KF-21 Boramae เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก เพื่อแข่งขันกับเครื่องบินรุ่นที่ 5 ของคู่แข่ง

KF-21 Boramae เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก เพื่อแข่งขันกับเครื่องบินรุ่นที่ 5 ของคู่แข่ง
เกาหลีใต้กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศเพื่อการป้องกันประเทศ ด้วยการลงนามสัญญาผลิตเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายผลิตเครื่องบินขับไล่จำนวน 120 ลำให้แล้วเสร็จภายในปี 2575 เพื่อเป็นกำลังหลักของกองทัพอากาศเกาหลีใต้ (ROKAF) และมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการป้องกันประเทศระดับโลก

โครงการเครื่องบินขับไล่ KF-21
การผลิต: โครงการเริ่มต้นขึ้นด้วยการเซ็นสัญญา 2 ฉบับต่อเนื่องกันระหว่างบริษัท Korea Aerospace Industries (KAI) และสำนักงานบริหารโครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ (DAPA) เพื่อผลิตเครื่องบิน Block I จำนวน 40 ลำ โดยเครื่องบิน 20 ลำแรกจะส่งมอบภายในปี 2570 และอีก 20 ลำภายในปี 2571 ส่วนอีก 60 ลำที่เหลือจะเป็นรุ่น Block II ซึ่งมีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น

การพัฒนาในประเทศ: KF-21 เป็นผลจากความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีการบินของเกาหลีใต้ตลอดสิบปีที่ผ่านมา โดยเปลี่ยนจากผู้ผลิตที่ได้รับใบอนุญาตมาเป็นผู้ออกแบบและผลิตเครื่องบินรบได้เอง นอกจากนี้ โครงการนี้ยังช่วยสร้างงานให้กับซัพพลายเออร์ในประเทศมากกว่า 250 ราย

คุณสมบัติทางเทคนิค: เครื่องบินรุ่น Block I เน้นการครองความเป็นเจ้าอากาศ มีระบบเรดาร์ AESA ที่พัฒนาในประเทศ ห้องนักบินดิจิทัล และระบบขีปนาวุธ Meteor BVRAAM ส่วนรุ่น Block II จะมีการออกแบบที่ล่องหนมากขึ้นและระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง

ศักยภาพการส่งออกและเปรียบเทียบกับเครื่องบินรบรุ่นอื่น
ความสำเร็จในการส่งออก: เกาหลีใต้ได้สร้างชื่อเสียงในตลาดโลกจากการส่งออกเครื่องบินฝึก T-50 และเครื่องบินรบเบา FA-50 ไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และล่าสุดคือโปแลนด์ ซึ่งเป็นการปูทางให้กับโอกาสการส่งออก KF-21 ในอนาคต

ข้อได้เปรียบ: เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดโลก KF-21 มีข้อดีหลายประการ

KAAN ของตุรกี: KF-21 มีความพร้อมในการผลิตและต้นทุนที่คงที่กว่า

Eurofighter Typhoon: KF-21 มีห้องนักบินดิจิทัลที่ทันสมัยกว่าและมีต้นทุนการใช้งานที่ต่ำกว่า

Dassault Rafale: KF-21 มีแพลตฟอร์มที่คุ้มค่ากว่า มีเครื่องยนต์คู่ และสถาปัตยกรรมที่รองรับการอัปเกรดในระยะยาว

F-35A ของสหรัฐฯ: KF-21 มีต้นทุนการจัดหาและปฏิบัติการที่ถูกกว่ามาก และไม่มีข้อจำกัดด้านการส่งออกที่เข้มงวด

Gripen JAS-39E ของสวีเดน: KF-21 มีความจุบรรทุกและพิสัยการบินที่เหนือกว่า

ความร่วมมือ: อินโดนีเซียเป็นพันธมิตรเดียวในโครงการนี้ และแสดงความสนใจที่จะจัดหาเครื่องบิน 48 ลำ ซึ่งยังคงมีการเจรจาในรายละเอียดต่อไป

อนาคตของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของเกาหลีใต้
นอกเหนือจากโครงการ KF-21 แล้ว KAI ยังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ขั้นสูง โดยเฉพาะโดรนสเตลท์ที่จะทำงานร่วมกับฝูงบิน KF-21 ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับแนวคิดสงครามสมัยใหม่ในอนาคต ทำให้เกาหลีใต้มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดการป้องกันประเทศระดับโลกอย่างแท้จริง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่