ประสบการณ์ผ่าตัดเล็ก Minor Surgery ที่จุฬาฯ

จากอดีตคนกลัวเข็มเป็นชีวิตจิตใจครับ 555 เมื่อก่อนผมเคยกลัวเข็มขนาดหนักแต่หลังจากโดนเจาะปีละ 3-4 ครั้ง ระยะหลังชินแล้ว
มาคราวนี้ทำใจดีสู้เสือไปขอหมอให้ตัดติ่งเนื้อขนาดประมาณ 1 ซ.ม. ซึ่งอยู่ตรงจุดกลางหลัง center เป๊ะๆ หมอบอกว่าให้ระวังแผลเย็บปริอาจจะเจ็บหน่อยเพราะผิวหนังกลางหลังค่อนข้างตึง

(มีเพื่อนเคยตัดติ่งเนื้อตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ แต่เขาเจอประสบการณ์แย่เพราะแผลปริติดเชื้อนอนพักเกือบเดือน)

ผมใช้สิทธิประกันสังคมเข้ารับการผ่าตัดย่อยที่ห้องผ่าตัดย่อย Minor Surgery รพ.จุฬาฯ ตึกภูมิสิริ ตามสิทธิประกันสังคม
พยาบาลสั่งให้ไปทานข้าวเที่ยงให้เรียบร้อย แล้วให้ขึ้นไปที่ห้องผ่าตัดย่อย 12.30 น.
ถึงเวลาพยาบาลวัดความดันเปลี่ยนชุดผ่าตัดสีเขียวนั่งรอประมาณ 20 นาที
ก็เข็นเข้าไปรอด้านในห้องปลอดเชื้อ รออีก 40 นาที พร้อมก็เข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด

ห้องก็ประมาณห้องผ่าตัดที่เราเห็นในซีรีส์ NetFlix เลยครับ อุปกรณ์ครบ
หมอ 2 คน ยืนซ้ายขวา รอบๆ มีพยาบาล 2-3 คน ผมได้ยินแต่เสียงเพราะเขาให้นอนคว่ำ
แล้วการผ่าตัดย่อยก็เริ่มขึ้นด้วยการฉีดยาชา หมอถามเช็คให้แน่ใจว่า ... รู้สึกผิวหนังหนาๆ แล้ว
ก็เริ่มเลย ไม่เกิน 10 นาทีผมก็นิ่งหายตื่นเต้นไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากแรงกดจากมือหมอ
แต่เมื่อเริ่มเย็บแผล คราวนี้ได้ยินเสียงไหมรูดผ่านกล้ามเนื้อก้องๆ ในหู กว่าจะเย็บเสร็จก็ใช้เวลารวมประมาณ 30 นาที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมอบอกว่ายาชาจะยังให้ผลอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถ้าเจ็บก็ให้กินยาพาราฯ ที่จัดให้พร้อมกับยาปฏิชีวนะอีก 6 วัน
ตอนนี้ผ่านมา 5 วันแล้ว So far so good หายเจ็บแผล 8-90% แล้ว รอตัดไหมอีก 7 วัน ก็เป็นอันจบกระบวนการรักษา

สรุปหลังผ่าตัดย่อยผมกินยาพาราฯ ไปแค่เม็ดเดียวเพื่อให้คืนแรกนอนหลับสนิท มีเจ็บแผลบ้างนิดหน่อย
แทบจะไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันนอกจากจะต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เวลาอาบน้ำสระผมก็จะยุ่งยากนิดหน่อย
หมอและพยาบาลที่จุฬาฯ ให้บริการดีมาก ระบบ+สถานที่ผมให้เกรด A เลย จะต่างจาก รพ.เอกชนก็แค่ต้องรอในระบบนานหน่อย
คราวนี้ผมให้หมอประกันสังคมนัดผ่านระบบกว่าจะได้ผ่าประมาณ 4 เดือน อันนี้เรารอได้เพราะไม่รีบ

และที่ดีต่อใจมากๆ คือ เสียเงินค่าพลาสเตอร์แค่ 20 บาท
ขอบคุณระบบที่ดูแลสุขภาพแรงงานเป็นอย่างดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่