JJNY : 5in1 “รักชนก”ฟาดแพทองธาร│เท้งยันดันอนุทิน│กัณวีร์เห็นใจปชน.│ไอลอว์ประณามสุรทิน-ไทกร│พอลฟ้องกลับตร.เรียกค่าเสียหาย

“รักชนก” ฟาด “แพทองธาร” สำนึกช้าไป 2 เดือน ปมยุบสภา ชี้คลิปเสียงหลุดคือจุดสิ้นสุดความไว้วางใจ
เสียดายอำนาจอยู่ในมือแต่เลือกไม่ทำ
https://ch3plus.com/news/political/morning/447107
.
.
“รักชนก” ฟาด “แพทองธาร” สำนึกช้าไป 2 เดือน ปมยุบสภา ชี้คลิปเสียงหลุดคือจุดสิ้นสุดความไว้วางใจ เสียดายอำนาจอยู่ในมือแต่เลือกไม่ทำ
.
เมื่อเวลา 15.30 น. นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยเลือกนายชัยเกษม เป็นนายกฯ เพื่อยุบสภาทันที คืนอำนาจให้ประชาชนว่า
.
ในที่สุด คุณแพทองธารก็เห็นด้วยกับข้อเสนอ ยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนเสียที แต่น่าเสียดายจริงๆ เพราะว่ามันช้าไป 2 เดือน
.
ในวันที่มีคลิปเสียงหลุดออกมา ประชาชนทั้งประเทศสูญสิ้นความไว้วางใจในตัวนายกรัฐมนตรี รวมถึงพรรคเพื่อไทยไปหมดแล้ว ถ้าวันนั้นคุณแพทองธาร มีสำนึกของความรับผิดรับชอบทางการเมือง แสดงความจริงใจต่อประชาชนด้วยการยุบสภา เราจะไม่เดินมาถึงวันนี้
.
ในวันนั้นท่านมีอำนาจเต็ม สามารถยุบสภาได้โดยไม่ต้องมีใครมานั่งตีความต้องเจตนารมณ์ของกฎหมายอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ประเทศไทยจะเดินหน้าสู่ทางออกทันที ไม่ใช่ไหลมาสู่วิกฤตความเชื่อมั่น ดังเช่นวันนี้
.
“คุณมีโอกาส อำนาจอยู่ในมือคุณมาตลอด คุณเลือกได้ แต่คุณเลือกที่จะไม่ทำ จนมาถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้แสดงความจริงใจและความจริงจังใดๆ ในการจะรับข้อเสนอ อีกทั้งเรื่องสำคัญเช่นนี้ ก็ยังจะเลือกวิธีการสื่อสารด้วยการกดแชร์สตรอรี่ในอินสตาแกรม” นางสาวรักชนกกล่าวและเพิ่มเติมว่า ดิฉันคงไม่ต้องย้ำ ว่าที่เราต้องมานั่งหาทางออกให้ประเทศกัน จนเดินมาสู่ทนทางดังเช่นวันนี้ เพราะใคร
.
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid0jVQUdHbYAGzSv2XZyHtvNV7u8AZPBW9fx4bEsPy1Q6NTKYup7p7QUqwL3d3s8YBsl
.

.
เท้ง ยันดัน อนุทิน นั่งนายกฯ ปัดกระแสปล่อยสส.ปชน.ฟรีโหวต ย้ำมติพรรค คุยกันมาดีแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5354680
.
เท้ง ยันดัน อนุทิน  นั่งนายกฯ แน่นอน ปัดกระแสปล่อยสส.ปชน.ฟรีโหวต ย้ำ มติพรรคคุยกันมาดีแล้ว ลั่นพร้อมเปิดซักฟอก หากรัฐบาลใหม่เน้นเคลียร์คดีเก่า ไม่เชื่อเพื่อไทยยื่นดีลเลือกชัยเกษม
.
เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 4 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่ได้มีเสียงแตกตามที่มีกระแสข่าวออกมา ตอนนี้เราได้ความชัดเจนแล้วว่าทางพรรคเพื่อไทย จะเสนอนาย ชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ส่วนที่เมื่อเช้าตนได้เรียกหาความชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการยุบสภา จากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า นายภูมิธรรมและพรรคเพื่อไทยไม่ได้เดินหน้ากระบวนการยุบสภา ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดความไขว้เขว
.
เพราะกระบวนการจัดสินใจของพรรคประชาชนสิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่กรรมการบริหารพรรคได้แถลงข่าวและเซ็นข้อตกลงร่วมกับพรรคภูมิใจไทย และตลอดทั้งวันที่ตนได้ประชุมกบสส.ในพรรคก็ไม่ได้พูดถึงการเปิดฟรีโหวตแต่อย่างใด ตนเชื่อมั่นต่อเพื่อนร่วมพรรคว่า พร้อมปฏิบัติตามมติของพรรค ส่วนความอึดอัดใจของส.ส.ภายในพรรคต่อการโหวตนายกฯ ในวันที่ 5 กันยายนนี้ ทุกคนมีความเห็นแตกต่างหลากหลาย แต่ก็มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันมาหมดแล้วจึงเชื่อว่าจะปฏิบัติตามมติ และไม่กังวลว่าจะมีใครฝ่ฝาฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมติพรรค
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเลื่อนวันเลือกนายกฯ ออกไปนั้น ในระหว่างวันมีกระแสข่าวปล่อยออกมาตลอด มีการต่อสายจากเจ้าหน้าที่ของประธานรัฐสภา บอกว่าตนได้ประสานขอเลื่อนการโหวต ตนขอยืนยันต่อวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านไม่เคยประสานขอเลื่อนวันแต่อย่างใด
.
เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าหากฝ่ายค้านยกมือโหวตนายกฯแล้ว หากรัฐบาลทำอะไรผิดพลาด ฝ่ายค้านจะต้องรับผิดชอบด้วย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรายืนยันในเรื่องเดิมว่าเรายังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน การโหวตให้นายอนุทินครั้งนี้ เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีหน้าที่ยุบสภา และเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ฉะนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกิดขึ้น เป็นรัฐบาลที่พรรคประชาชนไม่ต้องไปแบกรับแต่อย่างไร เราพร้อมตรวจสอบอย่างเต็มที่
.
เมื่อถามถึงข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ที่หากเลือกนายชัยเกษม ก็พร้อมยุบสภาหลังแถลงนโยบายต่อสภาทันที นายณัฐพงษ์ กล่าววว่า หากเป็นข้อเสนอก่อนหน้านี้อย่างเป็นทางการ ก่อนที่พรรคประชาชนจะตัดสินใจแถลงออกมาอย่างเป็นทางการ ตนและส.ส.ในพรรคจะรับไว้พิจารณา แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กระบวนการที่ผ่านมาตลอดจนถึงวันนี้ ยังมีการให้ข่าวกลับไปกลับมาจากฝั่งพรรคเพื่อไทย เราก็พอจะประเมินได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความจริงจังและจริงใจ ที่จะบรรลุข้อตกลงกับเราตั้งแต่ต้น เป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อช่วงชิงจังหวะทางการเมืองมากกว่า
.
ภายหลังที่พรรคประชาชนบรรลุข้อตกลงออกไปเป็นที่เรียบร้อย ยังคงมีการปล่อยข่าวในลักษณะนี้อยู่ ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เราไม่สามารถเชื่อคำพูดที่กลับไปกลับมาแบบนี้ได้” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
เมื่อถามถึงนักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตยหลายคนเตือนอยากให้ ปชน.พิจารณาใหม่ เพราะการโหวตพรรคภูมิใจไทย เหมือนสนับสนุนกลุ่มทำลายกระบวนการนิติรัฐ นิติธรรม และทำนิติสงคราม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรารับฟัง และทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน พร้อมพิสูจน์ตัวเองในกรอบเวลาต่อจากนี้ ผ่านการทำหน้าที่ทุกอย่างของเรา และอยากยืนยันทุกคน วันนี้สิ่งที่ตน และ ปชน.จำเป็นต้องทำคือหนักแน่นต่อการตัดสินใจของเรา เราไม่ได้เพิ่งมาคิดไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่มองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 2 เดือนที่แล้ว เราได้ประเมินสถานการณ์ ชั่งน้ำหนักทุกด้าน ไตร่ตรองรอบคอบ ก่อนออกมติพรรค เชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีสุดให้กับประเทศจริงๆ
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากภูมิใจไทยทำนิติสงคราม มีการเรียกร้องให้ ปชน.ต้องรับผิดชอบ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก่อนที่ตนและ ปชน.จะต้องรับผิดชอบอย่างไร ต้องดูที่การกระทำของพวกเราด้วย กรณีที่เราได้เรียกร้อง และให้ข้อคิดเห็นในตอนเช้าว่า เราไม่เห็นด้วยกับนิติสงคราม ไม่ว่าฟ้องร้อง มาตรา 157 หรือมาตรา 112 ที่ผ่านมา เรียนตามข้อเท็จจริงตน และ ปชน.ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ แต่เรามีอำนาจฝ่ายค้านเสียงข้างมาก ใช้เสียงที่เรามีกำกับทิศทางรัฐบาลต่อจากนี้ เพื่อเปิดทางทำรัฐธรรมนูญใหม่
.
ต้องดูต่อไปในอนาคต รัฐบาลเฉพาะกิจ ทำอะไรไม่ถูกต้อง เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างพวกเรา ตรวจสอบตรงไปตรงมา ทำเต็มที่ ไม่มีออมมือทั้งสิ้น เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นต้น” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่า หลายคนมองตอนแรกโหวตหนุนภูมิใจไทย แล้วไปค้านในอนาคตทำได้จริงหรือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่สังคมต้องมองแยกให้ออกคือ เรื่องการใช้เสียงในสภาฯ เพื่อเดินหน้าสู่ทางออกของประเทศ กับการร่วมรัฐบาล ยืนยันอีกครั้งว่า การโหวตนายอนุทิน ไม่ใช่ร่วมรัฐบาล แต่หาทางออกของประเทศ เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่
.
เมื่อถามว่า มีอดีตแกนนำพรรคก้าวไกล และ ส.ส.บางคน เสนอว่าไม่อยากให้ ปชน.เป็นตัวประกอบภาพยนตร์ที่ทำสัญญากับปีศาจนั้น หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พวกเราต้องพิสูจน์ว่า หลังจากนี้อีก 4 เดือน หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พรรค ปชน.จะใช้เสียง 140 กว่าเสียง กำกับทิศทางรัฐบาล นำไปสู่สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้มากน้อยแค่ไหน เชื่อว่าเราทำได้
.
ส่วนกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และอดีตแกนนำก้าวไกลคนอื่น ๆ เคยบอกว่าไม่ควรดีลกับปีศาจนั้น คิดว่าสิ่งที่เราเคยบอกว่า ดีลปีศาจ ต้องดูว่า ดีลเพื่อผลประโยชน์ของใคร เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง หรือเราใช้อำนาจที่เรามี ได้รับมอบจากประชาชน หาทางออกให้กับประเทศ ที่สำคัญมากกว่า เชื่อว่าองคาพยพของเราเข้าใจ
.
ถามว่า ไม่เสียดายใช่หรือไม่ที่ตัดสินใจดีลกับพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เสียดาย และไม่คิดที่จะไปทบทวนในสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน เดินหน้าหาทางออกให้กับประเทศ คิดว่าเป็นเรื่องประธานสภาฯ บรรจุวาระแล้วว่าจะเดินหน้าต่อ หรือโหวตนายกฯคนใหม่อย่างไรบ้าง ส่วนถ้าอนาคตนายอนุทินไม่ยุบสภาฯนั้น เราประเมินไว้หมดแล้ว และเราจะประเมินทุกวันต่อจากนี้ หลังโหวตเลือกนายกฯไปแล้ว ถ้าเราเริ่มเห็นแล้วว่า นายอนุทินไม่พยายามปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกัน เราพร้อมใช้เสียงในสภาฯ ยื่นมติไม่ไว้วางใจทันที
.
เมื่อถามว่า หากกำหนด 4 เดือน แต่เกิดสถานการณ์รัฐบาลต้องกำกับดูแลประเทศต่อ ต้องคุยกันอีกรอบหรือไม่ นายณัฐพงษ์ เชื่อว่า ตอนนี้กรอบสำคัญของเราคือตามข้อตกลงที่ได้บอกว่า สถานการณ์ในอนาคตไม่ว่าเรื่องใหญ่ ไทย-กัมพูชา หรือภาษีทรัมป์ เราให้ประชาชนตัดสิน เราจำเป็นต้องมีรัฐบาลชุดใหม่แก้ไขในส่วนนี้
.
เมื่อถามถึงกรณีข้อครหาบางพรรคในรัฐบาลใหม่จะเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระต่าง ๆ เพราะเงื่อนไข 5 ข้อของ ปชน.ไม่มีระบุส่วนนี้จะทำอย่างไร หัวหน้าพรรค ปชน.ขอยืนยันผ่านการแถลงครั้งนี้อีกหนึ่งครั้งว่า ถ้าหากว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะสะสางคดีของตนและพวกพ้อง ปชน.ไม่มีทางยอมรับได้ พร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที
.
ทุก ๆ อย่างอาจไม่ได้ตอบลงรายละเอียดมากนัก ตอบบนหลักการที่ทุกคนเข้าใจได้ ดูเรื่องการกระทำที่วิญญูชนเห็น ถ้าเชื่อว่านายอนุทิน ในฐานะนายกฯ มีความเป็นไปได้มากสุดคนต่อไป ใช้อำนาจยุ่งเกี่ยว เป็นอำนาจของ ปชน.ล้มอำนาจที่ไม่มีความชอบธรรม” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
ส่วนถ้าเพื่อไทยยืดเยื้อ หรือล้มการโหวตนายกฯนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การเดินเกมในสภา เป็นเรื่องปกติ รวมถึงการโหวตนายกฯ แต่อยากให้ทุกคนเรียกร้อง ณ ตอนนี้คือเดินหน้าเปิดประตูสู่ทางออกของประเทศ เพราะความชัดเจนของ ปชน. คือพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เดินหน้ายุบสภาฯก่อน ต่อมาเสนอชื่อนายชัยเกษมมาชิงเก้าอี้นายกฯ มองว่าพรรคเพื่อไทยตีรวน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้านายอนุทินได้เป็นนายกฯ แล้วถูกคดีจริยธรรมสอยก่อนยุบสภาฯ มองถึงนายกฯคนที่ 4 หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น แต่การโดนคดีจริยธรรม ปชน.บอกตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้กระบวนการแบบนี้
.

.
กัณวีร์ เห็นใจ ปชน.ไว้ใจใครไม่ได้ จี้ ภท. รักษาสัจจะ 5 เรื่อง ก่อนโหวตนายกฯ ยันเป็นฝ่ายค้าน-ไม่รับตำแหน่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5354647
.
กัณวีร์ เห็นใจ ปชน. ไว้ใจใครไม่ได้ จี้ ภท. พิสูจน์ให้ได้ว่าจะรักษาสัจจะ ไม่ยุ่งฮั้วสว.-เขากระโดง-หมอสุภัทร-ถอนฟ้องคดี112 24 ชม.ก่อนโหวตนายกฯ แนะพท.หยุดเล่นเกมการเมือง ยันเป็นฝ่ายค้าน ไม่รับตำแหน่งใดๆ
.
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม โพสต์เฟซบุ๊ก “กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang” ระบุว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่