เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา คีธ บี. ริชเบิร์ก นักข่าวและคอลัมนิสต์ประจำ Washington Post ได้เขียนบทความหัวข้อชวนสะดุ้งว่า
“ทำไมนักท่องเที่ยวถึงหันหลังให้กับประเทศไทย?”

🔻 นักท่องเที่ยวลดลงชัดเจน
-  ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 16.6 ล้านคน ลดลงจาก 17.5 ล้านคนในปี 2024 (ลดไป 5%)
เดือนพฤษภาคมเดียวลดลงถึง 14%

🔻 จีนคือจุดเปลี่ยน
-  นักท่องเที่ยวจีนเคยเป็นกลุ่มหลักของไทย แต่ปีนี้หายไปถึง “หนึ่งในสาม”
เหตุผลสำคัญ: เศรษฐกิจจีนชะลอตัว, ค่าเงินบาทแข็ง และ…ปัญหาความปลอดภัยในไทย

🔻 ปัญหาเรื้อรังในสายตาชาวต่างชาติ
-  โดนโกง: แท็กซี่ไม่ใช้มิเตอร์, โก่งราคา, ขับวน
-  ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว "สองมาตรฐาน" (ต่างชาติจ่ายแพงกว่าหลายเท่า)
-  การเลือกปฏิบัติ: นักท่องเที่ยวผิวดำ, จากตะวันออกกลาง, เอเชียใต้ มักถูกเลือกปฏิบัติแบบอัตโนมัติ

🔻 ไทยทำร้ายตัวเอง?
-  ยกเลิกเสรีกัญชาเพื่อสันทนาการ ทั้งที่กำลังจะเป็น Soft Power และรายได้มหาศาล
-  นโยบายคาสิโนที่ไม่เป็นรูปธรรม + เจอกระแสต้านจากทั้งในและนอกประเทศ

🔻 เพื่อนบ้านกำลังแซงไทยไปทีละนิด
-  เวียดนาม-กัมพูชา-ญี่ปุ่น กลายเป็นคู่แข่งท่องเที่ยวที่เติบโตเร็ว
-  เวียดนามถูกมองว่า “ปลอดภัยกว่า”, ประสบการณ์ท่องเที่ยวแท้จริงกว่า

🔻 สิ่งที่ต้องปรับด่วน (ในมุมของผู้เขียนบทความ)
-  เลิกระบบสองราคา
-  ยุติการเหยียดเชื้อชาติ
-  เร่งฟื้นภาพลักษณ์เรื่อง “ความปลอดภัย”
-  สร้างระบบบริการที่โปร่งใส และเป็นมิตร “จริงๆ”

    บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาดิสเครดิตประเทศไทย แต่สะท้อนมุมมองของนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบตรงๆ ที่เราควรหยิบมาคิด ไม่ใช่แค่เพื่อเรียกนักท่องเที่ยวกลับมา แต่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ “สยามเมืองยิ้ม” ไว้ให้ยั่งยืน

ที่มา : matichon