เราอายุ 45 มีอาการเสียดท้องมากและเสียดข้างด้านขวา ปวดหลังล่างร่วมด้วย เป็นๆ หาย ๆ ตลอดระยะเวลา 1-2 ปี มีติดเชื้อปัสสวะบ่อย ครั้งล่าสุดที่เรามีอาการเสีดท้องมากจนนอนไม่ได้ เราเลยไปหาหมอให้ตรวจอัลต้าซาวด์ CTscan หมอวินิจฉัยว่าเป็นไตบวมน้ำเนื่องจากท่อไตตีบ เกิดจากความผิดปรกติของร่างกายตัวเองเพราะไม่พบนิ่วใด ๆ หมอจึงใส่สาย stent ที่ท่อไตประมาณ 4 เดือน ตอนนี้เอาสายออกได้ 2 อาทิตย์ อาการเสียดท้องและสีข้างด้านขวา ปวดหลังล่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่ไม่หนักเท่าครั้งแรก คำถามของเราคือ
1.อาการเสียดท้องและเสียดข้างด้านขวา ปวดหลังล่าง หลังจากเอาสาย stent ออกปรกติหรือไม่ ใช้เวลานานแคไหนถึงหาย
2.ท่อไตตีบสามารถกลับมาตีบได้อีกไหม
3.กรณีอาการที่เป็นอยู่ไม่หายเราต้องกลับไปหาหมอท่านเดิมใช่ไหม เราหารพ.เอกชน ใช้ประกันสุขภาพหากต้องรักษาต่อเนื่องเราคิดว่าอาจจะเกินวงเงินค่ารักษา อีกอย่างประกันเราจะจ่ายก็ต่อเมื่อนอนรพ.เท่านั้น เราจึงอยากย้ายไปรพ.รัฐ ได้ไหม
4.จำเป็นต้องเอาประวัติรักษาที่เดิมไปด้วยหรือไม่ หรือแจ้งประวัติเป็นวาจาเพื่อเริ่มการรักษาใหม่
5.หากต้องใส่สาย stent อีกครั้งจะมีวิธีรักษาอย่างอื่นไหม เรามีผลกระทบตอนใส่สายเวลาปัสสวะช่วงสุดจะปวดแสบร้อนมากจนต้องกินยาแก้ปวด
6.มีใครใส่สายเป็นปีแบบเปลี่ยนทุกปีบ้างไหมคะ มีผลกระทบอย่างไรบ้าง
รบกวนถามเรื่องท่อไตตีบเพื่อเป็นวิทยาทาน
1.อาการเสียดท้องและเสียดข้างด้านขวา ปวดหลังล่าง หลังจากเอาสาย stent ออกปรกติหรือไม่ ใช้เวลานานแคไหนถึงหาย
2.ท่อไตตีบสามารถกลับมาตีบได้อีกไหม
3.กรณีอาการที่เป็นอยู่ไม่หายเราต้องกลับไปหาหมอท่านเดิมใช่ไหม เราหารพ.เอกชน ใช้ประกันสุขภาพหากต้องรักษาต่อเนื่องเราคิดว่าอาจจะเกินวงเงินค่ารักษา อีกอย่างประกันเราจะจ่ายก็ต่อเมื่อนอนรพ.เท่านั้น เราจึงอยากย้ายไปรพ.รัฐ ได้ไหม
4.จำเป็นต้องเอาประวัติรักษาที่เดิมไปด้วยหรือไม่ หรือแจ้งประวัติเป็นวาจาเพื่อเริ่มการรักษาใหม่
5.หากต้องใส่สาย stent อีกครั้งจะมีวิธีรักษาอย่างอื่นไหม เรามีผลกระทบตอนใส่สายเวลาปัสสวะช่วงสุดจะปวดแสบร้อนมากจนต้องกินยาแก้ปวด
6.มีใครใส่สายเป็นปีแบบเปลี่ยนทุกปีบ้างไหมคะ มีผลกระทบอย่างไรบ้าง