ใช้ประกันไทยวิวัฒน์ เอารถเข้าอู่เพื่อเคลมประกัน แต่พอเริ่มซ่อมแล้ว อู่เรียกเก็บค่ารองพื้นสีใหม่ 2,500 เพิ่ม

ใช้ประกันไทยวิวัฒน์ ชั้น 1 แบบมีค่าเสียหายส่วนแรก (รถปี 2009) ต่อมาได้มีการแจ้งเคลมรอยชนยุบตรง skirt และกระโปรงหลัง เลยหาอู่ที่รีวิวค่อนข้างดี อยู่ไม่ไกลจากบ้าน และสามารถเคลมประกันของไทยวิวัฒน์ได้ จึงนำเข้าไปซ่อม

วันที่ 29 ก.ค. นำรถเข้าไปซ่อมตามนัดหมาย

วันที่ 31 ก.ค.
- อู่แจ้งว่าสีเก่าร่อน ต้องแก่พื้นและรองพื้นสีใหม่ ถ้าพ่นสีทับ สีจะพอง รับประกันงานไม่ได้ จะต้องจ่ายเพิ่ม 2,500 ซึ่งประกันไม่จ่ายในส่วนนี้ และรถไม่สามารถนำออกมาได้เพราะได้ทำการเร่ิมซ่อมไปแล้ว ผมจึงถามว่าทำไมไม่แจ้งก่อนตอนนำรถเข้าไปให้ดู อู่บอกว่าอันนี้ถ้าไม่ได้เริ่มทำจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสีเสื่อมสภาพ
- ติดต่อประกัน ประกันจึงแจ้งว่า จะให้เจ้าหน้าที่เคลมประสานงานให้

วันที่ 1 ส.ค.
- อู่ติดต่อมาอีกครั้งแจ้งว่าคุยกับฝ่ายเคลมแล้ว และฝ่ายเคลมแจ้งว่าให้โทรมาอธิบายให้ลูกค้าฟังถึงปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสี จึงขอเบอร์ฝ่ายเคลมของไทยวิวัฒน์ที่ติดต่ออู่มา ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเพราะสีเสื่อมสภาพไม่ได้อยู่ในการรับประกัน ผมจึงถามว่าประกันมีหน้าที่ซ่อมในตำแหน่งที่ถูกชนให้เหมือนกับก่อนโดนชนใช่หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่บ่ายเบี่ยงและจะให้ผมไปเคลียร์กับอู่เอง โดยที่อ้างเหมือนอู่ว่าค่ารองพื้นสีที่ต้องจ่ายเพิ่มมันปกติ ทุกคนต้องจ่าย  ผมเลยแจ้งว่าคือถ้าสีมันร่อนออกมาเองอันนี้ผมเข้าใจได้ แต่อันนี้เกิดจากสีมันหลุดเพราะอุบัติเหตุเฉี่ยวชน เจ้าหน้าที่ยังยืนยันคำเดิม

ผมจึงอยากถามเพื่อนๆผู้เคยมีประสบการณ์เคลมสี หรือเพื่อนๆที่ขายประกันว่า มันปกติรึเปล่าครับที่:
1. อู่เรียกเก็บค่ารองพื้นสีกับเจ้าของรถโดยตรง
2. ประกันให้เจรจากับอู่เอง โดยอ้างว่าค่าลงพื้นสีมันปกติ กรณีแบบเดียวกันนี้ต้องจ่ายทุกคน
3. อู่ไม่แจ้งก่อนว่ามีค่าใช้จ่าย เมื่อเริ่มซ่อมไปแล้วจึงนำรถออกมาไม่ได้

ตอนนี้ผมได้เริ่มขั้นตอนแจ้ง คปภ ไปแล้วแต่ไม่รู้จะใช้เวลานานขนาดไหน และนำรถออกมาไม่ได้จนกว่าจะเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จ หากเพื่อนๆมีประสบการณ์ หรือคำแนะนำ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่