ศูนย์ข้อมูล AI ใช้ไฟเยอะแค่ไหน?
ศูนย์ข้อมูลที่รัน AI ต้องใช้ไฟฟ้ามหาศาลเพื่อขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์เจ๋งๆ และระบบระบายความร้อนที่ทำงานหนักตลอดเวลา ข้อมูลในปี 2023 บอกว่า ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกกินไฟไปราว 2-3% ของไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ ในสหรัฐฯ ศูนย์ข้อมูลใช้ไฟไปถึง 4.4% ของทั้งประเทศ (ประมาณ 176 เทราวัตต์-ชั่วโมง) และคาดว่าภายในปี 2028 ตัวเลขอาจพุ่งไปถึง 6.7-12%! โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างเวอร์จิเนียตอนเหนือ ที่ศูนย์ข้อมูลกินไฟมากกว่า 25% ของไฟทั้งรัฐการรัน AI ต้องใช้ไฟแบบต่อเนื่อง แถมบางครั้งยังมีพีคที่พุ่งสูงแบบกะทันหัน ซึ่งระบบไฟฟ้าเก่าๆ ในหลายประเทศรับมือไม่ทัน เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาในยุคที่ยังไม่มี AI หรือศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์แบบนี้
แล้วมันกระทบคนทั่วไปยังไง?
เมื่อศูนย์ข้อมูล AI ใช้ไฟเยอะขนาดนี้ ระบบไฟฟ้าก็เริ่มร้องจ๊าก โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกคนใช้ไฟเยอะๆ เช่น หน้าร้อนหรือหน้าหนาว ทำให้บางครั้งหน่วยงานที่ดูแลไฟฟ้าต้องขอให้คนทั่วไปช่วยลดใช้ไฟ เช่น ปิดแอร์ งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่าง หรือเลี่ยงชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงที่ระบบกำลังตึง ผลกระทบที่คนทั่วไปเจอมีอะไรบ้าง?
ชีวิตประจำวันสะดุด: การต้องลดใช้ไฟทำให้หลายคนต้องทนร้อน หรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นน้อยลง อย่างเช่น คนที่ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ หรือครอบครัวที่อยากใช้แอร์ในหน้าร้อน อาจรู้สึกว่าไม่สะดวกและคุณภาพชีวิตแย่ลง
ค่าไฟแพงขึ้น: ความต้องการไฟที่พุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูลทำให้ค่าไฟโดยรวมแพงขึ้น ในสหรัฐฯ ค่าไฟสำหรับธุรกิจเพิ่มขึ้นเกือบ 30% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเริ่มกระทบถึงค่าไฟบ้านเรือนทั่วไป ทำให้หลายคนต้องจ่ายแพงขึ้นโดยไม่ได้ใช้ AI เองเลย
รู้สึกไม่แฟร์: ในบางพื้นที่ ศูนย์ข้อมูล AI ได้รับไฟฟ้าเป็นลำดับแรก เพราะถือเป็นโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้คนในชุมชนรู้สึกว่าถูกละเลย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไฟฟ้ามีจำกัด
ชาวบ้านร้องระงม AI กินไฟเยอะจนต้องร้องขอชีวิต
ศูนย์ข้อมูลที่รัน AI ต้องใช้ไฟฟ้ามหาศาลเพื่อขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์เจ๋งๆ และระบบระบายความร้อนที่ทำงานหนักตลอดเวลา ข้อมูลในปี 2023 บอกว่า ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกกินไฟไปราว 2-3% ของไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ ในสหรัฐฯ ศูนย์ข้อมูลใช้ไฟไปถึง 4.4% ของทั้งประเทศ (ประมาณ 176 เทราวัตต์-ชั่วโมง) และคาดว่าภายในปี 2028 ตัวเลขอาจพุ่งไปถึง 6.7-12%! โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างเวอร์จิเนียตอนเหนือ ที่ศูนย์ข้อมูลกินไฟมากกว่า 25% ของไฟทั้งรัฐการรัน AI ต้องใช้ไฟแบบต่อเนื่อง แถมบางครั้งยังมีพีคที่พุ่งสูงแบบกะทันหัน ซึ่งระบบไฟฟ้าเก่าๆ ในหลายประเทศรับมือไม่ทัน เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาในยุคที่ยังไม่มี AI หรือศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์แบบนี้
แล้วมันกระทบคนทั่วไปยังไง?
เมื่อศูนย์ข้อมูล AI ใช้ไฟเยอะขนาดนี้ ระบบไฟฟ้าก็เริ่มร้องจ๊าก โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกคนใช้ไฟเยอะๆ เช่น หน้าร้อนหรือหน้าหนาว ทำให้บางครั้งหน่วยงานที่ดูแลไฟฟ้าต้องขอให้คนทั่วไปช่วยลดใช้ไฟ เช่น ปิดแอร์ งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่าง หรือเลี่ยงชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงที่ระบบกำลังตึง ผลกระทบที่คนทั่วไปเจอมีอะไรบ้าง?
ชีวิตประจำวันสะดุด: การต้องลดใช้ไฟทำให้หลายคนต้องทนร้อน หรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นน้อยลง อย่างเช่น คนที่ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ หรือครอบครัวที่อยากใช้แอร์ในหน้าร้อน อาจรู้สึกว่าไม่สะดวกและคุณภาพชีวิตแย่ลง
ค่าไฟแพงขึ้น: ความต้องการไฟที่พุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูลทำให้ค่าไฟโดยรวมแพงขึ้น ในสหรัฐฯ ค่าไฟสำหรับธุรกิจเพิ่มขึ้นเกือบ 30% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเริ่มกระทบถึงค่าไฟบ้านเรือนทั่วไป ทำให้หลายคนต้องจ่ายแพงขึ้นโดยไม่ได้ใช้ AI เองเลย
รู้สึกไม่แฟร์: ในบางพื้นที่ ศูนย์ข้อมูล AI ได้รับไฟฟ้าเป็นลำดับแรก เพราะถือเป็นโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้คนในชุมชนรู้สึกว่าถูกละเลย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไฟฟ้ามีจำกัด