พระ​พุทธ​ทาส​ตอบ​ เรียน​จบพระ​ไตรปิฏก​ ทำไม่​ ยัง​แพ้​กิเลส

เรียนจบพระไตรปิฎก..รู้ปริยัติมากมาย แล้วทำไมมันยังพ่ายแพ้แก่กิเลส

( มีผู้ถาม ท่านพุทธทาสภิกขุตอบ )

.....“ที่จริงเรียนพระไตรปิฎก ก็คือเรียนตัวหนังสือในพระไตรปิฎก

ถ้าเรียนพุทธศาสนาต้องเรียนที่ กาย ใจ รูป นาม ความทุกข์ที่มันเกิดอยู่ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

เมื่อไม่เรียนที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปเรียนกันแต่ตัวหนังสือในพระไตรปิฎก นั่นแหละ!

จะไม่รู้พุทธศาสนา มันจะรู้แต่พระไตรปิฎก
.....รู้พระไตรปิฎก จบพระไตรปิฎกดับทุกข์ไม่ได้ก็มีอยู่ (ไม่นำไปปฏิบัติ)

พระพุทธเจ้าตรัสเรียกคนพวกนี้ว่า “อ้ายกำมือเปล่าๆ ไอ้คำภีร์เปล่า” ก็มีอยู่ พระพุทธเจ้าท่านเรียกคนที่จบพระไตรปิฎกว่าอย่างนี้ เพราะเขาดับทุกข์ไม่ได้

เพราะเขารู้แต่พระไตรปิฎก เพราะไม่เรียนเข้าไปในตัวทุกข์

ถ้าอยากจะรู้พระพุทธศาสนาต้องเรียนเข้าไปที่ตัวความทุกข์ คือเบญจขันธ์ที่ประกอบอยู่ด้วยอุปาทาน หรืออาการปรุงแต่งแห่งความทุกข์

คือกระแสปฏิจจสมุปบาทที่กำลังมีอยู่ในชีวิตโดยตรง

.....ถ้าจะรู้พุทธศาสนาให้เรียนเข้าไปที่ตัวความทุกข์ในภายในนั้นน่ะ

อย่ามัวเรียนพระไตรปิฎกแต่ภายนอก (โดยไม่นำไปปฏิบัติ)

มันจะรู้แต่พระไตรปิฎก แล้วก็ไปรับจ้างเป็นครูสอนพระไตรปิฎก มีเงินเดือนกิน

มันก็เท่านั้นแหละ มันดับทุกข์ไม่ได้...

.....เราต้องเรียนธรรมะตัวจริง จากรูป จากนาม จากกาย จากใจ จากเบญจขันธ์ จึงจะรู้จริงด้วยจิตใจ

แล้วมันก็จะมาตรงกับพระไตรปิฎกเองแหละ

แต่ถ้าไปเรียนจากพระไตรปิฎกมันไม่มีความรู้สึกอันนี้

#มันก็ไม่มีความรู้สึกแจ่มแจ้งเป็นวิปัสสนา_

มันรู้แต่ตัวหนังสือ #จะต้องเอาพระไตรปิฎกนั้นมาปฏิบัติอีกทีหนึ่ง นั่นแหละ คือเรียนจากตัวจริง เรียนจากความทุกข์ ...”

.....นั่นแหละ! คือข้อที่ว่า รู้ปริยัติมากมาย แล้วทำไมมันยังพ่ายแพ้แก่กิเลส ออกไปหาความทุกข์ แล้วพระไตรปิฎกก็ช่วยไม่ได้ ต้องสึกออกไปหาความทุกข์...”
.


พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : หนังสือ “ธรรมะน้ำ ล้างธรรมะโคลน”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่