
หลักการทำงาน

ผลงานที่ประจักษ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Skynex สร้างผลงานการรบอย่างโดดเด่นในยูเครน
เคียฟ, ยูเครน - ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยใกล้ (SHORAD) รุ่นใหม่อย่าง Skynex ซึ่งผลิตโดยบริษัท Rheinmetall จากประเทศเยอรมนี ได้สร้างผลงานการรบที่น่าประทับใจในการป้องกันน่านฟ้ายูเครน โดยมีรายงานการใช้งานจริงครั้งแรกและครั้งเดียวในสนามรบที่ยูเครน เพื่อต่อต้านการโจมตีจากโดรนและขีปนาวุธของรัสเซีย
ผลงานการรบที่สำคัญของระบบ Skynex เกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2025 ซึ่งกองทัพอากาศยูเครนได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบในการสกัดกั้นและทำลายโดรนพลีชีพ (loitering munitions) รุ่น Shahed ของรัสเซียได้เป็นจำนวนมาก
จุดเด่นและประสิทธิภาพในการรบ
จากการใช้งานจริงในสนามรบยูเครน ระบบ Skynex ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงจุดเด่นหลายประการ:
* กระสุน AHEAD ที่มีประสิทธิภาพสูง: Skynex ใช้กระสุนอัจฉริยะแบบโปรแกรมได้ (programmable ammunition) ที่เรียกว่า AHEAD (Advanced Hit Efficiency and Destruction) ขนาด 35 มม. ซึ่งจะระเบิดออกเป็นกลุ่มเมฆกระสุนทังสเตนขนาดเล็กจำนวนมากก่อนถึงเป้าหมายเล็กน้อย เพิ่มโอกาสในการทำลายเป้าหมายขนาดเล็กและเคลื่อนที่เร็วอย่างโดรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* ความคุ้มค่าในการใช้งาน: เมื่อเทียบกับระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบใช้ขีปนาวุธ การใช้กระสุนของ Skynex มีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการรับมือกับภัยคุกคามจำนวนมากและราคาถูกอย่างโดรน Shahed
* ระบบอัตโนมัติและทำงานได้ทุกสภาพอากาศ: ระบบ Skynex ประกอบด้วยสถานีเรดาร์ติดตามเป้าหมายและปืนใหญ่อัตโนมัติ Oerlikon Revolver Gun Mk3 ที่สามารถปฏิบัติการได้โดยอัตโนมัติและทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทุกสภาพอากาศ
การใช้งานในยูเครน
ยูเครนเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวที่ใช้งานระบบ Skynex ในการรบจริง โดยได้รับมอบระบบดังกล่าวจากรัฐบาลเยอรมนี ข้อมูลจนถึงปัจจุบันระบุว่าเยอรมนีได้ส่งมอบระบบ Skynex ให้แก่ยูเครนแล้วอย่างน้อย 2 ระบบ และมีแผนจะส่งมอบเพิ่มเติมในอนาคต ระบบเหล่านี้ถูกนำไปใช้เพื่อปกป้องเมืองสำคัญและโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์จากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย
ประเทศผู้ใช้งานอื่น
* ประสิทธิภาพที่พิสูจน์แล้ว: มีหลักฐานโดยตรงจากสมรภูมิยูเครนที่ระบุว่า Skynex ให้ผลลัพธ์ที่ "ไร้ที่ติ" (flawless/impeccable) ในการทำลายโดรนพลีชีพ Shahed ของรัสเซีย วิดีโอที่เผยแพร่แสดงให้เห็นว่าระบบสามารถสกัดกั้นโดรนหลายลำได้ด้วยการยิงเป็นชุดสั้นๆ และแม่นยำ
* การรับมือการโจมตีแบบอิ่มตัว: การผสมผสานระหว่างอัตราการยิงที่สูงมาก (1,000 นัดต่อนาทีต่อปืน), การประมวลผลเป้าหมายที่รวดเร็วของระบบ Skymaster, และลักษณะการทำลายแบบเป็นพื้นที่ของกระสุน AHEAD ทำให้ระบบนี้มีประสิทธิภาพสูงอย่างยิ่งในการต่อต้านการโจมตีแบบอิ่มตัวหรือฝูงโดรน ในการทดสอบ มีรายงานว่าการยิงเพียง 18 นัดสามารถทำลายฝูงโดรน 8 ลำได้สำเร็จ
* ผลกระทบทางยุทธศาสตร์และจิตวิทยา: มีรายงานว่าในเมืองต่างๆ ของยูเครนที่ได้รับการคุ้มกันโดย Skynex ความถี่ของเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศและเหตุการณ์ไฟฟ้าดับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ที่จับต้องได้ นอกเหนือไปจากการยิงโดรนให้ตกเท่านั้น
คนซื้อไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยูเครนคือลูกค้ารายสำคัญที่สุดและเป็นสมรภูมิทดสอบจริงที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Skynex การจัดหาได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี ข้อมูลจากหลายแหล่งระบุมูลค่าสัญญาที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งอาจเกิดจากการรวมส่วนประกอบที่แตกต่างกันในแต่ละสัญญา หรือการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง สัญญาหลักที่ประกาศในเดือนธันวาคม 2022 เป็นการจัดหาระบบ Skynex จำนวน 2 ระบบ มีมูลค่าประมาณ 182 ล้านยูโร (ประมาณ 7,280 ล้านบาท) โดยมีสัญญาเพิ่มเติมสำหรับรถบรรทุก Rheinmetall HX ที่ใช้เป็นฐานติดตั้งอีก 12 ล้านยูโร (ประมาณ 480 ล้านบาท) ขณะที่แหล่งข้อมูลอื่นระบุมูลค่าที่ 160 ล้านยูโร (ประมาณ 6,400 ล้านบาท) หรือประมาณ 200-211 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7,300 - 7,700 ล้านบาท) ระบบชุดแรกได้ถูกส่งมอบและเข้าสู่ปฏิบัติการในช่วงต้นปี 2024 และได้รับการยืนยันว่ามีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านโดรนของรัสเซีย มีรายงานว่ายูเครนกำลังดำเนินการจัดหาระบบเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้มูลค่าการจัดหารวมสูงถึงประมาณ 500 ล้านยูโร (ประมาณ 20,000 ล้านบาท)
การจัดซื้อของชาติตะวันออกกลางและลูกค้ารายแรกๆ
ก่อนที่ Skynex จะโด่งดังในยูเครน ระบบนี้ได้ถูกจัดหาโดยลูกค้ารายอื่นแล้ว
* กาตาร์ (Qatar): เป็นหนึ่งในลูกค้ารายแรกๆ ที่สั่งซื้อระบบ Skynex โดยมีรายงานว่าสัญญาได้ลงนามในเดือนตุลาคม 2019 ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบบัญชาการ Skymaster, เรดาร์, ปืน และกระสุน AHEAD มูลค่าของสัญญาอยู่ที่ประมาณ 210 ล้านยูโร (ประมาณ 8,400 ล้านบาท)
* ลูกค้าที่ไม่เปิดเผยชื่อ: ในเดือนมีนาคม 2024 Rheinmetall ได้ประกาศสัญญาจัดหาระบบ Skynex เพิ่มเติมให้กับ "ลูกค้าชาวยุโรปที่ไม่เปิดเผยชื่อ" โดยมีมูลค่าอยู่ในระดับ "เลขสามหลักล้านยูโรตอนต้น" (lower three-digit million Euro range) หรือประมาณ 100-300 ล้านยูโร และมีกำหนดส่งมอบในปี 2025 การมีคำสั่งซื้อต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดที่ยังคงมีอยู่สูง
การขยายตัวในกลุ่มประเทศ NATO
ความสำเร็จในยูเครนได้กระตุ้นให้หลายประเทศในกลุ่ม NATO ตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีของ Skynex ทั้งในรูปแบบการจัดหาใหม่และการปรับปรุงระบบเดิม
* อิตาลี (Italy): เป็นประเทศสมาชิก NATO รายแรกที่จัดซื้อระบบ Skynex ครบชุด โดยได้สั่งซื้อระบบนำร่อง (pilot system) จำนวน 1 ระบบในเบื้องต้น มูลค่า 73 ล้านยูโร (ประมาณ 2,920 ล้านบาท) สัญญานี้ยังรวมถึงทางเลือกในการจัดหาเพิ่มเติมอีก 3 ระบบ มูลค่า 204 ล้านยูโร (ประมาณ 8,160 ล้านบาท) ซึ่งหากใช้สิทธิ์ครบถ้วน จะทำให้มูลค่าการจัดหารวมสำหรับ 4 ระบบอยู่ที่เกือบ 280 ล้านยูโร (ประมาณ 11,200 ล้านบาท)
* โรมาเนีย (Romania): โรมาเนียเลือกแนวทางการปรับปรุงระบบปืนแฝด Oerlikon GDF 103 ที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยและสามารถบูรณาการเข้ากับสถาปัตยกรรมของ Skynex ได้ สัญญาการปรับปรุงครั้งใหญ่นี้มีมูลค่าประมาณ 328 ล้านยูโร (ประมาณ 13,120 ล้านบาท) สำหรับการปรับปรุงระบบทั้งหมด 4 ระบบ
* ออสเตรีย (Austria): เช่นเดียวกับโรมาเนีย ออสเตรียได้ทำสัญญาปรับปรุงระบบ Skyguard ที่มีอยู่เดิมให้เป็นมาตรฐาน "Skyguard Next Generation" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในตระกูล Skynex โครงการปรับปรุงที่ครอบคลุมนี้มีมูลค่าสูงถึง 532 ล้านยูโร (ประมาณ 21,280 ล้านบาท) สำหรับการปรับปรุงหน่วยรบทางยุทธวิธี (tactical units) จำนวน 7 หน่วย ซึ่งประกอบด้วยปืน 28 กระบอก
ราคา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การประเมินราคาระบบและกระสุน
จากข้อมูลการซื้อขายข้างต้น สามารถประเมินราคาของระบบ Skynex หนึ่งหน่วยมาตรฐาน (1 C2, 1 เรดาร์, 4 ปืน) ได้ดังนี้
* จากสัญญาของยูเครน (2 ระบบ มูลค่า 182 ล้านยูโร) ราคาต่อระบบจะอยู่ที่ 91 ล้านยูโร (ประมาณ 3,640 ล้านบาท)
* จากสัญญาของอิตาลี (4 ระบบ มูลค่ารวม 277 ล้านยูโร) ราคาต่อระบบจะอยู่ที่ประมาณ 69.25 ล้านยูโร (ประมาณ 2,770 ล้านบาท)
ความแตกต่างของราคาอาจเกิดจากแพ็คเกจการส่งกำลังบำรุง, การฝึกอบรม และจำนวนกระสุนเริ่มต้นที่แตกต่างกัน ดังนั้น ตัวเลขที่สมเหตุสมผลสำหรับใช้ในการวางแผนงบประมาณสำหรับ Skynex หนึ่งหน่วยรบ (battery) จะอยู่ในช่วง 70-95 ล้านยูโร (ประมาณ 2,800 - 3,800 ล้านบาท)
ในส่วนของกระสุน ต้นทุนต่อการยิงสกัดกั้นหนึ่งครั้งด้วยกระสุน AHEAD ได้รับการรายงานอย่างสม่ำเสมอว่าอยู่ที่ประมาณ 4,000 ยูโร (ประมาณ 160,000 บาท) เมื่อเปรียบเทียบกับราคาของขีปนาวุธ IRIS-T หนึ่งนัด ซึ่งมีราคาระหว่าง 300,000 ถึง 500,000 ยูโร (ประมาณ 12 - 20 ล้านบาท) จะเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความได้เปรียบทางเศรษฐศาสตร์
ประเมินการรับมือจาก BM21 PHL03
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การรับมือระบบจรวดหลายลำกล้อง (C-RAM)
ระบบ Skynex ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับภารกิจ C-RAM ระบบควบคุมการยิงมีความสามารถในการคำนวณตำบลกระสุนตกที่คาดการณ์ไว้ของจรวดที่ยิงเข้ามา และจะเลือกยิงสกัดกั้นเฉพาะจรวดที่กำลังจะตกในพื้นที่ป้องกันเท่านั้น เพื่อเป็นการประหยัดกระสุน
* ภัยคุกคามจาก BM-21 Grad
* คุณลักษณะของภัยคุกคาม: BM-21 Grad เป็นระบบจรวดหลายลำกล้องขนาด 122 mm ที่สามารถยิงจรวดที่ไม่มีการนำวิถีจำนวน 40 นัดได้ภายในเวลาประมาณ 20 วินาที จรวดมีความเร็วปากลำกล้องค่อนข้างต่ำ (ประมาณ 690 m/s) และมีวิถีโค้งที่สามารถคำนวณได้ง่าย
* ศักยภาพในการสกัดกั้นของ Skynex: ประเมินได้ว่า Skynex เหมาะสมอย่างยิ่งในการรับมือกับภัยคุกคามประเภทนี้ เรดาร์ X-TAR3D สามารถตรวจจับและติดตามจรวดที่ยิงเข้ามาเป็นชุดได้ ระบบ Skymaster จะจัดลำดับความสำคัญของภัยคุกคามและมอบหมายเป้าหมายให้กับปืนทั้ง 4 กระบอก ระยะยิงหวังผล 4 กิโลเมตรของปืนให้หน้าต่างเวลา (engagement window) ที่เพียงพอในการสกัดกั้นจรวดเหล่านี้ ปัจจัยจำกัดที่สำคัญคือจำนวนเป้าหมายที่สามารถรับมือได้พร้อมกัน (simultaneous engagement channels) ระบบ Skynex หนึ่งหน่วยจะถูกทดสอบอย่างหนักหากต้องเผชิญกับการยิงเต็มอัตราศึก 40 นัดพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ทางแก้ปัญหานี้ถูกสร้างไว้ในสถาปัตยกรรมของระบบแล้ว นั่นคือความสามารถในการขยายขนาด (Scalability) โดยการเพิ่มจำนวนปืนเข้ามาในเครือข่ายควบคุมเดียวกัน
* ความท้าทายจาก PHL-03
* คุณลักษณะของภัยคุกคาม: PHL-03 เป็นภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนสูงกว่ามาก เป็นระบบจรวดขนาด 300 mm ที่มีพิสัยยิงไกลกว่ามาก (สูงสุด 130-160 กิโลเมตร), มีความเร็วสูงกว่า และอาจมีรุ่นที่ติดตั้งระบบนำวิถี จรวดจากระบบนี้จะมีความเร็วสุดท้าย (terminal velocity) ที่สูงกว่าและมีมุมปะทะที่ชันกว่ามาก
* ข้อจำกัดในการสกัดกั้นของ Skynex: สิ่งนี้ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญอย่างยิ่ง ความเร็วที่สูงมากของจรวดจะลดเวลาที่จรวดอยู่ในระยะยิงหวังผล 4 กิโลเมตรของ Skynex ลงอย่างมาก มุมปะทะที่ชันอาจทำให้การเล็งยิงเป็นไปได้ยากขึ้น แม้ว่าในทางทฤษฎี Skynex อาจสามารถสกัดกั้นจรวด PHL-03 ได้ แต่ความน่าจะเป็นในการทำลายจะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการสกัดกั้นจรวดจาก BM-21 ระบบจะถูกผลักดันไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดของประสิทธิภาพ
* บทสรุปสำหรับภัยคุกคาม MLRS: แม้ว่า Skynex จะให้การป้องกันแบบ C-RAM ที่น่าเชื่อถือต่อภัยคุกคามจากจรวดปืนใหญ่รุ่นเก่าที่ไม่มีการนำวิถีอย่าง Grad แต่ก็ไม่ใช่มาตรการตอบโต้ที่เพียงพอโดยลำพังสำหรับระบบที่ทันสมัย มีความเร็วสูง และพิสัยไกลอย่าง PHL-03
ประสิทธิภาพของ Skynex นั้นเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับแนวคิด "การป้องกันแบบหลายชั้น" (Layered Defense) ข้อจำกัดของมันในการต่อต้านภัยคุกคามระดับสูงไม่ได้หมายความว่าระบบล้มเหลว แต่เป็นการชี้ชัดถึงบทบาทที่เฉพาะเจาะจงและสำคัญอย่างยิ่งของมัน ไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศใดที่สามารถรับมือได้ทุกภัยคุกคาม ตั้งแต่ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงไปจนถึงโดรนขนาดเล็ก Skynex มีความเป็นเลิศในระดับ "ล่าง" (โดรน) และ "ระยะใกล้" (C-RAM ต่อ Grad) แต่จะประสบปัญหาในระดับ "สูง" (PHL-03) ดังนั้น สำหรับประเทศที่เผชิญกับภัยคุกคามที่หลากหลาย Skynex จะต้องถูกบูรณาการเข้ากับเครือข่ายที่ใหญ่กว่า โดยมีระบบพิสัยไกล (เช่น Patriot หรือ SAMP/T) รับผิดชอบเป้าหมายที่บินสูงและจรวดความเร็วสูงในระยะไกลออกไป บทบาทของ Skynex คือการสร้าง "ฟองสบู่ป้องกัน" ชั้นในสุดที่มีความคุ้มค่าสูงเพื่อปกป้องทรัพย์สินสำคัญ และจัดการกับภัยคุกคามจำนวนมากราคาถูกที่ "เล็ดลอด" เข้ามา ซึ่งไม่คุ้มค่าที่ระบบพิสัยไกลราคาแพงจะเข้าปะทะด้วย
Skynex..ป้อมปืน สำหรับฝูงโดรน ที่ราคาดี มีผลงาน
หลักการทำงาน
ผลงานที่ประจักษ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คนซื้อไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ราคา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประเมินการรับมือจาก BM21 PHL03
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้