สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 2568)--สื่อกัมพูชารายงานวันนี้ (18 ส.ค.) ว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเตือนสติพี่น้องประชาชนชาวกัมพูชา ให้มีใจตื่นตัวอยู่เสมอ อย่าได้ตกเป็นเครื่องมือของศัตรู และให้คำนึงถึงประโยชน์สุขของชาติบ้านเมืองเป็นอันดับแรก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ภายหลังเกิดกระแสปลุกปั่นให้ต่อต้านผลิตภัณฑ์โคคา-โคล่า (Coca-Cola) สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัทฯ ได้บอกเลิกสัญญากับ "แวนด้า" (VannDa) แรปเปอร์ชื่อดัง จากการเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ดังกล่าว
สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุว่า "ประการแรกสุด เราต้องสืบให้ชัดเสียก่อนว่า บริษัทฯ ได้ยุติสัญญาของแวนด้าเพราะเหตุแห่งความรักชาติของเขาจริงหรือไม่" และ "ประการที่สอง แม้โคคา-โคล่าจะเป็นสินค้าของอเมริกันก็จริงอยู่ แต่ก็ถือเป็นผลผลิตของแผ่นดินกัมพูชาโดยแท้ เพราะผลิตขึ้นในบ้านเรา ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้แก่คนงานชาวกัมพูชา ทั้งยังเป็นเงินภาษีเข้าแผ่นดินเพื่อค้ำจุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติ"
สมเด็จฯ ฮุน เซน เตือนว่า หากบริษัทฯ จำต้องถอนตัวออกจากกัมพูชา ผู้ที่เจ็บช้ำที่สุดก็คือชาวกัมพูชาเราเอง ในขณะที่ศัตรูจะได้ประโยชน์
สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้รำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ศัตรูเคยหมายจะบั่นทอนเศรษฐกิจกัมพูชาด้วยการขู่ตัดน้ำตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ตและน้ำมันมาแล้ว แต่กัมพูชาก็ได้ป้องกันชาติบ้านเมืองไว้ได้ทันท่วงที
"ผมคงไม่ขัดข้องถ้าโคคา-โคล่านั้นผลิตในเมืองไทย ท่านจะเลิกดื่มก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เมื่อมันผลิตในกัมพูชา การคว่ำบาตรก็เท่ากับทำลายหน้าที่การงานและรายได้ของประชาชนและของรัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม" สมเด็จฯ ฮุน เซน ย้ำ
นอกเหนือจากเล่ห์กลทางเศรษฐกิจแล้ว สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้ชี้ให้เห็นว่า ศัตรูกำลังพยายามผลักไสให้กัมพูชาต้องเข้าสู่สภาวะเผชิญหน้ากับมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา อันจะนำมาซึ่งความยุ่งยากใหญ่หลวงต่อกิจการบ้านเมือง ทั้งในด้านการทูต การค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
"จึงขอวิงวอนพี่น้องทั้งหลาย โปรดอย่าได้ตกหลุมพรางของศัตรูเป็นอันขาด แม้แต่บริษัทของไทยที่มาลงทุนในกัมพูชา เราก็จำต้องรักษาเขาไว้ เพื่อให้ประโยชน์สุขตกอยู่แก่ประชาชนและประเทศชาติของเราต่อไป" สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าว
แบนทุกอย่างแล้วจะกินอะไร
"ฮุน เซน" วอนชาวกัมพูชาอย่าหลงกลศัตรู ชี้คว่ำบาตร "โค้ก" คือการทุบหม้อข้าวตัวเอง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ภายหลังเกิดกระแสปลุกปั่นให้ต่อต้านผลิตภัณฑ์โคคา-โคล่า (Coca-Cola) สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัทฯ ได้บอกเลิกสัญญากับ "แวนด้า" (VannDa) แรปเปอร์ชื่อดัง จากการเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ดังกล่าว
สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุว่า "ประการแรกสุด เราต้องสืบให้ชัดเสียก่อนว่า บริษัทฯ ได้ยุติสัญญาของแวนด้าเพราะเหตุแห่งความรักชาติของเขาจริงหรือไม่" และ "ประการที่สอง แม้โคคา-โคล่าจะเป็นสินค้าของอเมริกันก็จริงอยู่ แต่ก็ถือเป็นผลผลิตของแผ่นดินกัมพูชาโดยแท้ เพราะผลิตขึ้นในบ้านเรา ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้แก่คนงานชาวกัมพูชา ทั้งยังเป็นเงินภาษีเข้าแผ่นดินเพื่อค้ำจุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติ"
สมเด็จฯ ฮุน เซน เตือนว่า หากบริษัทฯ จำต้องถอนตัวออกจากกัมพูชา ผู้ที่เจ็บช้ำที่สุดก็คือชาวกัมพูชาเราเอง ในขณะที่ศัตรูจะได้ประโยชน์
สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้รำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ศัตรูเคยหมายจะบั่นทอนเศรษฐกิจกัมพูชาด้วยการขู่ตัดน้ำตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ตและน้ำมันมาแล้ว แต่กัมพูชาก็ได้ป้องกันชาติบ้านเมืองไว้ได้ทันท่วงที
"ผมคงไม่ขัดข้องถ้าโคคา-โคล่านั้นผลิตในเมืองไทย ท่านจะเลิกดื่มก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เมื่อมันผลิตในกัมพูชา การคว่ำบาตรก็เท่ากับทำลายหน้าที่การงานและรายได้ของประชาชนและของรัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม" สมเด็จฯ ฮุน เซน ย้ำ
นอกเหนือจากเล่ห์กลทางเศรษฐกิจแล้ว สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้ชี้ให้เห็นว่า ศัตรูกำลังพยายามผลักไสให้กัมพูชาต้องเข้าสู่สภาวะเผชิญหน้ากับมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา อันจะนำมาซึ่งความยุ่งยากใหญ่หลวงต่อกิจการบ้านเมือง ทั้งในด้านการทูต การค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
"จึงขอวิงวอนพี่น้องทั้งหลาย โปรดอย่าได้ตกหลุมพรางของศัตรูเป็นอันขาด แม้แต่บริษัทของไทยที่มาลงทุนในกัมพูชา เราก็จำต้องรักษาเขาไว้ เพื่อให้ประโยชน์สุขตกอยู่แก่ประชาชนและประเทศชาติของเราต่อไป" สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าว
แบนทุกอย่างแล้วจะกินอะไร