ผู้สูงอายุล้มไม่ใช่เรื่องเล็ก!... “ล้มถูกวิธี” ช่วยลดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้
ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน เดินไปไหนมาไหนพื้นก็ลื่นไปหมดเสี่ยงหกล้มกันได้ง่ายๆ หลายคนอาจมองว่า "แค่ล้ม" ไม่เห็นจะน่ากลัวอะไร แต่ถ้าเป็น "ผู้สูงอายุ" บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย เพราะแค่ล้มครั้งเดียวอาจถึงขั้นกระดูกหัก เดินไม่ได้ หรือทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเลยก็มี
จากสถิติทั้งในไทยและต่างประเทศ การล้มเป็นสาเหตุหลักอันดับต้นๆ ของการบาดเจ็บในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคกระดูกพรุน หรือการทรงตัวไม่ดี ยิ่งเสี่ยงหนัก เพราะแค่ล้มเบาๆ ก็อาจกระดูกหักได้แล้ว และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ การล้มที่ศีรษะกระแทกพื้นอาจทำให้เกิดเลือดออกในสมอง ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย
แล้วมีใครรู้ไหม? ว่าการ "ล้มถูกวิธี" สามารถช่วยลดแรงกระแทกและลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บได้ เพราะแม้ว่าเราจะพยายามป้องกันไม่ให้ล้มยังไงก็ตาม แต่บางสถานการณ์มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เช่น พื้นเปียก ลื่น เหยียบพรมพับ สะดุดขอบประตู ฯลฯ แต่ถ้าเรารู้วิธีล้มที่ถูกต้อง ร่างกายจะสามารถกระจายแรงกระแทกแทนที่จะรับแรงทั้งหมดไว้ที่จุดเดียว เช่น ข้อมือ สะโพก หรือศีรษะ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่มักบาดเจ็บหนักเวลาล้ม
เทคนิค "ล้มถูกวิธี" ที่ควรรู้ (และควรฝึก)
- งอเข่า ลดแรงกระแทก (Squatting) ถ้ารู้ตัวว่าจะล้ม ให้พยายามย่อตัวและงอเข่าเพื่อลดแรงกระแทกที่สะโพก เพราะการล้มในท่ายืนตรงๆ มีโอกาสทำให้สะโพกหรือกระดูกสันหลังหักสูงมาก
- ม้วนตัว เพื่อลดแรงกระแทก (Tuck-and-Roll) เทคนิคนี้จะช่วยกระจายแรงไปทั่วตัว แทนที่จะกระแทกที่จุดใดจุดหนึ่ง เช่น สะโพกหรือหัว ลักษณะคล้ายๆ การล้มของนักยูโดที่ม้วนตัวกลิ้งไป ช่วยลดความแรงได้ดีมาก
- งอศอก ไม่ใช้มือยันพื้นตรงๆ (Elbow Flexion) หลายคนพอจะล้มก็เผลอยื่นมือยันพื้นเต็มแรงผลคือข้อมือหัก ถ้าเลี่ยงได้ ให้พยายามงอศอกและเก็บแขนไว้ใกล้ตัว ใช้ส่วนแขนรับแรงแทนข้อมือโดยตรง
ท่าพวกนี้ฟังดูง่ายแต่พอล้มจริงๆ บางคนอาจทำไม่ทัน ดังนั้นควรฝึกฝนและแนะนำว่าให้ฝึกภายใต้การดูแลของนักกายภาพบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเราทำถูกและปลอดภัยจริงๆ ถ้าฝึกบ่อยๆ จะช่วยให้ร่างกายตอบสนองอัตโนมัติได้ดีขึ้น เวลาล้มจริงจะได้ทำท่าถูกได้ทันโดยไม่ต้องคิดเยอะ
"การล้ม" สำหรับคนวัยหนุ่มสาวอาจแค่เจ็บนิดๆ แต่สำหรับผู้สูงอายุ มันคือจุดเปลี่ยนชีวิตได้เลยเพราะหลังจากล้มแล้ว บางคนอาจต้องนอนติดเตียง สูญเสียความมั่นใจ ไม่กล้าเดินหรือออกนอกบ้านอีกเลย การล้มที่ถูกวิธีจึงไม่ได้ช่วยแค่ลดบาดเจ็บ แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับผู้สูงอายุด้วย เพราะเค้าจะรู้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นยังมีวิธีป้องกันตัวเองได้บ้าง
การเรียนรู้วิธีล้มที่ถูกต้องจึงไม่ใช่เรื่องเกินความจำเป็น แต่คือการเตรียมความพร้อมที่ทุกบ้านควรให้ความสำคัญ...
ผู้สูงอายุล้มไม่ใช่เรื่องเล็ก!... “ล้มถูกวิธี” ช่วยลดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้
ผู้สูงอายุล้มไม่ใช่เรื่องเล็ก!... “ล้มถูกวิธี” ช่วยลดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้
ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน เดินไปไหนมาไหนพื้นก็ลื่นไปหมดเสี่ยงหกล้มกันได้ง่ายๆ หลายคนอาจมองว่า "แค่ล้ม" ไม่เห็นจะน่ากลัวอะไร แต่ถ้าเป็น "ผู้สูงอายุ" บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย เพราะแค่ล้มครั้งเดียวอาจถึงขั้นกระดูกหัก เดินไม่ได้ หรือทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเลยก็มี
จากสถิติทั้งในไทยและต่างประเทศ การล้มเป็นสาเหตุหลักอันดับต้นๆ ของการบาดเจ็บในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคกระดูกพรุน หรือการทรงตัวไม่ดี ยิ่งเสี่ยงหนัก เพราะแค่ล้มเบาๆ ก็อาจกระดูกหักได้แล้ว และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ การล้มที่ศีรษะกระแทกพื้นอาจทำให้เกิดเลือดออกในสมอง ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย
แล้วมีใครรู้ไหม? ว่าการ "ล้มถูกวิธี" สามารถช่วยลดแรงกระแทกและลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บได้ เพราะแม้ว่าเราจะพยายามป้องกันไม่ให้ล้มยังไงก็ตาม แต่บางสถานการณ์มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เช่น พื้นเปียก ลื่น เหยียบพรมพับ สะดุดขอบประตู ฯลฯ แต่ถ้าเรารู้วิธีล้มที่ถูกต้อง ร่างกายจะสามารถกระจายแรงกระแทกแทนที่จะรับแรงทั้งหมดไว้ที่จุดเดียว เช่น ข้อมือ สะโพก หรือศีรษะ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่มักบาดเจ็บหนักเวลาล้ม
เทคนิค "ล้มถูกวิธี" ที่ควรรู้ (และควรฝึก)
- งอเข่า ลดแรงกระแทก (Squatting) ถ้ารู้ตัวว่าจะล้ม ให้พยายามย่อตัวและงอเข่าเพื่อลดแรงกระแทกที่สะโพก เพราะการล้มในท่ายืนตรงๆ มีโอกาสทำให้สะโพกหรือกระดูกสันหลังหักสูงมาก
- ม้วนตัว เพื่อลดแรงกระแทก (Tuck-and-Roll) เทคนิคนี้จะช่วยกระจายแรงไปทั่วตัว แทนที่จะกระแทกที่จุดใดจุดหนึ่ง เช่น สะโพกหรือหัว ลักษณะคล้ายๆ การล้มของนักยูโดที่ม้วนตัวกลิ้งไป ช่วยลดความแรงได้ดีมาก
- งอศอก ไม่ใช้มือยันพื้นตรงๆ (Elbow Flexion) หลายคนพอจะล้มก็เผลอยื่นมือยันพื้นเต็มแรงผลคือข้อมือหัก ถ้าเลี่ยงได้ ให้พยายามงอศอกและเก็บแขนไว้ใกล้ตัว ใช้ส่วนแขนรับแรงแทนข้อมือโดยตรง
ท่าพวกนี้ฟังดูง่ายแต่พอล้มจริงๆ บางคนอาจทำไม่ทัน ดังนั้นควรฝึกฝนและแนะนำว่าให้ฝึกภายใต้การดูแลของนักกายภาพบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเราทำถูกและปลอดภัยจริงๆ ถ้าฝึกบ่อยๆ จะช่วยให้ร่างกายตอบสนองอัตโนมัติได้ดีขึ้น เวลาล้มจริงจะได้ทำท่าถูกได้ทันโดยไม่ต้องคิดเยอะ
"การล้ม" สำหรับคนวัยหนุ่มสาวอาจแค่เจ็บนิดๆ แต่สำหรับผู้สูงอายุ มันคือจุดเปลี่ยนชีวิตได้เลยเพราะหลังจากล้มแล้ว บางคนอาจต้องนอนติดเตียง สูญเสียความมั่นใจ ไม่กล้าเดินหรือออกนอกบ้านอีกเลย การล้มที่ถูกวิธีจึงไม่ได้ช่วยแค่ลดบาดเจ็บ แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับผู้สูงอายุด้วย เพราะเค้าจะรู้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นยังมีวิธีป้องกันตัวเองได้บ้าง
การเรียนรู้วิธีล้มที่ถูกต้องจึงไม่ใช่เรื่องเกินความจำเป็น แต่คือการเตรียมความพร้อมที่ทุกบ้านควรให้ความสำคัญ...