หนุ่มเมืองจันท์ แนะ ปชน. เจรจาอนุทิน ถอนแจ้งจับ 112-157 ภูมิธรรม ยันการเมือง ไม่ควรเข่นฆ่ากันมากเกินไป
.
.
หนุ่มเมืองจันท์ แนะ ปชน. เจรจาอนุทิน ถอนแจ้งจับ 112-157 ภูมิธรรม ยันการเมือง ไม่ควรเข่นฆ่ากันมากเกินไป
.
เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายสรกล อดุลยานนท์ หรือ หนุ่มเมืองจันท์ โพสต์ข้อความผ่านเพจ “หนุ่มเมืองจันท์” ระบุว่า
.
“เรายืนยันมาโดยตลอดว่าผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย มีอำนาจยุบสภา”
.
”อย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนยืนยันว่าแม้หลายฝ่ายย่อมมีความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับอำนาจในการยุบสภา แต่เราไม่เห็นด้วยกับการแจ้งความดำเนินคดีทางอาญาต่อคุณภูมิธรรม เวชยชัย ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแจ้งความเอาผิดตามมาตรา 112“
.
วิธีการหนึ่งที่พรรคประชาชนจะแสดงถึง ”จุดยืน“ นี้
.
เขาควรขอให้คุณอนุทิน ชาญวีรกุล บอกคุณศุภชัย ใจสมุทร และพรรคเล็กที่สนับสนุนคุณอนุทินให้ไปถอนแจ้งความคุณภูมิธรรม เวชยชัย ในเรื่องการทูลเกล้ายุบสภาฯ
.
แม้จะไม่อยู่ในเงื่อนไข 5 ข้อที่สัญญากัน
แต่จะเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ดีของทั้ง 2 พรรค
แทนที่จะเริ่มต้นด้วย ”ความแตกต่าง“
.
ที่สำคัญประธานสภาฯก็บรรจุวาระเรื่องการเลือกนายกฯคนใหม่ในวันที่ 5 กันยายน เรียบร้อยแล้ว
ยื่นไมตรีกันสักนิดก็จะดีเพื่อบรรยากาศใหม่ก่อนการยุบสภาฯ
การเมืองไม่ควรจะเข่นฆ่ากันมากเกินไป
.
.
.
พรฎ.ยุบสภาถูกตีกลับจริง!! เพื่อไทย ยอมแล้ว เป็นฝ่ายค้าน รอปธ.เคาะวันโหวต นายกฯอนุทิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5353208
.
พรฎ.ยุบสภาถูกตีกลับจริง!! เพื่อไทย ยอมแล้ว เป็นฝ่ายค้าน รอปธ.เคาะวันโหวต นายกฯอนุทิน
.
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีความพลิกผันทางการเมืองตลอดทั้งวัน ไล่ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.37 น. ที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ประกาศมติพรรคสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯ พร้อม 5 เงื่อนไข ที่ต้องยุบสภา ภายใน 4 เดือนหลังจากแถลงนโยบายต่อสภา ก่อนที่ เวลา 10.36 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้ทูลเกล้าฯ พรฎ.กฤษฎีกายุบสภาไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 2 กันยายน
.
ต่อมา นายอนุทิน พร้อมแกนนำพรรคต่างๆ ร่วมแถลงพร้อมเป็นนายกฯ โดยมีเสียงสนับสนุน 146 เสียง และพร้อม ทำตามเงื่อนไขพรรคประชาชน จากนั้นพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนฯ ให้บรรจุวาระเลือกนายกฯ
.
ต่อมา ช่วงบ่ายมีรายงานข่าวว่า สำนักองคมนตรี ในฐานะหน่วยงานกลั่นกรองหนังสือ และถวายความเห็นประกอบการกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และทรงลงพระปรมาภิไธย ได้ส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกา กลับมาให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)
.
โดยหนังสือ ระบุว่า การกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นไปตามระเบียบการนำเสนอเพื่อขอพระมหากรุณา เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีปัญหาข้อขัดแย้ง ว่ากระทำได้หรือไม่ ประกอบกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ทำความเห็นประกอบว่า รัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ได้
.
จึงไม่สามารถกราบบังคมทูล เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ได้
.
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีการตีกลับหนังสือจากสำนักงานองคมนตรี นั้นเป็นความจริง โดยสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะส่งให้กฤษฎีกา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายประกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการกฤษฎีกา เคยให้ความเห็นไว้แล้วว่า นายกฯรักษาการไม่สามารถทูลเกล้าฯยุบสภาได้
.
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ไม่สามารถที่จะยื่นยุบสภาได้ และแกนนำรัฐบาลในส่วนของพรรคเพื่อไทย ทราบเรื่องนี้แล้ว และยอมรับผลที่เกิดขึ้น และพร้อมเป็นฝ่ายค้าน จากนี้ก็รอให้ประธานสภา บรรจุวาระโหวตเลือกนายกฯเข้าสู่สภาฯ ซึ่งหากทันภายใน 24.00 น.นี้ ก็จะโหวตได้ในวันที่ 5 กันยายน
.
ทั้งนี้ หากเป็นไปตามข้อตกลงของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ก็จะมีการเสนอชื่อนายอนุทิน เป็นนายกฯคนที่ 32 โดยการสนับสนุนของพรรคประชาชน ซึ่งจะต้องจับตาดูว่าจะเป็นไปตามข้อตกลง 5 ข้อหรือไม่
.
.
กกร.ห่วง ศก.ชะงัก หากการเมืองไร้นายกฯ ชี้ รบ.ไม่เข้มแข็ง เอกชนเดินหน้าลำบาก
https://www.matichon.co.th/economy/news_5353494
.
กกร.ห่วง ศก.ชะงัก หากการเมืองไร้นายกฯ ชี้ รบ.ไม่เข้มแข็ง เอกชนเดินหน้าลำบาก
.
เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนอยู่ สาเหตุจากนโยบายการค้าสหรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลตัดสินจากศาลสูงสุด ภายหลังศาลอุทธรณ์สหรัฐตัดสินว่าการขึ้นอัตราภาษีนำเข้ากับประเทศต่างๆ ขัดต่อกฎหมาย และสหรัฐยกเลิกการยกเว้นภาษีสำหรับสินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 800 เหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความไม่แน่นอนสูง รวมถึง ถือเป็นแรงกระแทกเพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจโลกในปีนี้ รวมถึง เศรษฐกิจไทยที่เข้าสู่ภาวะชะลอตัว จากการส่งออกที่ดีกว่าปกติ เพราะมีการเร่งส่งคำสั่งซื้อในช่วงครึ่งปีแรก แต่ครึ่งหลังยังมีความกังวลจากหลายปัจจัย โดยคาดว่าปี 2568 จีดีพีไทยจะขยายตัวได้ที่ 1.8%-2.2% จากช่วงครึ่งปีหลังที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1% เพราะมีปัจจัยที่สร้างการชะงักงันทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น จากความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจกระทบการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึง การขาดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนของภาคเอกชนในระยะข้างหน้า และมีความเสี่ยงที่ประเทศจะโดนลงอันดับความน่าเชื่อถือสูงขึ้น
.
“อัตราการว่างงานในระบบช่วงไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นเป็น 2.07% จาก 1.88% เทียบไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา และมีจำนวนผู้เสมือนว่างงานในภาคการเกษตรอยู่ที่ 2.1 ล้านคน สูงขึ้นประมาณ 5% เทียบปี 2567 ภาคการท่องเที่ยว ภาคก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ และภาคเกษตรชะลอตัว ความเปราะบางของธุรกิจเอสเอ็มอีไทย เห็นได้ชัดจากยอดค้างชำระหนี้เกิน 90 วันที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่ยอดคงค้างสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท” นายผยงกล่าว
.
นายผยงกล่าวอีกว่า กกร.มีความกังวลต่อสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งต้องระมัดระวัง เพราะอาจเข้าข่ายการแทรกแซงค่าเงิน และอาจถูกแซงชั่นเพิ่มเติมอีก รวมถึง เห็นความสัมพันธ์กับราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยังขาดข้อมูลเชิงลึก เพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบของธุรกรรมทองคำ และคริปโตฯ รวมถึง การโอนเงินกลับประเทศของแรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านช่องทางในระบบ ทำให้การเกินดุลการชำระเงินกว่าครึ่งไม่สามารถจำแนกได้ชัดเจน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการแยกแยะ และวิเคราะห์ผลกระทบของธุรกรรมทองคำต่อภาคเศรษฐกิจ รวมถึง ปรับปรุง และแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเพื่อทำให้เกิดความสมดุลมากขึ้น
.
นายผยงกล่าวต่อว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความท้าทายจากทั้งปัจจัยภายนอก อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้า และปัจจัยภายในอย่างต้นทุนพลังงาน ค่าจ้างขั้นต่ำ และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่มีความเปราะบาง จึงมีข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับลด หรือผ่อนปรนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่น้อยกว่า 50% ในปี 2569 หรือจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว เพื่อบรรเทาภาระต้นทุน เสริมสภาพคล่อง ลดความเสี่ยงจากการปิดกิจการ และรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการจ่ายอัตราค่าจ้างตามทักษะฝีมือแรงงาน แทนการปรับขึ้นขั้นต่ำ สร้างแรงงานที่มีทักษะฝีมือให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึง ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Reinvent Thailand – A Platform for Sustainable Policy Execution เปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนะแนวทาง และสร้างแนวร่วมการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยภาคเอกชนจะร่วมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน และอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐต่อไป
.
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเมืองในตอนนี้ถือว่าสร้างความชะงักงันในการเดินหน้าต่อ เพราะไม่รู้ว่าควรจะไปซ้าย หรือขวา ในแง่เอกชนพูดตลอดเวลาอยู่แล้วว่า ต้องการความชัดเจน มีรัฐบาลที่ดี ชอบธรรมด้วยกฎหมาย เป็นที่ยอมรับต่อนานาชาติ และประชาชน มีความสามารในการบริหาร เพราะตอนนี้เรายืนอยู่ในภาวะที่เจออุปสรรคเต็มไปหมด ไม่ใช่เพียงเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่มีปัจจัยลบทั้งภายนอก และภายใน ทำให้หากรัฐบาลไม่เข้มแข็ง เอกชนก็เดินหน้าต่อลำบาก แม้เราพยายามเดิมด้วยตัวเองอยู่ ผ่านการออกแพลตฟอร์มหลังจากหารือร่วมกับหน่วยงานรัฐบาล เพราะสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนและการเบิกจ่ายของรัฐบาล
.
“การเป็นรัฐบาลระยะเวลา 4 เดือนก่อนยุบสภาห รือยุบสภาทันทีตอนนี้นั้น ต้องบอกว่าความวุ่นวานที่เกิดขึ้น มีผลกระทบอยู่แล้ว แต่การเป็นรัฐบาล 4 เดือนก่อน ถือเป็นคำตอบทางการเมือง และเชื่อว่าเป็นคำตอบของเศรษฐกิจด้วย เพราะนโยบายระยะยาวยังต้องใช้เวลาในการขับเคลื่อนมากกว่านี้” นายพจน์กล่า
JJNY : หนุ่มเมืองจันท์แนะปชน.│พรฎ.ยุบสภาถูกตีกลับจริง!!│กกร.ห่วง ศก.ชะงัก│เตือน ระนอง จันทบุรี ตราด มีฝนตกหนักบางแห่ง
.
พรฎ.ยุบสภาถูกตีกลับจริง!! เพื่อไทย ยอมแล้ว เป็นฝ่ายค้าน รอปธ.เคาะวันโหวต นายกฯอนุทิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5353208
.
.
กกร.ห่วง ศก.ชะงัก หากการเมืองไร้นายกฯ ชี้ รบ.ไม่เข้มแข็ง เอกชนเดินหน้าลำบาก
https://www.matichon.co.th/economy/news_5353494
.