ยกกรณีตัวอย่างของผู้เขียนมานะคะ
“พ่ออายุ 94 แม่อายุ 84”
บทเรียนชีวิตจริงของ Longevity Risk ที่ไม่ควรมองข้าม
วันก่อนผมเขียนบทความเรื่อง "บำนาญ" และ
พูดถึงประเด็นหนึ่งที่สำคัญมากแต่หลายคนยังไม่ค่อยตระหนัก
คือ Longevity Risk หรือ "ความเสี่ยงที่เราจะมีชีวิตยืนยาวกว่าที่คาด"
ชีวิตจริงของพ่อแม่ผม คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนมาก
คุณพ่ออายุ 94 ปี เกินกว่าอายุขัยเฉลี่ยของผู้ชายไทยที่ 75
คุณแม่อายุ 84 ปี ก็เกินกว่าอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงไทยที่ 80
ท่านทั้งสองยังอยู่ และยังใช้ชีวิตได้ดี แม้จะมีโรคประจำวัยบางอย่าง
แต่สิ่งที่ทำให้ยังพึ่งพาตัวเองได้ในระดับหนึ่งคือ
การเตรียมตัวทั้งด้านการเงินและสุขภาพที่ดีมาตั้งแต่ก่อนเกษียณ
✅ บำนาญไม่พอ ต้องมีรายได้เสริม
แม้พ่อแม่จะรับราชการและมี "บำนาญ" แต่ก็เพียงพอแค่พื้นฐานบางอย่าง
เช่น ค่ายารัฐ ค่าหมอเบื้องต้น แต่ยังมีรายจ่ายอีกมากที่ต้องดูแลเอง
ค่ายาพิเศษ เช่น ยามะเร็งที่คุณแม่ต้องใช้
ค่าห้องพิเศษในโรงพยาบาล
ค่าจ้างคนดูแลช่วงเจ็บป่วย หรือช่วยพาไปโรงพยาบาล
โชคดีที่พ่อแม่ของผมมี
รายได้จาก บ้านเช่า ลงทุนที่ดิน
เงินออมใน สหกรณ์ครู
สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมบำนาญให้เพียงพอในการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพเมื่ออายุมากขึ้น
✅ สุขภาพที่ดีไม่ได้สร้างหลังเกษียณ ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้
แม่มักจะพูดเสมอว่า
“เก็บเงินไว้ใช้ยามแก่ และดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี
เพราะหลังเกษียณ สุขภาพดีมีค่ามากกว่าเงิน”
เพราะเมื่ออายุมากขึ้น
กิจกรรมนอกบ้านลดลง
ต้องพักผ่อนมากขึ้น
มีโอกาสต้องพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้น
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพจะเพิ่มขึ้นมาก ทั้งที่ไม่คาดคิด และเลี่ยงไม่ได้
⚠️ ยิ่งแก่…ยิ่งไม่สามารถดูพอร์ตลงทุนตัวเองได้เหมือนเดิม
หลายคนมั่นใจว่าตัวเองสามารถดูพอร์ต จัดพอร์ต เปลี่ยนกลยุทธ์ลงทุนได้แม่นยำตลอดไป
แต่ในความเป็นจริง…
สายตาจะพร่ามัว
ความจำจะช้าลง
พลังในการคิดวิเคราะห์จะไม่เหมือนเดิม
และที่สำคัญคือ “ใจ” อาจไม่สู้เหมือนเดิม
อย่า Overconfident กับตัวเองในวันนี้
อย่าคิดว่าเราจะ Active ได้เหมือนเดิม
ตอนอายุ 70, 80 หรือ 90 ปี
เพราะในวัยนั้น
เราจะต้อง “พักมากขึ้น” ไม่ใช่ “มานั่งเฝ้าพอร์ต”
📌 บทสรุป: วางแผนเกษียณ = วางแผนชีวิต
Longevity Risk ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เราทุกคนอาจจะอยู่ถึง 85, 90 หรือมากกว่านั้น
แต่จะอยู่แบบไหน อยู่ดีหรืออยู่อย่างลำบาก… ขึ้นอยู่กับ “การเตรียมตัววันนี้”
💬 หลายคนกลัวว่า "จะอยู่ไม่ถึง" แล้วจะเสียดายเงินที่เตรียมไว้
แต่ผมคิดว่า สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ “อยู่ถึง... แต่ไม่มีเงินใช้”
อยู่ในวันที่ร่างกายอ่อนแรง เจ็บป่วย ต้องพึ่งพา แต่ไม่มีทุนดูแลตัวเอง
— แบบนั้นต่างหากที่น่ากลัว
💬 “อย่าให้ชีวิตหลังเกษียณ กลายเป็นการเอาตัวรอดจากสิ่งที่เรานึกไม่ถึงมาก่อน”
วางแผนการเงินให้ยืดหยุ่น
สร้างรายได้ที่ไม่ต้องอาศัยแรง
ดูแลสุขภาพก่อนเกษียณ
และยอมรับว่า… วันหนึ่งเราอาจไม่มีแรงพอจะ “บริหารเงินของตัวเอง” ได้อีกต่อไป
*** ส่วนตัวเรานั้น ก็คิดว่าเป็นคนที่แข็งแรงคนหนึ่ง เพราะชอบออกกำลังกาย ชอบเดิน ไม่อยู่นิ่ง ผลตรวจเลือด ตรวจสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี กลัวว่าจะมีอายุยืน แล้วเงินเก็บไม่พอจังเลย 😮💨
CR : page FB WealthGuru
ได้เตรียมตัวกันไหม ว่าเราจะมี Longevity Risk หรือ “ความเสี่ยงที่เราจะมีชีวิตยืนยาวกว่าที่คาด”!!!
“พ่ออายุ 94 แม่อายุ 84”
บทเรียนชีวิตจริงของ Longevity Risk ที่ไม่ควรมองข้าม
วันก่อนผมเขียนบทความเรื่อง "บำนาญ" และ
พูดถึงประเด็นหนึ่งที่สำคัญมากแต่หลายคนยังไม่ค่อยตระหนัก
คือ Longevity Risk หรือ "ความเสี่ยงที่เราจะมีชีวิตยืนยาวกว่าที่คาด"
ชีวิตจริงของพ่อแม่ผม คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนมาก
คุณพ่ออายุ 94 ปี เกินกว่าอายุขัยเฉลี่ยของผู้ชายไทยที่ 75
คุณแม่อายุ 84 ปี ก็เกินกว่าอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงไทยที่ 80
ท่านทั้งสองยังอยู่ และยังใช้ชีวิตได้ดี แม้จะมีโรคประจำวัยบางอย่าง
แต่สิ่งที่ทำให้ยังพึ่งพาตัวเองได้ในระดับหนึ่งคือ
การเตรียมตัวทั้งด้านการเงินและสุขภาพที่ดีมาตั้งแต่ก่อนเกษียณ
✅ บำนาญไม่พอ ต้องมีรายได้เสริม
แม้พ่อแม่จะรับราชการและมี "บำนาญ" แต่ก็เพียงพอแค่พื้นฐานบางอย่าง
เช่น ค่ายารัฐ ค่าหมอเบื้องต้น แต่ยังมีรายจ่ายอีกมากที่ต้องดูแลเอง
ค่ายาพิเศษ เช่น ยามะเร็งที่คุณแม่ต้องใช้
ค่าห้องพิเศษในโรงพยาบาล
ค่าจ้างคนดูแลช่วงเจ็บป่วย หรือช่วยพาไปโรงพยาบาล
โชคดีที่พ่อแม่ของผมมี
รายได้จาก บ้านเช่า ลงทุนที่ดิน
เงินออมใน สหกรณ์ครู
สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมบำนาญให้เพียงพอในการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพเมื่ออายุมากขึ้น
✅ สุขภาพที่ดีไม่ได้สร้างหลังเกษียณ ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้
แม่มักจะพูดเสมอว่า
“เก็บเงินไว้ใช้ยามแก่ และดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี
เพราะหลังเกษียณ สุขภาพดีมีค่ามากกว่าเงิน”
เพราะเมื่ออายุมากขึ้น
กิจกรรมนอกบ้านลดลง
ต้องพักผ่อนมากขึ้น
มีโอกาสต้องพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้น
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพจะเพิ่มขึ้นมาก ทั้งที่ไม่คาดคิด และเลี่ยงไม่ได้
⚠️ ยิ่งแก่…ยิ่งไม่สามารถดูพอร์ตลงทุนตัวเองได้เหมือนเดิม
หลายคนมั่นใจว่าตัวเองสามารถดูพอร์ต จัดพอร์ต เปลี่ยนกลยุทธ์ลงทุนได้แม่นยำตลอดไป
แต่ในความเป็นจริง…
สายตาจะพร่ามัว
ความจำจะช้าลง
พลังในการคิดวิเคราะห์จะไม่เหมือนเดิม
และที่สำคัญคือ “ใจ” อาจไม่สู้เหมือนเดิม
อย่า Overconfident กับตัวเองในวันนี้
อย่าคิดว่าเราจะ Active ได้เหมือนเดิม
ตอนอายุ 70, 80 หรือ 90 ปี
เพราะในวัยนั้น
เราจะต้อง “พักมากขึ้น” ไม่ใช่ “มานั่งเฝ้าพอร์ต”
📌 บทสรุป: วางแผนเกษียณ = วางแผนชีวิต
Longevity Risk ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เราทุกคนอาจจะอยู่ถึง 85, 90 หรือมากกว่านั้น
แต่จะอยู่แบบไหน อยู่ดีหรืออยู่อย่างลำบาก… ขึ้นอยู่กับ “การเตรียมตัววันนี้”
💬 หลายคนกลัวว่า "จะอยู่ไม่ถึง" แล้วจะเสียดายเงินที่เตรียมไว้
แต่ผมคิดว่า สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ “อยู่ถึง... แต่ไม่มีเงินใช้”
อยู่ในวันที่ร่างกายอ่อนแรง เจ็บป่วย ต้องพึ่งพา แต่ไม่มีทุนดูแลตัวเอง
— แบบนั้นต่างหากที่น่ากลัว
💬 “อย่าให้ชีวิตหลังเกษียณ กลายเป็นการเอาตัวรอดจากสิ่งที่เรานึกไม่ถึงมาก่อน”
วางแผนการเงินให้ยืดหยุ่น
สร้างรายได้ที่ไม่ต้องอาศัยแรง
ดูแลสุขภาพก่อนเกษียณ
และยอมรับว่า… วันหนึ่งเราอาจไม่มีแรงพอจะ “บริหารเงินของตัวเอง” ได้อีกต่อไป
*** ส่วนตัวเรานั้น ก็คิดว่าเป็นคนที่แข็งแรงคนหนึ่ง เพราะชอบออกกำลังกาย ชอบเดิน ไม่อยู่นิ่ง ผลตรวจเลือด ตรวจสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี กลัวว่าจะมีอายุยืน แล้วเงินเก็บไม่พอจังเลย 😮💨
CR : page FB WealthGuru