คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 38
ความคิดเห็นผมอาจจะออกแนวนักลงทุนหน่อยนะ
1. ถามว่าไหวไหม ไหวแน่นอน แต่ไม่ควรวางเงิน 2 ล้านตั้งแต่ต้น 2 ล้านเก็บไว้เป็นกระแสเงินสด
2. กู้เต็ม 100% ผ่อนเดือนละ 25000 บาท ระยะเวลา 22 ปี ธนาคารให้ถึงอายุ 65 ปี
3. บ้านที่ซื้อมาเพื่อวัตถุประสง์อะไร ถ้าปล่อยเช่า คิดว่าน่าจะได้ค่าเช่าไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น ดังนั้นเท่ากับคุณจ่ายเพิ่มแค่ 5000 บาท ถ้าอยู่เองคุณก็คือต้องจ่าย 25000บาท
3 ข้อนี้คือพื้นฐานที่ Woest case แล้วนะ ถ้าคุณเกิดตกงานขึ้นมา มูลหนี้ธนาคารต่อเดือนคือ 5000-25000 บาท คุณมีเวลาขายบ้านได้นานเลย ถ้าเกิดเหตุผิดพลาดขึ้น
ทีนี้ถ้ามาดูกรณีไม่เกิดเหตุผิดพลาด คุณโปะรายเดือนๆละ 5 หมื่นบาท จากเงินเก็บ 2 ล้านบาท รวมยอดกู้ปกติ คุณจะจ่ายหนี้เดือนละ 75000 บาท คุณจะปลดหนี้ก้อนนี้ได้ภายใน 6 ปี ตอนอายุ 49 ปี หรือนานกว่านั้นถ้าคุณโปะต่พำกว่า 5 หมื่น
จำไว้ว่ากระแสเงินสดคือเรื่องสำคญญที่สุดสำหรับทุกอย่าง ดังนั้นไม่จำเป็นไม่ควรเอาเงินสด 2 ล้านไปตั้งต้น หวังว่าคุณะได้อ่านคำตอบนี้
ว่าแต่ทำงานอะไรครับ รายได้ดีจัง ผม 50 กว่าแล้ว รายได้ยังน้อยกว่าคุณเลย 555
1. ถามว่าไหวไหม ไหวแน่นอน แต่ไม่ควรวางเงิน 2 ล้านตั้งแต่ต้น 2 ล้านเก็บไว้เป็นกระแสเงินสด
2. กู้เต็ม 100% ผ่อนเดือนละ 25000 บาท ระยะเวลา 22 ปี ธนาคารให้ถึงอายุ 65 ปี
3. บ้านที่ซื้อมาเพื่อวัตถุประสง์อะไร ถ้าปล่อยเช่า คิดว่าน่าจะได้ค่าเช่าไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น ดังนั้นเท่ากับคุณจ่ายเพิ่มแค่ 5000 บาท ถ้าอยู่เองคุณก็คือต้องจ่าย 25000บาท
3 ข้อนี้คือพื้นฐานที่ Woest case แล้วนะ ถ้าคุณเกิดตกงานขึ้นมา มูลหนี้ธนาคารต่อเดือนคือ 5000-25000 บาท คุณมีเวลาขายบ้านได้นานเลย ถ้าเกิดเหตุผิดพลาดขึ้น
ทีนี้ถ้ามาดูกรณีไม่เกิดเหตุผิดพลาด คุณโปะรายเดือนๆละ 5 หมื่นบาท จากเงินเก็บ 2 ล้านบาท รวมยอดกู้ปกติ คุณจะจ่ายหนี้เดือนละ 75000 บาท คุณจะปลดหนี้ก้อนนี้ได้ภายใน 6 ปี ตอนอายุ 49 ปี หรือนานกว่านั้นถ้าคุณโปะต่พำกว่า 5 หมื่น
จำไว้ว่ากระแสเงินสดคือเรื่องสำคญญที่สุดสำหรับทุกอย่าง ดังนั้นไม่จำเป็นไม่ควรเอาเงินสด 2 ล้านไปตั้งต้น หวังว่าคุณะได้อ่านคำตอบนี้
ว่าแต่ทำงานอะไรครับ รายได้ดีจัง ผม 50 กว่าแล้ว รายได้ยังน้อยกว่าคุณเลย 555
แสดงความคิดเห็น
อายุเท่านี้ ต้องกู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท จะเกินตัวไปไหมครับ
สำหรับภาระหนี้สิน รายได้รวมกันต่อเดือนคือ 250,000 บาทโดยประมาณ หักภาษีแล้วเหลือ 185,000 บาทโดยเฉลี่ยฮะ ปัจจุบันผมและภรรยาปลอดหนี้ครับ ไม่มีภาระอื่นๆนอกจากส่งลูกเรียนหนังสือ
ผมไปพบบ้านหลังหนึ่งถูกใจมาก เป็นบ้านเดี่ยวอายุมากพอสมควรใกล้ปากซอยลาดพร้าว 101 (หมู่บ้านนครไทย) ราคา 5 ล้านบาท หน่ะครับ ซึ่งผมเตรียมจะทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว โดยจะใช้เงินสดที่มีอยู่ดาวน์ไป 2 ล้านบาท และกู้ธนาคารอีก 3 ล้านบาทหน่ะครับ เพื่อนำมาซื้อบ้านครับ
ลองคำนวนดูคร่าวๆ หากผ่อน 20 ปี ค่าผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่เกือบๆ 20,000 บาทต่อเดือนครับ แต่วางแผนว่าอาจจะไม่ผ่อนนานขนาดนั้น ขอแค่รอขายบ้านที่ระยองได้ ผมก็จะเอามาปิดหนี้บ้านหลังใหม่นี้ทันที
แต่ผมนอนคิดหนักมา 1 สัปดาห์แล้ว หนักใจว่ามันจะเป็นภาระผูกพันมากเกินไปไหม และจะสามารถผ่อนชำระได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่าหน่ะครับ เพราะทั้งชีวิตไม่เคยเป็นหนี้หนักขนาดนี้มาก่อนเลย
ผมลองคำนวนค่าใช้จ่ายต่อเดือน จะมีประมาณนี้ฮะ
1) ค่าน้ำมันในเดินทางไปทำงานของผมและภรรยา รวมกันประมาณ 6,000 บาทต่อเดือน
2) ค่าอาหาร 3 คน (พ่อแม่ลูก) เดือนละ 20,000 บาท
3) ค่าน้ำค่าไฟ (ผมจ่ายบ้านตัวเองและบ้านพ่อแม่ด้วย) เดือนละราวๆ 8,000 บาท
4) เงินให้พ่อแม่ เดือนละ 15,000 บาท
5) เงินให้ภรรยา เดือนละ 25,000 บาท
6) ค่าใช้จ่ายจิปาถะในครอบครัว เดือนละ 15,000 บาท
รวมๆแล้ว หากไม่มีรายจ่ายอื่นๆ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนจะราวๆ 89,000 บาทหน่ะครับ
นอกจากนี้จะมีพวกค่าใช้จ่ายรายครั้งเช่น ค่าประกันชีวิตเดือนละ 10,000 บาทของ ผมและลูก, ค่า RMF เดือนละ 30,000 บาท
รวมแล้วเป็นประมาณ 130,000 บาทต่อเดือน ที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำหน่ะครับ ซึ่งหากเจอค่าผ่อนบ้านเข้าไปอีกเดือนละ 20,000 บาท แปลว่าต่อเดือนจะเหลือเงินฉุกเฉินเก็บแค่เดือนละ 35,000 บาทเท่านั้น ซึ่งจะตึงมากๆเลย แทบไม่สามารถพาลูกไปท่องเที่ยวต่างประเทศหรือไปไหนได้เลยฮะ
ผมกังวลว่าระยะสั้นอาจจะพอไปไหว แต่ระยะยาวไม่รู้จะไปไหวหรือเปล่า ตอนนี้ที่คิดไวๆคือ จะขายรถคันหนึ่งทิ้งไป และไปหารถมือสองสักคันที่ราคา 1-2 แสนบาทมาใช้แทน (จะได้ส่วนต่างมาราวๆ 9 แสนบาท) และจะขายที่ไร่ที่ต่างจังหวัดเพื่อเอาเงินมาโป๊ะให้รายจ่ายค่าบ้านต่อเดือนน้อยที่สุด แต่ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพักหน่ะครับ
เพราะไม่งั้นถ้าผ่อนบ้านไปแบบนี้ ผมกังวลเรื่องเงินเกษียณของตัวเองมากๆเลย กลัวผ่อนบ้านจนหมดก็มีเงินไม่พอเกษียณครับ