จำเป็นต้องเป๊ะแกรมมาร์ไหม? ถ้าอยากพูดให้ฝรั่งเข้าใจ?
“The man is waiting at the door.”
ประโยคนี้ถ้าพูดแค่ Man… Waiting… Door.
มันก็พอสื่อสารได้ครับ
“I left my wallet in the car.”
เหลือแค่ Left… Wallet… Car.
ฝรั่งก็ไม่ถึงกับงงนะ
“What is your plan for tonight?”
แต่งประโยคไม่ถูก นึกออกแค่ What… Plan… Tonight?
ใส่เสียงสูงตอนท้ายให้เป็นคำถามหน่อย มันก็ไม่เกินกว่าแรง ถ้าอีกฝ่ายจะพยายามเข้าใจ
บางคนไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษเลย เพรากลัว... แกรมมาร์ไม่ถูก
โอเคแกรมมาร์ไม่ถูกก็จริง แต่ในช่วงแรก ๆ ให้เราแยก “แกรมมาร์” (หรือหลักไวยากรณ์) ออกจาก “การสื่อสาร” ก่อน
การสื่อสารให้เข้าใจคือ “พูดให้เสียงดังฟังชัด” (ถ้าพูดผิดก็พูดใหม่ แต่ต้องพูดให้อีกฝ่ายได้ยินไว้ก่อน)
ปัญหาของหลายคนที่ผมเจอมา ไม่ใช่แกรมมาร์ไม่แม่น แต่พูดอยู่ในลำคอจนอีกฝ่ายไม่ได้ยิน
โอเคครับก่อนที่จะมีคน call the Grammar Police!
แกรมมาร์ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง (ผมก็เห็นด้วย) แต่ที่ผมพูดไม่ใช่ไม่มีหลักการ (โอเคเรามาเข้าเรื่องสำคัญครับ)
...............
ภาษาอังกฤษมีกลุ่มคำที่เรียกว่า “Content words” และ “Function words”
- Content words คือคำที่เป็นความหมายหลักของประโยค (Words that carry meaning and information.)
- Function words คือคำที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์ตามหลักไวยากรณ์ (Words that help structure the sentence.)
มันก็คือการแบ่ง parts of speech ให้เป็นสองกลุ่มตามการใช้งานในประโยคนี่แหละครับ โดย content words ก็คือ nouns (คำนาม), main verbs (กริยาหลัก), adjectives (คำคุณศัพท์), adverbs (กริยาวิเศษณ์)
ส่วน function words ก็คือ pronouns (คำสรรพนาม), auxiliary verbs (กริยาช่วย), prepositions (คำบุพบท หรือคำบอกตำแหน่ง), conjunctions (คำสันธาน หรือคำเชื่อม), determiners (คำนำหน้านาม)
ในทุก ๆ ประโยคมันประกอบด้วยคำทั้งสองกลุ่มนี้ เช่น…
“My friends are always there for me.” (เพื่อน ๆ ของผมคอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ)
(ผมจะ break down ให้ดูแค่ประโยคแรกนะ ก็คือ My = determiner / friends = noun / are = auxiliary verb / always = adverb / there = adverb / for = preposition / me = pronoun)
“I like to drink hot coffee in the morning.” (ผมชอบดื่มกาแฟร้อนตอนเช้า)
“John said you wanted to talk to me about the project?” (จอห์นบอกว่าคุณอยากคุยกับผมเรื่องโปรเจกต์เหรอ)
ที่ผมทำกับประโยคก่อนหน้านี้ (สามประโยคแรกที่กล่าวไว้ตอนต้น) ก็คือ ตัดประโยคแล้วเอามาแค่ “content words” เท่านั้น
ถ้าลองทำกับสามประโยคนี้ด้วยก็จะกลายเป็น…
- “Friends… Always… There” (เพื่อน อยู่ตรงนั้น เสมอ)
- “Like… Drink… Hot coffee… Morning” (ชอบ ดื่ม กาแฟร้อน ตอนเช้า)
- “John said… Wanted… Talk… Project?” (จอห์นบอก อยาก คุย โปรเจกต์เหรอ)
(คือเอามาแค่ noun / main verb / adjective / adverb เท่านั้นเลย)
มันก็เข้าใจได้ครับ ขนาดเราตัด function words ที่เป็นกลุ่มคำศัพท์ที่สำคัญต่อหลักไวยากรณ์ออกทั้งหมด คงจะพอตอบคำถามที่ผมเกริ่นไว้ในตอนแรกแล้ว (จำเป็นต้องเป๊ะแกรมมาร์ไหม? ถ้าอยากพูดให้ฝรั่งเข้าใจ?)
คำตอบคือไม่จำเป็น
แต่ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ด้วยนะ ไม่ใช่อ่านกระทู้นี้เสร็จกลับไปเอาหนังสือแกรมมาร์ทิ้งขยะหมดเลย 5555 แกรมมาร์ก็ยังต้องอ่านอยู่ตลอดครับ เราจะหยุดอยู่กับการพูดแค่ content words ก็ไม่ได้ มันไม่ได้เข้าใจได้ทุกสถานการณ์ (โดยเฉพาะเวลาที่ต้องคุยเรื่องสำคัญ)
ปัญหาจริง ๆ ไม่ใช่หลักแกรมมาร์หรอก แต่เราไม่รู้คำศัพท์ซะมากกว่า เกือบ 10 ปีก่อนผมเขียนกระทู้แนะนำวิธีการท่องศัพท์คนก็ชอบกันนะ แต่มาวันนี้ถ้าบอกให้ท่องศัพท์ปุ๊บ.... โอ้ววว มันเหมือนเป็นคำแสลง (ไม่ใช่ slang นะ) ที่หลายคนฟังแล้วขยาด
การท่องศัพท์มันคงเป็นวิธีที่โบราณไปแล้วล่ะมั้ง (แต่ลูกศิษย์ผมก็ยังโดนบังคับให้ท่องทุกคนครับ) วันนี้บ่นไปเรื่อยครับ (ช่วงนี้เหนื่อยจากกระทู้แปลนิดหน่อย 555) แต่เอาจริง ๆ คือไม่อยากให้ทิ้งการท่องศัพท์เลย เอาสักหน่อย ระยะยาวมันเห็นผลแน่นอน ใครจะว่าเป็นวิธีโบราณก็ช่างเขาครับ
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC.
จำเป็นต้องเป๊ะแกรมมาร์ไหม?
“The man is waiting at the door.”
ประโยคนี้ถ้าพูดแค่ Man… Waiting… Door.
มันก็พอสื่อสารได้ครับ
“I left my wallet in the car.”
เหลือแค่ Left… Wallet… Car.
ฝรั่งก็ไม่ถึงกับงงนะ
“What is your plan for tonight?”
แต่งประโยคไม่ถูก นึกออกแค่ What… Plan… Tonight?
ใส่เสียงสูงตอนท้ายให้เป็นคำถามหน่อย มันก็ไม่เกินกว่าแรง ถ้าอีกฝ่ายจะพยายามเข้าใจ
บางคนไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษเลย เพรากลัว... แกรมมาร์ไม่ถูก
โอเคแกรมมาร์ไม่ถูกก็จริง แต่ในช่วงแรก ๆ ให้เราแยก “แกรมมาร์” (หรือหลักไวยากรณ์) ออกจาก “การสื่อสาร” ก่อน
การสื่อสารให้เข้าใจคือ “พูดให้เสียงดังฟังชัด” (ถ้าพูดผิดก็พูดใหม่ แต่ต้องพูดให้อีกฝ่ายได้ยินไว้ก่อน)
ปัญหาของหลายคนที่ผมเจอมา ไม่ใช่แกรมมาร์ไม่แม่น แต่พูดอยู่ในลำคอจนอีกฝ่ายไม่ได้ยิน
โอเคครับก่อนที่จะมีคน call the Grammar Police!
แกรมมาร์ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง (ผมก็เห็นด้วย) แต่ที่ผมพูดไม่ใช่ไม่มีหลักการ (โอเคเรามาเข้าเรื่องสำคัญครับ)
...............
ภาษาอังกฤษมีกลุ่มคำที่เรียกว่า “Content words” และ “Function words”
- Content words คือคำที่เป็นความหมายหลักของประโยค (Words that carry meaning and information.)
- Function words คือคำที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์ตามหลักไวยากรณ์ (Words that help structure the sentence.)
มันก็คือการแบ่ง parts of speech ให้เป็นสองกลุ่มตามการใช้งานในประโยคนี่แหละครับ โดย content words ก็คือ nouns (คำนาม), main verbs (กริยาหลัก), adjectives (คำคุณศัพท์), adverbs (กริยาวิเศษณ์)
ส่วน function words ก็คือ pronouns (คำสรรพนาม), auxiliary verbs (กริยาช่วย), prepositions (คำบุพบท หรือคำบอกตำแหน่ง), conjunctions (คำสันธาน หรือคำเชื่อม), determiners (คำนำหน้านาม)
ในทุก ๆ ประโยคมันประกอบด้วยคำทั้งสองกลุ่มนี้ เช่น…
“My friends are always there for me.” (เพื่อน ๆ ของผมคอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ)
(ผมจะ break down ให้ดูแค่ประโยคแรกนะ ก็คือ My = determiner / friends = noun / are = auxiliary verb / always = adverb / there = adverb / for = preposition / me = pronoun)
“I like to drink hot coffee in the morning.” (ผมชอบดื่มกาแฟร้อนตอนเช้า)
“John said you wanted to talk to me about the project?” (จอห์นบอกว่าคุณอยากคุยกับผมเรื่องโปรเจกต์เหรอ)
ที่ผมทำกับประโยคก่อนหน้านี้ (สามประโยคแรกที่กล่าวไว้ตอนต้น) ก็คือ ตัดประโยคแล้วเอามาแค่ “content words” เท่านั้น
ถ้าลองทำกับสามประโยคนี้ด้วยก็จะกลายเป็น…
- “Friends… Always… There” (เพื่อน อยู่ตรงนั้น เสมอ)
- “Like… Drink… Hot coffee… Morning” (ชอบ ดื่ม กาแฟร้อน ตอนเช้า)
- “John said… Wanted… Talk… Project?” (จอห์นบอก อยาก คุย โปรเจกต์เหรอ)
(คือเอามาแค่ noun / main verb / adjective / adverb เท่านั้นเลย)
มันก็เข้าใจได้ครับ ขนาดเราตัด function words ที่เป็นกลุ่มคำศัพท์ที่สำคัญต่อหลักไวยากรณ์ออกทั้งหมด คงจะพอตอบคำถามที่ผมเกริ่นไว้ในตอนแรกแล้ว (จำเป็นต้องเป๊ะแกรมมาร์ไหม? ถ้าอยากพูดให้ฝรั่งเข้าใจ?)
คำตอบคือไม่จำเป็น
แต่ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ด้วยนะ ไม่ใช่อ่านกระทู้นี้เสร็จกลับไปเอาหนังสือแกรมมาร์ทิ้งขยะหมดเลย 5555 แกรมมาร์ก็ยังต้องอ่านอยู่ตลอดครับ เราจะหยุดอยู่กับการพูดแค่ content words ก็ไม่ได้ มันไม่ได้เข้าใจได้ทุกสถานการณ์ (โดยเฉพาะเวลาที่ต้องคุยเรื่องสำคัญ)
ปัญหาจริง ๆ ไม่ใช่หลักแกรมมาร์หรอก แต่เราไม่รู้คำศัพท์ซะมากกว่า เกือบ 10 ปีก่อนผมเขียนกระทู้แนะนำวิธีการท่องศัพท์คนก็ชอบกันนะ แต่มาวันนี้ถ้าบอกให้ท่องศัพท์ปุ๊บ.... โอ้ววว มันเหมือนเป็นคำแสลง (ไม่ใช่ slang นะ) ที่หลายคนฟังแล้วขยาด
การท่องศัพท์มันคงเป็นวิธีที่โบราณไปแล้วล่ะมั้ง (แต่ลูกศิษย์ผมก็ยังโดนบังคับให้ท่องทุกคนครับ) วันนี้บ่นไปเรื่อยครับ (ช่วงนี้เหนื่อยจากกระทู้แปลนิดหน่อย 555) แต่เอาจริง ๆ คือไม่อยากให้ทิ้งการท่องศัพท์เลย เอาสักหน่อย ระยะยาวมันเห็นผลแน่นอน ใครจะว่าเป็นวิธีโบราณก็ช่างเขาครับ
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC.