นาฬิกาทรายและไข่มุกอาถรรพ์
บนโต๊ะไม้เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างของห้องสมุดปราสาท นาฬิกาทรายเรือนหนึ่งยืนตระหง่าน เม็ดทรายสีทองร่วงหล่นลงมาอย่างเชื่องช้า วัดห้วงเวลาที่ไร้สิ้นสุดอย่างเงียบงัน เจ้าหญิงเอลิเซียใช้เวลาส่วนใหญ่ของเธอที่นี่ สายตาจับจ้องไปที่นาฬิกาทรายราวกับจะหาคำตอบบางอย่างจากมัน
วันนี้ไม่ต่างจากวันอื่น ๆ เอลิเซียนั่งอยู่หน้าโต๊ะ จิตใจของเธอไม่อยู่กับตำราเล่มโตที่เปิดค้างอยู่ แต่กลับว้าวุ่นอยู่กับเรื่องราวของ "ไข่มุกอาถรรพ์" ที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคนในราชวงศ์ ไข่มุกเม็ดนั้นถูกเก็บรักษาไว้ในหอคอยที่สูงที่สุดของปราสาท เชื่อกันว่ามันนำมาซึ่งความมั่งคั่งและอำนาจ แต่ในขณะเดียวกันก็สาปแช่งผู้ที่ครอบครองให้พบกับความโดดเดี่ยวและความทุกข์ทรมาน
ตำนานเล่าว่า ไข่มุกนี้เคยเป็นของราชินีผู้เลอโฉมในอดีต ซึ่งหลังจากได้ครอบครองไข่มุก เธอก็หมางเมินทุกคนรอบกาย ปิดตัวเองจากโลกภายนอก จนกระทั่งสิ้นพระชนม์อย่างเดียวดาย
เอลิเซียรู้สึกถึงแรงดึงดูดประหลาดจากไข่มุกเม็ดนั้นมาโดยตลอด แม้จะรู้ถึงคำสาป แต่ความปรารถนาที่จะเข้าใจมันกลับแรงกล้าขึ้นทุกวัน เธอเชื่อว่าต้องมีทางที่จะลบล้างคำสาป หรืออย่างน้อยก็ค้นพบความจริงเบื้องหลังมัน
เม็ดทรายในนาฬิกาทรายยังคงร่วงหล่น เอลิเซียก้มลงมองมันอีกครั้ง คล้ายกับว่ากาลเวลากำลังบีบคั้นให้เธอตัดสินใจบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาฉายแววแน่วแน่ "บางที...เวลาอาจไม่ใช่แค่การรอคอย แต่มันคือการตัดสินใจ" เธอกระซิบกับตัวเอง
ในที่สุด เอลิเซียก็ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตา เธอจะขึ้นไปบนหอคอย จะสัมผัสไข่มุกอาถรรพ์นั้นด้วยตัวเอง และจะค้นหาว่าโชคชะตาที่แท้จริงของเธอนั้นถูกกำหนดโดยอดีต หรือถูกสร้างขึ้นจากความกล้าหาญในปัจจุบันของเธอ
นาฬิกาทรายและไข่มุกอาถรรพ์
บนโต๊ะไม้เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างของห้องสมุดปราสาท นาฬิกาทรายเรือนหนึ่งยืนตระหง่าน เม็ดทรายสีทองร่วงหล่นลงมาอย่างเชื่องช้า วัดห้วงเวลาที่ไร้สิ้นสุดอย่างเงียบงัน เจ้าหญิงเอลิเซียใช้เวลาส่วนใหญ่ของเธอที่นี่ สายตาจับจ้องไปที่นาฬิกาทรายราวกับจะหาคำตอบบางอย่างจากมัน
วันนี้ไม่ต่างจากวันอื่น ๆ เอลิเซียนั่งอยู่หน้าโต๊ะ จิตใจของเธอไม่อยู่กับตำราเล่มโตที่เปิดค้างอยู่ แต่กลับว้าวุ่นอยู่กับเรื่องราวของ "ไข่มุกอาถรรพ์" ที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคนในราชวงศ์ ไข่มุกเม็ดนั้นถูกเก็บรักษาไว้ในหอคอยที่สูงที่สุดของปราสาท เชื่อกันว่ามันนำมาซึ่งความมั่งคั่งและอำนาจ แต่ในขณะเดียวกันก็สาปแช่งผู้ที่ครอบครองให้พบกับความโดดเดี่ยวและความทุกข์ทรมาน
ตำนานเล่าว่า ไข่มุกนี้เคยเป็นของราชินีผู้เลอโฉมในอดีต ซึ่งหลังจากได้ครอบครองไข่มุก เธอก็หมางเมินทุกคนรอบกาย ปิดตัวเองจากโลกภายนอก จนกระทั่งสิ้นพระชนม์อย่างเดียวดาย
เอลิเซียรู้สึกถึงแรงดึงดูดประหลาดจากไข่มุกเม็ดนั้นมาโดยตลอด แม้จะรู้ถึงคำสาป แต่ความปรารถนาที่จะเข้าใจมันกลับแรงกล้าขึ้นทุกวัน เธอเชื่อว่าต้องมีทางที่จะลบล้างคำสาป หรืออย่างน้อยก็ค้นพบความจริงเบื้องหลังมัน
เม็ดทรายในนาฬิกาทรายยังคงร่วงหล่น เอลิเซียก้มลงมองมันอีกครั้ง คล้ายกับว่ากาลเวลากำลังบีบคั้นให้เธอตัดสินใจบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาฉายแววแน่วแน่ "บางที...เวลาอาจไม่ใช่แค่การรอคอย แต่มันคือการตัดสินใจ" เธอกระซิบกับตัวเอง
ในที่สุด เอลิเซียก็ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตา เธอจะขึ้นไปบนหอคอย จะสัมผัสไข่มุกอาถรรพ์นั้นด้วยตัวเอง และจะค้นหาว่าโชคชะตาที่แท้จริงของเธอนั้นถูกกำหนดโดยอดีต หรือถูกสร้างขึ้นจากความกล้าหาญในปัจจุบันของเธอ