนอโชว์วุฒิภาวะแก้ปัญหา
คิดยังไงกับสถานการณ์แบบนี้พอจะวิเคราะห์ได้ไหมครับ