1. เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B หมายถึงคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489 - 2507 หรือในยุคสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
2. อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสาร แลก
เปลี่ยนข้อมูล และเข้าถึงแหล่งความรู้ต่างๆ ได้อย่างสะดวก เกิดขึ้นในปี
ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) เริ่มมีใช้ในประเทศไทยเมื่อ
พ.ศ. 2530 โดย
การเชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศ
ออสเตรเลีย การให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม
พ.ศ. 2538 เริ่มมีการใช้ครอบคลุมทั้งพื้นที่และ
ฟังก์ชั่นการใช้งานจริง ๆ น่าจะนับไปว่าจริง ๆ แล้วคือปี
พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา
3. เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B รุ่นสุดท้ายจบปริญญาตรีประมาณปี พ.ศ. 2530 อายุประมาณ 24 ปี (หลักสูตรสมัยก่อน ป.1-7,
ม.ศ.1-5 และ ป.ตรี 4 ปี)
มองเห็นอะไรไหมครับ สมัยนั้นที่เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B จบปริญญาตรีอินเตอร์เน็ตยังไม่มีการใช้งานในประเทศไทย กว่าจะเริ่มมีการให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยก็ พ.ศ. 2538 ตอนนั้น Gen-B ก็มีอายุประมาณ 39 ปี แต่อินเตอร์เน็ตตอนนั้นยังใช้งานได้ไม่มากนักแค่ส่งอีเมล์ แชต หรือทำเว็ปไซท์สวย ๆ ง่าย ๆ กว่าจะใช้งานกันได้ครอบคลุมอย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็เมื่อประมาสัก 10 กว่าปีมานี่เอง ตอนนั้น Gen-B ก็อายุประมาณ 50 ปี แล้วมันเกี่ยวกันอย่างไรลองมาไล่กันดูครับ
- ปี พ.ศ. 2523 เศรษฐกิจของไทยยังไม่โตเหมือนกับตอนนี้ (โครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด หรือ โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก
(Eastern Seaboard Development Program)) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539) การติดต่อสื่อสารส่วนใหญ่เร็วที่สุดน่าจะเป็นโทรเลขและโทรศัพท์
บ้าน ตลาดแรงงานยังแคบอยู่โอกาสที่จะเลือกงานยังมีน้อย
- ปี พ.ศ. 2523 - 2540 การประกาศรับสมัครงานส่วนใหญ่คือในหนังสือพิมพ์ และการสมัครงานคือการส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ หรือไม่อย่างนั้นก็คือ
นั่งรถประจำทางไปเขียนใบสมัครที่บริษัทหรือโรงงาน อยู่กรุงเทพอยากไปสมัครงานที่ระยองก็หมดวันไปแล้ว
- ปี พ.ศ. 2550 การสื่อสารสะดวกขึ้นข้อมูลทุกอย่างเริ่มอยู่ในอินเตอร์เน็ต อยากจะหางานหรือสมัครงานหรือสัมภาษณ์งานทำแบบออนไลน์ได้สะดวก
มาก แต่ตอนนั้น Gen-B ก็อายุประมาณ 50 ปีแล้ว ส่วนหนึ่งก็ตำแหน่งมั่นคงรอวันเกษียณ อีกส่วนหนึ่งก็กอดงานแน่นภาวนาว่าอย่าให้โดนปลดออก
เลยจะเกษียณแล้ว อายุขนาดนี้หางานแทบไม่ได้แล้ว นอกจากเฉพาะทางและฝีมือเทพจริง ๆ
- เรื่องจริง ๆ คือเขาไม่ได้ตั้งใจกอดงานกอดตำแหน่งแบบภักดีอะไรหรอก
เหตุการณ์มันบังคับให้เป็นแบบนั้น แต่ก็ต้องบอกว่าในยุคของเถ้าแก่
เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B หลาย ๆ ที่หลาย ๆ คนก็เลี้ยงลูกน้องได้ดีจริง ๆ แบบว่าอยู่กันให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยระหว่างเถ้าแก่
กับลูกน้อง ดังนั้นลูกน้อง / ลูกจ้างหลาย ๆ คนจึงไม่คิดจะเปลี่ยนงาน
- อย่าว่าแต่เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B ไม่เปลี่ยนงานเลย ขนาดเด็กจบใหม่ปัจจุบันแท้ ๆ ยังร้องกันให้ระงมเลยว่าหางานยาก จบมา
ตั้งนานแล้วยังหางานไม่ได้เลยบลา ๆ ๆ หรือแบบว่าอายุ 40 กว่าตกงานทำอย่างไรดีหางานยากมากเลยประมาณนั้น
- แล้วแบบนี้ยังจะให้คนอายุ 50 เอาความอยู่รอดของครอบครัวมาเสี่ยงหรือครับ ไม่มีทางแน่นอนถ้าไม่โดนบีบจนหมดหนทาง
ปล. ไม่ต้องไปห่วงเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B เขาหรอกครับ เขาแค่รอเวลาที่จะได้พักผ่อนอยู่กับครอบครัว ปลูกผักปลูกหญ้า เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว หรือท่องเที่ยวหาความสุขในบั้นปลายแล้ว ห่วงก็แต่พวก generation อื่น ๆ ที่ยังต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องดูแลครอบครัวในตอนนี้นั่นแหละ เอาตัวให้รอดดี ๆ จนถึงเกษียณเถอะ กับชีวิตแบบ work life balance และของมันต้องมี
"มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อยู่ดี กินดีกันนะพี่น้อง"
กับคำถามที่ว่าเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B ทำไมถึงทนทำงานที่เดิมนาน ๆ หรือว่านี่คือเหตุผล
2. อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสาร แลก
เปลี่ยนข้อมูล และเข้าถึงแหล่งความรู้ต่างๆ ได้อย่างสะดวก เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) เริ่มมีใช้ในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2530 โดย
การเชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศ
ออสเตรเลีย การให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2538 เริ่มมีการใช้ครอบคลุมทั้งพื้นที่และ
ฟังก์ชั่นการใช้งานจริง ๆ น่าจะนับไปว่าจริง ๆ แล้วคือปี พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา
3. เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B รุ่นสุดท้ายจบปริญญาตรีประมาณปี พ.ศ. 2530 อายุประมาณ 24 ปี (หลักสูตรสมัยก่อน ป.1-7,
ม.ศ.1-5 และ ป.ตรี 4 ปี)
มองเห็นอะไรไหมครับ สมัยนั้นที่เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B จบปริญญาตรีอินเตอร์เน็ตยังไม่มีการใช้งานในประเทศไทย กว่าจะเริ่มมีการให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยก็ พ.ศ. 2538 ตอนนั้น Gen-B ก็มีอายุประมาณ 39 ปี แต่อินเตอร์เน็ตตอนนั้นยังใช้งานได้ไม่มากนักแค่ส่งอีเมล์ แชต หรือทำเว็ปไซท์สวย ๆ ง่าย ๆ กว่าจะใช้งานกันได้ครอบคลุมอย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็เมื่อประมาสัก 10 กว่าปีมานี่เอง ตอนนั้น Gen-B ก็อายุประมาณ 50 ปี แล้วมันเกี่ยวกันอย่างไรลองมาไล่กันดูครับ
- ปี พ.ศ. 2523 เศรษฐกิจของไทยยังไม่โตเหมือนกับตอนนี้ (โครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด หรือ โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก
(Eastern Seaboard Development Program)) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539) การติดต่อสื่อสารส่วนใหญ่เร็วที่สุดน่าจะเป็นโทรเลขและโทรศัพท์
บ้าน ตลาดแรงงานยังแคบอยู่โอกาสที่จะเลือกงานยังมีน้อย
- ปี พ.ศ. 2523 - 2540 การประกาศรับสมัครงานส่วนใหญ่คือในหนังสือพิมพ์ และการสมัครงานคือการส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ หรือไม่อย่างนั้นก็คือ
นั่งรถประจำทางไปเขียนใบสมัครที่บริษัทหรือโรงงาน อยู่กรุงเทพอยากไปสมัครงานที่ระยองก็หมดวันไปแล้ว
- ปี พ.ศ. 2550 การสื่อสารสะดวกขึ้นข้อมูลทุกอย่างเริ่มอยู่ในอินเตอร์เน็ต อยากจะหางานหรือสมัครงานหรือสัมภาษณ์งานทำแบบออนไลน์ได้สะดวก
มาก แต่ตอนนั้น Gen-B ก็อายุประมาณ 50 ปีแล้ว ส่วนหนึ่งก็ตำแหน่งมั่นคงรอวันเกษียณ อีกส่วนหนึ่งก็กอดงานแน่นภาวนาว่าอย่าให้โดนปลดออก
เลยจะเกษียณแล้ว อายุขนาดนี้หางานแทบไม่ได้แล้ว นอกจากเฉพาะทางและฝีมือเทพจริง ๆ
- เรื่องจริง ๆ คือเขาไม่ได้ตั้งใจกอดงานกอดตำแหน่งแบบภักดีอะไรหรอก เหตุการณ์มันบังคับให้เป็นแบบนั้น แต่ก็ต้องบอกว่าในยุคของเถ้าแก่
เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B หลาย ๆ ที่หลาย ๆ คนก็เลี้ยงลูกน้องได้ดีจริง ๆ แบบว่าอยู่กันให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยระหว่างเถ้าแก่
กับลูกน้อง ดังนั้นลูกน้อง / ลูกจ้างหลาย ๆ คนจึงไม่คิดจะเปลี่ยนงาน
- อย่าว่าแต่เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B ไม่เปลี่ยนงานเลย ขนาดเด็กจบใหม่ปัจจุบันแท้ ๆ ยังร้องกันให้ระงมเลยว่าหางานยาก จบมา
ตั้งนานแล้วยังหางานไม่ได้เลยบลา ๆ ๆ หรือแบบว่าอายุ 40 กว่าตกงานทำอย่างไรดีหางานยากมากเลยประมาณนั้น
- แล้วแบบนี้ยังจะให้คนอายุ 50 เอาความอยู่รอดของครอบครัวมาเสี่ยงหรือครับ ไม่มีทางแน่นอนถ้าไม่โดนบีบจนหมดหนทาง
ปล. ไม่ต้องไปห่วงเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือ Gen-B เขาหรอกครับ เขาแค่รอเวลาที่จะได้พักผ่อนอยู่กับครอบครัว ปลูกผักปลูกหญ้า เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว หรือท่องเที่ยวหาความสุขในบั้นปลายแล้ว ห่วงก็แต่พวก generation อื่น ๆ ที่ยังต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องดูแลครอบครัวในตอนนี้นั่นแหละ เอาตัวให้รอดดี ๆ จนถึงเกษียณเถอะ กับชีวิตแบบ work life balance และของมันต้องมี
"มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อยู่ดี กินดีกันนะพี่น้อง"