ถ้าเพื่อนๆ ติดตามโลกการลงทุนไทยช่วงนี้ ชื่อของ CK Fastwork ต้องเคยผ่านหูมาบ้างแน่นอน
จากบทสัมภาษณ์หลายเวทีที่ถูกแชร์ต่อกันรัวๆ หนึ่งในวาทะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ
👉 “ลงทุนใน S&P500 ระยะยาว 10 ปี ไม่เคยขาดทุน”
คำพูดนี้มัน “โดน” เพราะตรงกับสิ่งที่นักลงทุนเกือบทุกคนกลัวที่สุด — การขาดทุน
มันเหมือนยาแก้ปวดที่ตอบโจทย์ทันที: แค่ถือยาวๆ ก็จบ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องวิเคราะห์เยอะ
แต่คำถามคือ… มันจริง 100% ไหม? หรือเป็นเพียงคำพูดที่เลือกหยิบ “ครึ่งหนึ่งของความจริง” มานำเสนอ?
แดดดี๊เลยขอพาเพื่อนๆ มานั่งจับผิดกันชัดๆ แบบ “Fact Check” เอาตัวเลขจริงๆ มาวาง
เพื่อดูว่า ประโยคนี้ เป็นความจริง หรือแค่ขายฝัน?
⸻
1. ทำไมประโยคนี้ถึงสะเทือนใจคน
เวลาเราได้ยินคำว่า “ไม่เคยขาดทุน” มันสร้างความมั่นใจทันที
โดยเฉพาะกับมือใหม่ที่กลัวตลาดหุ้นอยู่แล้ว
1. มันตอกย้ำความหวัง – ทำให้เชื่อว่าตลาดหุ้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
2. มันสร้างภาพง่ายๆ – 10 ปี = บวกเสมอ ฟังแล้วเหมือนกฎคณิตศาสตร์
3. มันตรงใจคนอยากรวยเร็ว – ไม่ต้องคิดเยอะ แค่ทุ่มเงินแล้วปล่อย
เพราะงั้นไม่แปลกที่วาทะนี้จะกลายเป็นไวรัล แต่พอเราเจาะลึกจริงๆ จะพบว่า… มันมีเงื่อนไขซ่อนอยู่
⸻
2. Fact Check: S&P500 “10 ปีไม่ลบ” จริงหรือ?
มาดูกันด้วยตัวเลขจริงครับ ไม่ใช่ความรู้สึก
2.1 ถือแค่ 1 ปี – โอกาสเจ็บหนักสูงมาก
• ปี 2008: ดัชนี S&P500 ร่วง -38%
• ปี 2022: ดัชนีติดลบ -18%
ถ้าถือสั้นๆ แค่ปีเดียว เจ็บหนักได้เต็มๆ ไม่มีอะไรการันตีเลย
2.2 ถือครบ 10 ปี – ผลลัพธ์แทบไม่เคยลบ
แต่พอเลื่อนกรอบเวลาไปที่ Rolling 10 Years (เลือกปีเริ่มต้นใดก็ได้ แล้วถือครบ 10 ปีเต็ม):
• ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน → แทบไม่เคยขาดทุนเลยจริงๆ
• แม้ในวิกฤตใหญ่ๆ เช่น 2008 หรือ 2000 ถ้าถือครบ 10 ปี พอร์ตกลับมาบวกเสมอ
สรุป: CK ไม่ได้พูดผิด
แต่ก็ไม่ใช่ความจริงที่ “ปลอดภัย 100%” อย่างที่หลายคนตีความ
⸻
3. หลุมพรางที่ CK ไม่ได้เล่า
ประโยคนี้มี จุดบอด ที่คนฟังอาจมองข้ามไป และอาจทำให้ตัดสินใจผิดๆ ได้
3.1 ขึ้นอยู่กับ “ปีที่เริ่มลงทุน”
• ถ้าเริ่มต้นปี 2000 (ฟองสบู่ดอทคอม) → ผลตอบแทน 10 ปีถัดมาแทบไม่โต (เฉลี่ย ~1% ต่อปี)
• แต่ถ้าเริ่มปี 2009 (หลังวิกฤติซับไพรม์) → ผลตอบแทนโต 3–4 เท่า
บทเรียน: ถึงจะไม่ลบ แต่ “ไม่ลบ” ≠ “กำไรเท่ากันทุกคน”
3.2 10 ปีอาจไม่พอ ต้องเผื่อ 15–20 ปี
แม้โอกาสลบจะน้อย แต่บางช่วงผลตอบแทนต่ำมาก
นักลงทุนระดับโลกส่วนใหญ่เลยแนะนำว่า → ต้องคิดยาวกว่า 10 ปีขึ้นไป
3.3 ผลกระทบจากค่าเงิน
อย่าลืมว่า CK พูดในบริบทดอลลาร์สหรัฐ
แต่สำหรับคนไทย ถ้าลงทุนผ่านกองทุน/ETF ที่ผูกกับดอลลาร์ → ต้องเจอความเสี่ยงค่าเงินบาทด้วย
• S&P500 อาจบวก 10%
• แต่ถ้าเงินบาทแข็งขึ้น 10% → ผลตอบแทนกลับเหลือศูนย์
⸻
4. ความจริงที่ต้องยอมรับ: หุ้นใหญ่ “ดีจริง” แต่ไม่ใช่ยาวิเศษ
สิ่งที่แดดดี๊เห็นด้วยกับ CK เต็มๆ คือ…
“อย่าเทรด จงลงทุน”
หุ้นใหญ่ หุ้นดัชนี คือ “เครื่องจักรผลิตเงิน” ที่มีธุรกิจจริง ลูกค้าจริง และมูลค่าตลาดมหาศาล
ในระยะยาวมันมีแนวโน้มเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลก
แต่ปัญหาคือ การพูดว่า “10 ปีไม่ลบ” มันทำให้คนหลงเชื่อว่า ไม่ต้องคิดอะไรเลยก็ได้
ทั้งที่จริงๆ แล้วเรายังต้องเข้าใจเรื่อง “จังหวะเวลา, ความเสี่ยงค่าเงิน, เงินเฟ้อ” อยู่ดี
⸻
5. ตัวเลขจริงที่สะท้อนความจริง
ลองยกตัวอย่างง่ายๆ จากข้อมูลย้อนหลังของ S&P500
• เริ่มลงทุนต้นปี 2000 → สิ้นปี 2010
• พอร์ตแทบไม่ไปไหน บวกเล็กน้อยเท่านั้น
• เฉลี่ย ~1% ต่อปี → สู้เงินเฟ้อแทบไม่ได้
• เริ่มลงทุนต้นปี 2009 → สิ้นปี 2019
• พอร์ตโตทะลุ 3–4 เท่า
• เฉลี่ย ~14% ต่อปี → กลายเป็นหนึ่งใน Golden Decade
เห็นความต่างไหมครับ?
ทั้งสองคนถือครบ 10 ปีเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันราวฟ้ากับเหว
นี่คือเหตุผลที่เราต้อง “จับผิด” คำพูด CK เพราะถ้าเข้าใจผิด → อาจลงทุนแล้วเจอผลลัพธ์ไม่ตรงฝัน
⸻
6. แล้วเราควรทำอย่างไร?
6.1 เข้าใจ “เงื่อนไขจริง” ของคำว่า “10 ปีไม่ลบ”
ใช่ครับ S&P500 แทบไม่เคยลบถ้าถือ 10 ปีขึ้นไป แต่ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับ จุดเริ่มต้น
ดังนั้นอย่าหวัง All-in ทีเดียว → ควรใช้วิธี DCA (Dollar-Cost Averaging) ค่อยๆ ซื้อเฉลี่ย
6.2 ใช้ “เวลา” เป็นเพื่อน
แทนที่จะถามว่า “ลงทุน 10 ปีพอไหม?” → ควรถามว่า “พร้อมถือ 20–30 ปีได้ไหม?”
เพราะเวลา = ตัวคูณที่ทรงพลังที่สุด
6.3 กระจายความเสี่ยง
อย่าเชื่อว่า S&P500 คือคำตอบเดียวของโลก
ควรกระจายไปยังสินทรัพย์อื่น เช่น Global ETF, หุ้นเอเชีย, ตราสารหนี้, ทองคำ
เพื่อกันความเสี่ยงที่อนาคตอาจไม่เหมือนอดีต
⸻
7. บทเรียนใหญ่จากการ “จับผิด CK”
สิ่งที่แดดดี๊อยากให้เพื่อนๆ ได้คือ…
อย่าเชื่อคำพูดแรงๆ ของใครจนเกินไป แม้จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจริงก็ตาม
เพราะความจริงของตลาดคือ:
1. S&P500 ดีจริง เป็นสินทรัพย์ที่พิสูจน์ตัวเองมานานหลายสิบปี
2. การถือยาว 10 ปีขึ้นไป ลดโอกาสขาดทุนจริง
3. แต่ผลตอบแทนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปีที่เริ่ม และค่าเงิน
4. นักลงทุนไทยต้องวางแผนเพิ่ม ทั้งค่าเงินและเป้าหมายชีวิต
⸻
8. ข้อคิดจากตอนนี้
คำพูดของ CK ไม่ได้ผิด แต่ถ้าเราฟังแบบไม่คิดต่อ → มีสิทธิ์เข้าใจผิดและพลาดหนัก
“ไม่เคยขาดทุน” ไม่ได้แปลว่า “รวยเสมอ”
สุดท้าย คนที่จะอยู่รอดไม่ใช่คนที่ “เชื่อคำพูดดังๆ”
แต่คือคนที่ “เข้าใจตัวเลขจริงๆ และรู้จักเงื่อนไขของมัน”
⸻
แดดดี๊อยากถามเพื่อนๆ กลับ…
👉 ถ้าวันนี้มีเงินเย็นก้อนหนึ่ง คุณจะกล้าลงทุนใน S&P500 และถือ 20 ปี โดยไม่สนใจกราฟแดงรายปีหรือเปล่า?
CR :
https://www.facebook.com/share/1EfdJDiig6/?mibextid=wwXIfr
❌❌❌ จับผิด CK: S&P500 10 ปีไม่เคยขาดทุน จริงหรือแค่ขายฝัน?
จากบทสัมภาษณ์หลายเวทีที่ถูกแชร์ต่อกันรัวๆ หนึ่งในวาทะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ
👉 “ลงทุนใน S&P500 ระยะยาว 10 ปี ไม่เคยขาดทุน”
คำพูดนี้มัน “โดน” เพราะตรงกับสิ่งที่นักลงทุนเกือบทุกคนกลัวที่สุด — การขาดทุน
มันเหมือนยาแก้ปวดที่ตอบโจทย์ทันที: แค่ถือยาวๆ ก็จบ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องวิเคราะห์เยอะ
แต่คำถามคือ… มันจริง 100% ไหม? หรือเป็นเพียงคำพูดที่เลือกหยิบ “ครึ่งหนึ่งของความจริง” มานำเสนอ?
แดดดี๊เลยขอพาเพื่อนๆ มานั่งจับผิดกันชัดๆ แบบ “Fact Check” เอาตัวเลขจริงๆ มาวาง
เพื่อดูว่า ประโยคนี้ เป็นความจริง หรือแค่ขายฝัน?
⸻
1. ทำไมประโยคนี้ถึงสะเทือนใจคน
เวลาเราได้ยินคำว่า “ไม่เคยขาดทุน” มันสร้างความมั่นใจทันที
โดยเฉพาะกับมือใหม่ที่กลัวตลาดหุ้นอยู่แล้ว
1. มันตอกย้ำความหวัง – ทำให้เชื่อว่าตลาดหุ้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
2. มันสร้างภาพง่ายๆ – 10 ปี = บวกเสมอ ฟังแล้วเหมือนกฎคณิตศาสตร์
3. มันตรงใจคนอยากรวยเร็ว – ไม่ต้องคิดเยอะ แค่ทุ่มเงินแล้วปล่อย
เพราะงั้นไม่แปลกที่วาทะนี้จะกลายเป็นไวรัล แต่พอเราเจาะลึกจริงๆ จะพบว่า… มันมีเงื่อนไขซ่อนอยู่
⸻
2. Fact Check: S&P500 “10 ปีไม่ลบ” จริงหรือ?
มาดูกันด้วยตัวเลขจริงครับ ไม่ใช่ความรู้สึก
2.1 ถือแค่ 1 ปี – โอกาสเจ็บหนักสูงมาก
• ปี 2008: ดัชนี S&P500 ร่วง -38%
• ปี 2022: ดัชนีติดลบ -18%
ถ้าถือสั้นๆ แค่ปีเดียว เจ็บหนักได้เต็มๆ ไม่มีอะไรการันตีเลย
2.2 ถือครบ 10 ปี – ผลลัพธ์แทบไม่เคยลบ
แต่พอเลื่อนกรอบเวลาไปที่ Rolling 10 Years (เลือกปีเริ่มต้นใดก็ได้ แล้วถือครบ 10 ปีเต็ม):
• ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน → แทบไม่เคยขาดทุนเลยจริงๆ
• แม้ในวิกฤตใหญ่ๆ เช่น 2008 หรือ 2000 ถ้าถือครบ 10 ปี พอร์ตกลับมาบวกเสมอ
สรุป: CK ไม่ได้พูดผิด
แต่ก็ไม่ใช่ความจริงที่ “ปลอดภัย 100%” อย่างที่หลายคนตีความ
⸻
3. หลุมพรางที่ CK ไม่ได้เล่า
ประโยคนี้มี จุดบอด ที่คนฟังอาจมองข้ามไป และอาจทำให้ตัดสินใจผิดๆ ได้
3.1 ขึ้นอยู่กับ “ปีที่เริ่มลงทุน”
• ถ้าเริ่มต้นปี 2000 (ฟองสบู่ดอทคอม) → ผลตอบแทน 10 ปีถัดมาแทบไม่โต (เฉลี่ย ~1% ต่อปี)
• แต่ถ้าเริ่มปี 2009 (หลังวิกฤติซับไพรม์) → ผลตอบแทนโต 3–4 เท่า
บทเรียน: ถึงจะไม่ลบ แต่ “ไม่ลบ” ≠ “กำไรเท่ากันทุกคน”
3.2 10 ปีอาจไม่พอ ต้องเผื่อ 15–20 ปี
แม้โอกาสลบจะน้อย แต่บางช่วงผลตอบแทนต่ำมาก
นักลงทุนระดับโลกส่วนใหญ่เลยแนะนำว่า → ต้องคิดยาวกว่า 10 ปีขึ้นไป
3.3 ผลกระทบจากค่าเงิน
อย่าลืมว่า CK พูดในบริบทดอลลาร์สหรัฐ
แต่สำหรับคนไทย ถ้าลงทุนผ่านกองทุน/ETF ที่ผูกกับดอลลาร์ → ต้องเจอความเสี่ยงค่าเงินบาทด้วย
• S&P500 อาจบวก 10%
• แต่ถ้าเงินบาทแข็งขึ้น 10% → ผลตอบแทนกลับเหลือศูนย์
⸻
4. ความจริงที่ต้องยอมรับ: หุ้นใหญ่ “ดีจริง” แต่ไม่ใช่ยาวิเศษ
สิ่งที่แดดดี๊เห็นด้วยกับ CK เต็มๆ คือ…
“อย่าเทรด จงลงทุน”
หุ้นใหญ่ หุ้นดัชนี คือ “เครื่องจักรผลิตเงิน” ที่มีธุรกิจจริง ลูกค้าจริง และมูลค่าตลาดมหาศาล
ในระยะยาวมันมีแนวโน้มเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลก
แต่ปัญหาคือ การพูดว่า “10 ปีไม่ลบ” มันทำให้คนหลงเชื่อว่า ไม่ต้องคิดอะไรเลยก็ได้
ทั้งที่จริงๆ แล้วเรายังต้องเข้าใจเรื่อง “จังหวะเวลา, ความเสี่ยงค่าเงิน, เงินเฟ้อ” อยู่ดี
⸻
5. ตัวเลขจริงที่สะท้อนความจริง
ลองยกตัวอย่างง่ายๆ จากข้อมูลย้อนหลังของ S&P500
• เริ่มลงทุนต้นปี 2000 → สิ้นปี 2010
• พอร์ตแทบไม่ไปไหน บวกเล็กน้อยเท่านั้น
• เฉลี่ย ~1% ต่อปี → สู้เงินเฟ้อแทบไม่ได้
• เริ่มลงทุนต้นปี 2009 → สิ้นปี 2019
• พอร์ตโตทะลุ 3–4 เท่า
• เฉลี่ย ~14% ต่อปี → กลายเป็นหนึ่งใน Golden Decade
เห็นความต่างไหมครับ?
ทั้งสองคนถือครบ 10 ปีเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันราวฟ้ากับเหว
นี่คือเหตุผลที่เราต้อง “จับผิด” คำพูด CK เพราะถ้าเข้าใจผิด → อาจลงทุนแล้วเจอผลลัพธ์ไม่ตรงฝัน
⸻
6. แล้วเราควรทำอย่างไร?
6.1 เข้าใจ “เงื่อนไขจริง” ของคำว่า “10 ปีไม่ลบ”
ใช่ครับ S&P500 แทบไม่เคยลบถ้าถือ 10 ปีขึ้นไป แต่ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับ จุดเริ่มต้น
ดังนั้นอย่าหวัง All-in ทีเดียว → ควรใช้วิธี DCA (Dollar-Cost Averaging) ค่อยๆ ซื้อเฉลี่ย
6.2 ใช้ “เวลา” เป็นเพื่อน
แทนที่จะถามว่า “ลงทุน 10 ปีพอไหม?” → ควรถามว่า “พร้อมถือ 20–30 ปีได้ไหม?”
เพราะเวลา = ตัวคูณที่ทรงพลังที่สุด
6.3 กระจายความเสี่ยง
อย่าเชื่อว่า S&P500 คือคำตอบเดียวของโลก
ควรกระจายไปยังสินทรัพย์อื่น เช่น Global ETF, หุ้นเอเชีย, ตราสารหนี้, ทองคำ
เพื่อกันความเสี่ยงที่อนาคตอาจไม่เหมือนอดีต
⸻
7. บทเรียนใหญ่จากการ “จับผิด CK”
สิ่งที่แดดดี๊อยากให้เพื่อนๆ ได้คือ…
อย่าเชื่อคำพูดแรงๆ ของใครจนเกินไป แม้จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจริงก็ตาม
เพราะความจริงของตลาดคือ:
1. S&P500 ดีจริง เป็นสินทรัพย์ที่พิสูจน์ตัวเองมานานหลายสิบปี
2. การถือยาว 10 ปีขึ้นไป ลดโอกาสขาดทุนจริง
3. แต่ผลตอบแทนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปีที่เริ่ม และค่าเงิน
4. นักลงทุนไทยต้องวางแผนเพิ่ม ทั้งค่าเงินและเป้าหมายชีวิต
⸻
8. ข้อคิดจากตอนนี้
คำพูดของ CK ไม่ได้ผิด แต่ถ้าเราฟังแบบไม่คิดต่อ → มีสิทธิ์เข้าใจผิดและพลาดหนัก
“ไม่เคยขาดทุน” ไม่ได้แปลว่า “รวยเสมอ”
สุดท้าย คนที่จะอยู่รอดไม่ใช่คนที่ “เชื่อคำพูดดังๆ”
แต่คือคนที่ “เข้าใจตัวเลขจริงๆ และรู้จักเงื่อนไขของมัน”
⸻
แดดดี๊อยากถามเพื่อนๆ กลับ…
👉 ถ้าวันนี้มีเงินเย็นก้อนหนึ่ง คุณจะกล้าลงทุนใน S&P500 และถือ 20 ปี โดยไม่สนใจกราฟแดงรายปีหรือเปล่า?
CR : https://www.facebook.com/share/1EfdJDiig6/?mibextid=wwXIfr