โมดี เอาจริงแหะ กล้าชนของใหญ่
นายกฯโมดีประกาศยืนหยัด ‘ปกป้องเกษตรกร’ ท้าชนภาษีทรัมป์ พร้อมเดินหน้าผลักดันอินเดียพึ่งพาตนเอง ผลิตในอินเดียให้ได้ ครอบคลุมตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานนิวเคลียร์ จนถึงการผลิตอาวุธและเครื่องยนต์ไอพ่น
“นเรนทรา โมดี” นายกรัฐมนตรีอินเดียประกาศในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า จะไม่ทำข้อตกลงการค้าที่สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรอินเดีย ซึ่งถือเป็นการ “ส่งสัญญาณชัดเจนถึงสหรัฐ” ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์
“เกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ และชาวประมงของอินเดีย คือความสำคัญสูงสุดของเรา ผมยืนหยัดดุจป้อมปราการ พร้อมต่อต้านนโยบายใด ๆ ที่ทำลายผลประโยชน์ของพวกเขา” โมดีกล่าวปราศรัยเป็นภาษาฮินดีจากป้อมแดงแห่งกรุงเดลี เนื่องในวันประกาศเอกราชปีที่ 79 ของอินเดีย
ถ้อยแถลงของโมดี มีขึ้นในขณะที่ “สินค้าเกษตร” และ “ผลิตภัณฑ์นม” กลายเป็นประเด็นติดขัดในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ เนื่องจากอินเดียไม่เต็มใจที่จะเปิดตลาดในภาคส่วนเหล่านี้
คำกล่าวของนายกรัฐมนตรี มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ประกาศเก็บ “ภาษีตอบโต้” พื้นฐานในอัตรา 25% ต่ออินเดีย และยังเตรียมเก็บภาษีเพิ่มอีก 25% จากการที่อินเดียซื้อน้ำมันและอาวุธจากรัสเซีย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ปลายเดือนนี้ ทำให้รวมแล้วเป็นภาษี 50%
.
ในการปราศรัยเนื่องในวันประกาศเอกราชติดต่อกันเป็นครั้งที่ 12 นับตั้งแต่รับตำแหน่งในปี 2014 โมดีได้ผลักดันแนวทาง “พึ่งพาตนเอง” ในหลายภาคส่วน รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ พลังงาน และการป้องกันประเทศ
“ภายในสิ้นปีนี้ ชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในอินเดีย ผลิตโดยคนอินเดีย จะออกสู่ตลาด” โมดีลั่น
ในสุนทรพจน์ โมดีได้เน้นย้ำแนวคิด “ผลิตในอินเดีย” โดยกล่าวว่า ประเทศต้องพิสูจน์ศักยภาพในตลาดโลกด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล “มนต์สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ควรเป็นลดต้นทุนแต่เพิ่มมูลค่า”
ในประเด็นด้านพลังงาน โมดีกล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า อินเดียต้องพึ่งพาหลายประเทศเพื่อสนองความต้องการด้านพลังงานของตน และต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล หรือก๊าซ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประเทศต้องพึ่งพาตนเองในด้านนี้
“เมื่อคำนึงถึงความต้องการพลังงานในอนาคต อินเดียยังได้ดำเนินโครงการขนาดใหญ่มากในด้านพลังงานนิวเคลียร์ ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่ 10 เครื่อง และเรากำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ให้มากขึ้นถึงสิบเท่าภายในปี 2047 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 100 ปีเอกราชของอินเดีย และเป็นปีที่ประเทศตั้งเป้าหมายจะเป็นชาติพัฒนาแล้ว” โมดีกล่าว
นอกจากนี้ โมดียังได้เรียกร้องให้เกิดการพึ่งพาตนเองในด้านการป้องกันประเทศอีกด้วย “วันนี้ ผมขอเรียกร้องไปยังนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของประเทศ เยาวชนผู้มีความสามารถ วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของเรา ตลอดจนทุกหน่วยงานของรัฐบาลว่า เราควรมีเครื่องยนต์ไอพ่นของเราเองสำหรับเครื่องบินรบที่ผลิตในอินเดีย”
(ลิงก์อ่านต่อ)
https://www.bangkokbiznews.com/world/1194461?fbclid=IwQ0xDSwMM3G9jbGNrAwzcbWV4dG4DYWVtAjExAAEeqeRTprx3W-cXr_OYDtO-BvDrFRXgGES7mOqegUV6Zw7uoZRZyhN6mYtWcZk_aem_nCFED3W0jg6wZRqyaB-C3A
โมดีลั่น ไม่ขายเกษตรกรแลกดีลสหรัฐ พร้อมท้าชนภาษีทรัมป์ 50% เดินหน้า ‘ผลิตในอินเดีย’ พึ่งพาตนเองทุกด้าน
นายกฯโมดีประกาศยืนหยัด ‘ปกป้องเกษตรกร’ ท้าชนภาษีทรัมป์ พร้อมเดินหน้าผลักดันอินเดียพึ่งพาตนเอง ผลิตในอินเดียให้ได้ ครอบคลุมตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานนิวเคลียร์ จนถึงการผลิตอาวุธและเครื่องยนต์ไอพ่น
“นเรนทรา โมดี” นายกรัฐมนตรีอินเดียประกาศในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า จะไม่ทำข้อตกลงการค้าที่สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรอินเดีย ซึ่งถือเป็นการ “ส่งสัญญาณชัดเจนถึงสหรัฐ” ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์
“เกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ และชาวประมงของอินเดีย คือความสำคัญสูงสุดของเรา ผมยืนหยัดดุจป้อมปราการ พร้อมต่อต้านนโยบายใด ๆ ที่ทำลายผลประโยชน์ของพวกเขา” โมดีกล่าวปราศรัยเป็นภาษาฮินดีจากป้อมแดงแห่งกรุงเดลี เนื่องในวันประกาศเอกราชปีที่ 79 ของอินเดีย
ถ้อยแถลงของโมดี มีขึ้นในขณะที่ “สินค้าเกษตร” และ “ผลิตภัณฑ์นม” กลายเป็นประเด็นติดขัดในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ เนื่องจากอินเดียไม่เต็มใจที่จะเปิดตลาดในภาคส่วนเหล่านี้
คำกล่าวของนายกรัฐมนตรี มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ประกาศเก็บ “ภาษีตอบโต้” พื้นฐานในอัตรา 25% ต่ออินเดีย และยังเตรียมเก็บภาษีเพิ่มอีก 25% จากการที่อินเดียซื้อน้ำมันและอาวุธจากรัสเซีย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ปลายเดือนนี้ ทำให้รวมแล้วเป็นภาษี 50%
.
ในการปราศรัยเนื่องในวันประกาศเอกราชติดต่อกันเป็นครั้งที่ 12 นับตั้งแต่รับตำแหน่งในปี 2014 โมดีได้ผลักดันแนวทาง “พึ่งพาตนเอง” ในหลายภาคส่วน รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ พลังงาน และการป้องกันประเทศ
“ภายในสิ้นปีนี้ ชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในอินเดีย ผลิตโดยคนอินเดีย จะออกสู่ตลาด” โมดีลั่น
ในสุนทรพจน์ โมดีได้เน้นย้ำแนวคิด “ผลิตในอินเดีย” โดยกล่าวว่า ประเทศต้องพิสูจน์ศักยภาพในตลาดโลกด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล “มนต์สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ควรเป็นลดต้นทุนแต่เพิ่มมูลค่า”
ในประเด็นด้านพลังงาน โมดีกล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า อินเดียต้องพึ่งพาหลายประเทศเพื่อสนองความต้องการด้านพลังงานของตน และต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล หรือก๊าซ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประเทศต้องพึ่งพาตนเองในด้านนี้
“เมื่อคำนึงถึงความต้องการพลังงานในอนาคต อินเดียยังได้ดำเนินโครงการขนาดใหญ่มากในด้านพลังงานนิวเคลียร์ ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่ 10 เครื่อง และเรากำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ให้มากขึ้นถึงสิบเท่าภายในปี 2047 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 100 ปีเอกราชของอินเดีย และเป็นปีที่ประเทศตั้งเป้าหมายจะเป็นชาติพัฒนาแล้ว” โมดีกล่าว
นอกจากนี้ โมดียังได้เรียกร้องให้เกิดการพึ่งพาตนเองในด้านการป้องกันประเทศอีกด้วย “วันนี้ ผมขอเรียกร้องไปยังนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของประเทศ เยาวชนผู้มีความสามารถ วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของเรา ตลอดจนทุกหน่วยงานของรัฐบาลว่า เราควรมีเครื่องยนต์ไอพ่นของเราเองสำหรับเครื่องบินรบที่ผลิตในอินเดีย”
(ลิงก์อ่านต่อ)
https://www.bangkokbiznews.com/world/1194461?fbclid=IwQ0xDSwMM3G9jbGNrAwzcbWV4dG4DYWVtAjExAAEeqeRTprx3W-cXr_OYDtO-BvDrFRXgGES7mOqegUV6Zw7uoZRZyhN6mYtWcZk_aem_nCFED3W0jg6wZRqyaB-C3A