เพื่อนเราเป็น extrovert ค่ะ ประมาณที่ว่ารู้จักคนเยอะมาก แต่เราเป็นคนที่แทบไม่รู้จักหรือสนิทกับใครค่ะ เรียนเสร็จก็จะกลับห้องตลอด
เรื่องก็คือ เพื่อนเราชวนไปเจอกลุ่มรุ่นพี่ ที่เพื่อนรู้จักคนนั้นมาปีนึง แต่พึ่งมาคุยจริงๆช่วงนี้ เขาชอบมาเล่าให้ฟังว่า รุ่นพี่ (ผู้หญิง) ที่ชวนไปเจอช่วงเย็น แต่ละสัปดาห์ จะคุยและถามเขาเกี่ยวกับการวางแผนอนาคต เรื่องธุรกิจที่รุ่นพี่ทำ อย่างไรบ้าง
แต่เราค่อนข้างไม่ค่อยถนัดหรือชอบเลี่ยงในการเจอคนที่ให้ความรู้สึกว่าใกล้ตัวแล้วอายุไล่เลี่ยกันค่ะ แต่กับคนที่ไม่รู้จัก คนแปลกหน้า หรือเวลาไปซื้อของใช้บริการข้างนอกไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะมีเรื่องฝังใจนิดหน่อย
แต่สำหรับเราเขาก็หวังดีแหละค่ะ เราถือว่าการที่เขาชวนก็ถือว่าเขาอยากให้เราเจอสิ่งดีๆใหม่ๆ
แต่จริงๆ ถ้าเป็นเรื่องอนาคตอะไรแบบนี้ เราพยามศึกษาตลอดอยู่แล้วค่ะ เราจะชอบอ่านหนังสือส่วนมากจะเป็นจิตวิทยาและธุรกิจ ฟังพอดแคสต์และฟังคลิปเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ค่ะ
พอใกล้ถึงวันที่เขาชวนจริงๆ เราก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงดีค่ะ เราก็พยายามอธิบายอยู่ว่า เราเป็นแระเภทศึกษาแล้วทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่า และค่อนข้างมีปัญหาถ้าต้องไปเจอคนที่รุ่นไล่เลี่ยกันตลอด พยามบอกเขาว่าถึงเป้าหมายจะเป็นเรื่องที่คล้ายกันยังไงแต่ไม่ได้แปลว่าวิธีมันจะต้องเหมือนกันค่ะ แต่เขาก็อยากให้เราออกจากเชฟโซนบ้าง
แต่ยกเว้นเรื่องนี้ เราก็ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาเยอะที่ถือว่าเราออกจากเชฟโซนตัวเองกว่าเดิมมากๆ แค่เรื่องนี้ที่เราเลือกที่จะเซฟตัวเองไว้ เพราะเรารู้สึกว่าการประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่มันยากมาก
ถ้ามันดูไร้สาระขอโทษนะคะ🙏🙇
เพราะคำว่าเพื่อนแล้วความหวังดี มันเลยปฏิเสธยากค่ะ
จะเลือกไปหรือไม่ไป
เรื่องก็คือ เพื่อนเราชวนไปเจอกลุ่มรุ่นพี่ ที่เพื่อนรู้จักคนนั้นมาปีนึง แต่พึ่งมาคุยจริงๆช่วงนี้ เขาชอบมาเล่าให้ฟังว่า รุ่นพี่ (ผู้หญิง) ที่ชวนไปเจอช่วงเย็น แต่ละสัปดาห์ จะคุยและถามเขาเกี่ยวกับการวางแผนอนาคต เรื่องธุรกิจที่รุ่นพี่ทำ อย่างไรบ้าง
แต่เราค่อนข้างไม่ค่อยถนัดหรือชอบเลี่ยงในการเจอคนที่ให้ความรู้สึกว่าใกล้ตัวแล้วอายุไล่เลี่ยกันค่ะ แต่กับคนที่ไม่รู้จัก คนแปลกหน้า หรือเวลาไปซื้อของใช้บริการข้างนอกไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะมีเรื่องฝังใจนิดหน่อย
แต่สำหรับเราเขาก็หวังดีแหละค่ะ เราถือว่าการที่เขาชวนก็ถือว่าเขาอยากให้เราเจอสิ่งดีๆใหม่ๆ
แต่จริงๆ ถ้าเป็นเรื่องอนาคตอะไรแบบนี้ เราพยามศึกษาตลอดอยู่แล้วค่ะ เราจะชอบอ่านหนังสือส่วนมากจะเป็นจิตวิทยาและธุรกิจ ฟังพอดแคสต์และฟังคลิปเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ค่ะ
พอใกล้ถึงวันที่เขาชวนจริงๆ เราก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงดีค่ะ เราก็พยายามอธิบายอยู่ว่า เราเป็นแระเภทศึกษาแล้วทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่า และค่อนข้างมีปัญหาถ้าต้องไปเจอคนที่รุ่นไล่เลี่ยกันตลอด พยามบอกเขาว่าถึงเป้าหมายจะเป็นเรื่องที่คล้ายกันยังไงแต่ไม่ได้แปลว่าวิธีมันจะต้องเหมือนกันค่ะ แต่เขาก็อยากให้เราออกจากเชฟโซนบ้าง
แต่ยกเว้นเรื่องนี้ เราก็ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาเยอะที่ถือว่าเราออกจากเชฟโซนตัวเองกว่าเดิมมากๆ แค่เรื่องนี้ที่เราเลือกที่จะเซฟตัวเองไว้ เพราะเรารู้สึกว่าการประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่มันยากมาก
ถ้ามันดูไร้สาระขอโทษนะคะ🙏🙇
เพราะคำว่าเพื่อนแล้วความหวังดี มันเลยปฏิเสธยากค่ะ