อินเดียอาจซื้อเครื่องบินรบเกาหลีใต้ KF-21 Boramae สูงสุด 60 ลำ

ดีเฟนซ์ บล็อก (Defence Blog) เว็บบล็อกข่าวทางการทหารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 เคเอฟ ทเวนตีวัน โบราแม (KF-21 Boramae) ของเกาหลีใต้ ในฐานะหนึ่งในตัวเลือกของโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบพหุภารกิจ (Multi-Role Fighter Aircraft: MRFA) ของประเทศ

KF-21 Boramae นอกจากทำภารกิจแบบ MRFA แล้วยังมีบทบาทเป็นเครื่องบินขับไล่ครองอากาศ (Air superiority fighter) ด้วยเช่นกัน มีคุณสมบัติ "ลดการสะท้อนเรดาร์" (Low Observable) แต่ยังไม่ถึงระดับเดียวกับเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ของสหรัฐอเมริกา หรือ Chengdu J-20 จากจีน หรือ Su-57 ของรัสเซีย

KF-21 ตั้งตั้งเครื่องยนต์จีอี (GE: General Electric) รุ่น F414 เช่นเดียวกันกับ JAS Gripen 39 E/F ของซาบ (Saab) จากสวีเดน จำนวน 2 ตัว ความเร็วสูงสุด 1.81 มัค หรือประมาณ 2,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีกำลังสันดาปท้าย (Afterburner) ที่ 97.9 กิโลนิวตัน (kN) ระยะการบิน (Combat radius) ประมาณ 2,700 กิโลเมตร

ตัวเครื่องรองรับจรวดและอาวุธโจมตีต่าง ๆ และเมื่อรวมกับน้ำหนักเครื่องบินแล้วจะมีค่าสูงสุด 25,600 กิโลกรัม น้ำหนักบรรทุก 7,700 กิโลกรัม จุดติดตั้งอาวุธ (Hardpoint) รวม 10 จุด แบ่งเป็นใต้ปีกรวม 6 จุด และใต้ลำตัวอีก 4 จุด 

โครงการ MRFA หรือโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบพหุภารกิจของอินเดีย เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาขาดแคลนเครื่องบินขับไล่ของอินเดีย รวมถึงเครื่องบินที่มีอยู่อย่าง MiG-21 และ Jaguar ตกรุ่นและต้องปลดประจำการในอนาคตอันใกล้

ด้วยเหตุนี้ โครงการจึงกำหนดให้จัดหาเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 ที่สามารถต่อกรกับเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ได้ จำนวน 60 ลำ โดยผู้ผลิตต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับอินเดียเพื่อดำเนินการผลิตภายในประเทศ รวมถึงมีสถาปัตยกรรมแบบเปิด (Open Architecture) ที่สามารถติดตั้งระบบอาวุธหรืออุปกรณ์เสริมที่อินเดียพัฒนาขึ้นมาเองได้ด้วยเช่นกัน 

และจากเงื่อนไขต่าง ๆ  ทำให้ 

KF-21 Boramae ที่มีความพร้อมในด้านการผลิต และการถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงความสามารถในการพัฒนาต่อไปเป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ได้ในอนาคตเป็นหนึ่งในตัวเลือกล่าสุดของรัฐบาลอินเดีย

ทั้งนี้ Defence Blog รายงานว่า ราคาเครื่องบินขับไล่ KF-21 Boramae ในปัจจุบันอยู่ระหว่าง 87 - 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,800 - 3,600 ล้านบาทต่อลำ ซึ่งราคาต่ำกว่าเครื่องบินขับไล่ Rafale ของฝรั่งเศส และราคายังต่ำกว่าเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 อย่าง Su-57 ของรัสเซีย รวมถึง F-35 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานอ้างจากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ว่าอินเดียไม่มีความสนใจจัดหาเข้าประจำการแม้จะมีการติดต่อจากฝั่งสหรัฐอเมริกาก็ตาม