หลังจากฟังโค้ชอ้อดให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้ที่แพ้ปินส์ 1 เซ็ต ส่วนหนึ่งเพราะก่อนแข่งให้นักกีฬาเล่นเวทเพื่อทำร่างกายไว้แข่งกับเวียดนาม ได้ฟังแล้วรู้เลยนี่แหละ อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำไมนักกีฬาหลายคนเข้าแคมป์แล้วฟอร์มแย่กว่าในลีค คือ ถ้าใครเล่นเวทจะรู้เลยว่าหลังเล่นมันจะเมื่อยล้ามาก และที่สำคัญหลังเล่นเวทเรื่องกายจะเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ บางทีปวดจนยกแขนไม่ขึ้นก็มี และถ้าเล่นขานี่คือแค่เดินก็เมื่อยแล้ว เพราะหลักการของการเล่นเวทคือทำให้กล้ามเนื้อเกิดการฉีกขาดเพื่อซ่อมแซมและการซ่อมแซมมันต้องใช้เวลาเป็น 3-4 วัน หรือเป็นอาทิตย์ ไม่ใช่เล่นวันนี้แล้วพรุ่งนี้ร่างกายมันจะแข็งแรงขึ้นเลย และที่สำคัญร่างกายมันจะซ่อมก็ตอนเราได้พักผ่อนเท่านั้น ที่รู้เพราะก็เล่นเวทเหมือนกัน ดังนั้น ถ้าเล่นเวทแล้วมาแข่งนี่คือมันคือการทำลายกล้ามเนื้อร่างกายมากกว่าการสร้างนะ เพราะกล้ามเนื้อล้าบาดเจ็บแล้วต้องมาใช้งานหนักอีก มันเป็นผลเสียมากกว่าผลดีหรือเปล่า นักวิทยาศาสตร์การกีฬาเขาให้ทำแบบนี้จริงเหรอ? ส่วนตัวมองว่าระหว่างแข่งร่างกายนักกีฬามันถูกใช้งานหนักมากพออยู่แล้วไม่ควรหักโหมเล่นเวท แต่ควรเน้นการฟื้นฟู เน้นการพักผ่อน การกิน การคลายกล้ามเนื้อ เพราะมันจะทำให้นักกีฬามีพลังมากขึ้นในสนามแข่ง แต่ถ้าไปโหมเล่นเวทในระหว่างแข่งก็เท่ากับตัดกำลังตัวเอง และสำหรับการทำกล้ามเนื้อ โค้ชควรกำชับให้นักกีฬาทำร่างกายให้พร้อมเสมอแม้ตอนไม่ได้เข้าแคมป์ คือ ต้องสร้างกล้ามเนื้อตลอดทุกวัน ไม่ใช่มาโหมสร้างตอนเข้าแคมป์หรือระหว่างแข่ง คือ กล้ามเนื้อต้องพร้อมตลอดเวลา เพราะกล้ามเนื้อจะสร้างได้จริงๆมันต้องใช้เวลานานมาก ไม่ใช่เล่นเวทวันนี้หนักๆแล้ววันพรุ่งนี้จะแข็งแรง อันนี้เป็นความเข้าใจผิดนะ เพราะจะทำให้ยิ่งล้าเข้าไปใหญ่
เราต้องเลิกให้นักกีฬาเล่นเวทหนักๆ ระหว่างที่มีการแข่ง เพราะมันจะทำให้ฟอร์มนักกีฬาแย่ เหนื่อยง่าย เสี่ยงบาดเจ็บ