- หุ้นไทยหมดเวลารวยแล้ว ตั้งแต่เล่นหุ้นมาเคยได้หุ้นไทย 5 เด้ง แค่ 2 ตัว ออกจากตลาดไปแล้ว (แน่นอนว่ามี sxxxx 1 ตัวในนั้น) นี่ยังนึกเสียดายจมปลักในหุ้นไทยนานเกินไปถึง 20 ปี นานเกินไป กว่าจะไหวตัวได้ เลยขายทำกำไรกลายเป็นทุนต่อทุนในการออกสู่ต่างประเทศ ประเทศแรกที่ผมไป คือ อินเดีย ไม่ใช่เวียดนาม คือ ตอนนั้น พอดีมีรู้จักคนอินเดีย ผมเป็นลูกค้าเขา เขาบอกว่า บริษัทเขาจะเข้าตลาดหุ้นอินเดีย ไอ้เราก็ไม่เข้าใจนักหรอก มันใหญ่ยังไง แต่รู้ว่าใหญ่ พอเริ่มเข้าไปดูสินทรัพย์บริษัท โอ้โห มันเอาจริงแฮะ ได้มาแบบฟลุกๆ ความรู้น้อยนิด อีกครั้งก็เกิดจากการไปวิ่งกับกูรูวีไอเมืองไทย แล้วกูรูด้อกเตอร์ขายหนังสือเต็มร้าน พูดถึงเวียดนามตลอด จนเราต้องเดินทางไปเวียดนามให้เห็นด้วยตา พอดีรู้จักคนเวียดนามเลยให้ไปเป็นไกด์ในการเดินทางประกอบการท่องเที่ยวด้วย เริ่มเปิดโลกตอนนั้นแหล่ะ เพราะนางเล่าค้าปลีกในเวียดนามให้ฟังหมด เริ่มอ๋อ ตั้งแต่ตอนนั้น ขอบคุณน้องทัน สาวเวียดนาม ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ให้ผมมาด้วย ณ ทีนี้
- ผลตอบแทนหุ้นรายตัวในหุ้นอินเดีย มีอยู่ 2 ตัว ที่กำไรเกิน 10 เด้งแล้ว (เล่าไปแล้วว่า มาที่อินเดียได้โดยบังเอิญมากๆ)
- ผลตอบแทนหุ้นสหรัฐ มีอยู่ 2 ตัว ที่กำไร 3 เด้งขึ้นไป (อันนี้เล่นตามกระแส เพราะ บลจ บัวหลวง แนะนำเหลือเกิน ก็เอาวะ จริงๆรู้จักเมกามาตลอด เพราะพอดีได้ไปเรียนที่นั่น แต่การไปเรียนกับการลงทุน มันคนละมุมมอง การไปเที่ยวกับการลงทุนก็คนละมุมมองเหมือนกัน) พอดีภาษาเราได้ ก็โอเคนะ อ่านๆไป analyst report ศัพท์แสงทางธุรกิจเราก็พอเข้าใจ กล้าๆกลัวๆ ความทรงจำที่ดีครั้งแรกตอนไปเมกา เราเดินทางไปคนเดียว ตอนนั้นปี 2538 ได้นะ แค่จากสนามบินไปที่พัก เราหมดเงินไป 6,000 บาทแล้วอะ ตกใจในราคาแทกซี่เมกามากๆ
- ปัจจุบันไม่ได้สนใจหุ้นไทยแล้ว กำลังมองหาหุ้นดีๆ ในประเทศที่คนไทยไม่ค่อยสนใจ เสมือนการเที่ยวในต่างประเทศ พอดีชอบความแปลกใหม่ ขออุบไว้ก่อนว่าเป็นประเทศอะไร เอาไว้เราลงทุนสำเร็จก่อนค่อยมาอวด
- การอ่านวารสารต่างประเทศประจำทุกวัน มีความจำเป็น เสมือนเข็มทิศในการเดินเรือ เราอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจภาษาอังกฤษมานาน ตั้งแต่ปี 2535 แล้วอะ เลยกลายเป็นกิจกรรมตอนเช้าของเรา เราเคยจะทำยูทูปเกี่ยวกับเรื่องที่เราถนัด แต่เราไม่ชอบเปิดเผยตัวเอง เราว่าเราเงียบๆ แบบนี้ดีแล้ว (แต่ปัจจุบันเราก็ทำธุรกิจที่บ้านอยู่)
- สงสัยว่า นักลงทุนบ้านเรา conservative เกินไป จนไม่กล้าเดินเรือออกหาปลาที่น่านน้ำอื่น เปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าให้ได้ ข้อนี้เหมือนการเดินทางต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ความกลัวมาเต็ม เคยเดินทางไปเมกาตอนวัยรุ่นคนเดียวเข้าใจดี เหงา กังวล หลายอย่างบอกไม่ถูก ต้องช่วยเหลือตัวเองสุดๆ ทั้งเรื่องการปรับตัวกับท้องถิ่นให้ม่ วัฒนธรรม และภาษา แต่พอผ่านไปเดือนกว่า เริ่มฝันเป็นภาษาอังกฤษแทนภาษาไทยได้แล้ว เช้าวันนั้น เราตื่นมาแล้วอุทานเป็นฝรั่งทุกคำแล้ว เราออกจากที่บ้านด้วยความมั่นใจ ทักทายคนไปทั่วเลย เราขจัดความกลัวได้แล้ว เราพักย่านซานต้า โมนิก้า แอลเอ นะ
- หลักการวีไอ เทคนิคอล อย่าไปสนใจมาก ทั้งที่เราก็แม่นมากในทฤษฎี อย่าไปบ้าตามกูรูมาก ถ้ามันรวยจริงแบบที่เขาว่า มาบอกทำไม หาทางรวยเงียบเองดีกว่า หลังๆ เราไม่ค่อยฟังกูรูเมืองไทย พวกนี้แค่อ่านมา แปลมา ไม่ได้เข้าใจบริบทคนตะวันตกเท่าไหร่ เนื้อหาจึงมัก bias และแฝงความฉาบฉวยด่วนสรุป (reap of abstraction) อยู่มาก หลังๆ เรานิ่งแบบมีความสุขในสิ่งที่เราเป็นอยู่มากกว่า เล่นกับหมูกับหมาที่เลี้ยงไว้ไปวันๆ มีความสุขดี
ประสบการณ์เล่นหุ้น 30+ ปี ได้อะไร
- ผลตอบแทนหุ้นรายตัวในหุ้นอินเดีย มีอยู่ 2 ตัว ที่กำไรเกิน 10 เด้งแล้ว (เล่าไปแล้วว่า มาที่อินเดียได้โดยบังเอิญมากๆ)
- ผลตอบแทนหุ้นสหรัฐ มีอยู่ 2 ตัว ที่กำไร 3 เด้งขึ้นไป (อันนี้เล่นตามกระแส เพราะ บลจ บัวหลวง แนะนำเหลือเกิน ก็เอาวะ จริงๆรู้จักเมกามาตลอด เพราะพอดีได้ไปเรียนที่นั่น แต่การไปเรียนกับการลงทุน มันคนละมุมมอง การไปเที่ยวกับการลงทุนก็คนละมุมมองเหมือนกัน) พอดีภาษาเราได้ ก็โอเคนะ อ่านๆไป analyst report ศัพท์แสงทางธุรกิจเราก็พอเข้าใจ กล้าๆกลัวๆ ความทรงจำที่ดีครั้งแรกตอนไปเมกา เราเดินทางไปคนเดียว ตอนนั้นปี 2538 ได้นะ แค่จากสนามบินไปที่พัก เราหมดเงินไป 6,000 บาทแล้วอะ ตกใจในราคาแทกซี่เมกามากๆ
- ปัจจุบันไม่ได้สนใจหุ้นไทยแล้ว กำลังมองหาหุ้นดีๆ ในประเทศที่คนไทยไม่ค่อยสนใจ เสมือนการเที่ยวในต่างประเทศ พอดีชอบความแปลกใหม่ ขออุบไว้ก่อนว่าเป็นประเทศอะไร เอาไว้เราลงทุนสำเร็จก่อนค่อยมาอวด
- การอ่านวารสารต่างประเทศประจำทุกวัน มีความจำเป็น เสมือนเข็มทิศในการเดินเรือ เราอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจภาษาอังกฤษมานาน ตั้งแต่ปี 2535 แล้วอะ เลยกลายเป็นกิจกรรมตอนเช้าของเรา เราเคยจะทำยูทูปเกี่ยวกับเรื่องที่เราถนัด แต่เราไม่ชอบเปิดเผยตัวเอง เราว่าเราเงียบๆ แบบนี้ดีแล้ว (แต่ปัจจุบันเราก็ทำธุรกิจที่บ้านอยู่)
- สงสัยว่า นักลงทุนบ้านเรา conservative เกินไป จนไม่กล้าเดินเรือออกหาปลาที่น่านน้ำอื่น เปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าให้ได้ ข้อนี้เหมือนการเดินทางต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ความกลัวมาเต็ม เคยเดินทางไปเมกาตอนวัยรุ่นคนเดียวเข้าใจดี เหงา กังวล หลายอย่างบอกไม่ถูก ต้องช่วยเหลือตัวเองสุดๆ ทั้งเรื่องการปรับตัวกับท้องถิ่นให้ม่ วัฒนธรรม และภาษา แต่พอผ่านไปเดือนกว่า เริ่มฝันเป็นภาษาอังกฤษแทนภาษาไทยได้แล้ว เช้าวันนั้น เราตื่นมาแล้วอุทานเป็นฝรั่งทุกคำแล้ว เราออกจากที่บ้านด้วยความมั่นใจ ทักทายคนไปทั่วเลย เราขจัดความกลัวได้แล้ว เราพักย่านซานต้า โมนิก้า แอลเอ นะ
- หลักการวีไอ เทคนิคอล อย่าไปสนใจมาก ทั้งที่เราก็แม่นมากในทฤษฎี อย่าไปบ้าตามกูรูมาก ถ้ามันรวยจริงแบบที่เขาว่า มาบอกทำไม หาทางรวยเงียบเองดีกว่า หลังๆ เราไม่ค่อยฟังกูรูเมืองไทย พวกนี้แค่อ่านมา แปลมา ไม่ได้เข้าใจบริบทคนตะวันตกเท่าไหร่ เนื้อหาจึงมัก bias และแฝงความฉาบฉวยด่วนสรุป (reap of abstraction) อยู่มาก หลังๆ เรานิ่งแบบมีความสุขในสิ่งที่เราเป็นอยู่มากกว่า เล่นกับหมูกับหมาที่เลี้ยงไว้ไปวันๆ มีความสุขดี