กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา อาจจะออกแนวระบายยาวค่ะ เก็บไว้นานเกินไปแล้วค่ะ
ตั้งแต่เด็กแล้วที่ครอบครัวเลี้ยงเรายิ่งกว่าใข่ในหิน ไม่เคยให้ขึ้นรถสาธารณะเอง แทกซี่ยิ่งแล้วใหญ่ ไปไหนต้องมีสมาชิกครอบครัวไปรับไปส่งด้วย ทั้งชีวิตอยู่ในโซนรถติดมาตลอด ไปไหนมาไหนก็ลำบากอยู่แล้ว เหมือน1/4ของชีวิตเราเติบโตบนรถ เราไม่เคยมีการคมนาคมที่สะดวกเลย ครั้งแรกที่ได้ขึ้นรถเมล์ก็ปาเข้าไปแล้วค่ะ18(ขึ้นกับแม่) เราเห็นเด็กประถม, มัธยม, วัยรุ่นอายุน้อยกว่าเรานั่งคนเดียวได้ เรารู้สึกละอายใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะ
ตอนประถมและมัธยม เราจะเป็นเพื่อนคนนั้นที่กลับบ้านคนแรกเสมอ ไม่เคยเที่ยวกับเพื่อน ไม่เคยค้างบ้านคนอื่น ครอบครัวสั่งสอนเราให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเอาไว้แต่ก็บอกให้เราระแวงคนอื่นไว้ก่อน สังคมของเราแทบจะมีแต่การเรียน, เรียน, และเรียนในห้องเรียนเท่านั้นค่ะ จันทร์-ศุกร์ โรงเรียนเข้าตอน7.40 ต้องออกจากบ้านก่อน6โมงไม่งั้นสายแน่นอน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบทุ่ม เสาร์อาทิตย์มีแต่เรียนพิเศษกับช่วยงานที่บ้าน เราไม่สามารถเผื่อเวลาอยู่กับเพื่อนได้เลย
ถึงบ้านก็ทำการบ้าน เราบอกตอนนี้ได้เลยว่าคนที่บ้านเราไม่เคยให้เกียรติเราเลย บ้านเราคนอยู่เยอะ ดูทีวีเสียงดัง ญาติที่เป็นเด็กก็เสียงดังตลอด ตอนนี้ก็ยังมีนิสัยนี้อยู่ จะให้ทำงานการบ้านไม่มีสมาธิเลยค่ะ จะไปทำที่อื่นคาเฟ่ไรงี้ก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจแล้วว่าไม่ให้ไป
เราไม่เคยชวนใครเที่ยว ต่อให้มีคนชวนไปเราก็ไปไม่ได้ค่ะ เพราะเรารู้คำตอบที่ครอบครัวจะให้อยู่แล้วเมื่อเราบอกว่าจะไปไหน เรา'เที่ยว'ได้แค่กับครอบครัว ชอบชวนเที่ยวตอนใกล้สอบ 'ครอบครัว'ก็จะก็บอกว่า 'หยุดไม่กี่วันเอง เอาหนังสือไปติวที่โน่นก็ได้' แล้วก็มาใช้ข้ออ้างว่า 'เดี๋ยวเราหมกมุ่นอยู่แต่ในบ้าน' -> แล้วคิดว่าเป็นเพราะใคร? ทุกทริปที่เที่ยวเหมือนเราไม่ได้เที่ยวเลย ทุกครั้งเราต้องดูแลผู้ใหญ่ ช่วยยกช่วยถือช่วยพยุง เหมือนเราไปเป็นเบ้ฟรี ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า 'ไว้อ่านตอนอยู่บนรถก็ได้' สุดท้ายเราเมารถไม่ได้ติว เราแทบจะไม่มีประสบการณ์ดีๆระลึกวัยเด็กเลย
ตอนเราเข้าม. บทสนทนาแรกๆหลังเลิกเรียนกับเพื่อนใหม่ก็จะเชิงประมาณว่า 'กลับบ้านแล้วหรอ' 'บ้านอยู่แถวไหน' 'กว่ามาถึงม. ใช้เวลานานมั้ย' ตอบตามความเป็นจริงว่าชั่วโมงครึ่งค่ะ เชื่อมั้ยคะทุกคนตอบเสียงเดียวกันกลับมาว่า 'ถ้านานขนาดนั้น ทำไมไม่อยู่หอ' หลังจากนั้นเราก็รู้เพื่อนทุกคนที่ม. อยู่หอกันหมดเลยค่ะ ทั้งหอในและนอก เราก็บอกไปว่าครอบครัวไม่ให้อยู่ เราก็มาคิดต่อดีๆ อยู่หอจ่ายค่าเช่าจริงแต่ประยัดเวลา มียามตลอด ไม่ใช่ที่เปลี่ยว ของกินไม่ใช่ปัญหา หอในที่เพื่อนอยู่เป็นระบบเข้าออกคีย์การ์ด หอแบบนี้พวกเขาจะให้เราอยู่มั้ยนะ? แต่ลืมไปว่าแค่จะไปเซเว่นหน้าซอยบ้าน300เมตรตอนกลางวัน ต้องมีคนไปด้วย
ตัดมาปัจจุบัน เรากำลังจะจบม.แล้วค่ะ แต่เรื่องงานกับการเดินทางและครอบครัวเป็นปัจจัยที่บั่นทอนจิตใจเรามากค่ะ เราได้ฝึกงานบริษัทในเมืองซึ่งระยะทางไม่ใกล้ไม่ไกล แต่เป็นระยะทางที่ต้องผ่านรถติดหนักทุกวัน เราอยากอยู่หอไม่ก็คอนโดค่ะ เราไม่อยากพึ่งครอบครัวเหมือนเราดูแลตัวเองไม่ได้ เราไม่อยากทนเผื่อเวลาเดินทางเป็นชั่วโมงๆ ทำไมคนอื่นอยู่คนเดียวได้ ทำไมเขาสามารถอาศัยในหอ อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโดได้ ถ้าไม่ปลอดภัยจริงทำไมคนอื่นเขาถึงอยู่ต่อไปได้
เราเข้าใจค่ะ พวกเขาทำอย่างนี้เพื่อความปลอดภัยของเรา แต่พวกเขาไม่รู้จักสมดุลการดูแลค่ะ กลายเป็นว่าเราเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้โตจริงๆ เราพลาดอะไรหลายอย่างในชีวิตมาก เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากเติบโตเอง เราไม่เที่ยวไม่ช๊อปไม่ฟุ่มเฟือย ทำฟรีแลนซ์เปิดคอมมิชชั่นเอง เรามีเงินที่จะเช่าอยู่ 2-3ปี ด้วยเงินเก็บตัวเองตอนนี้ค่ะ เรารู้ว่าถ้าเราบอกไปพวกเขาไม่ให้แน่ๆ แต่ถ้าเราไม่ไป เราก็ไม่โตเช่นกัน
เราเลยคิดว่าค่อยๆแอบย้ายของของเรา แล้วหนีออกจากบ้านไปอยู่คอนโดเลยดีมั้ย ตอนนี้เราไม่ต้องการกำลังใจ ใจเราเหนื่อยจริงแต่เราต้องการทางไปต่อค่ะ
ถึงทุกท่านที่ได้อ่านถึงจุดนี้ เราขอบอกไว้ว่าดูเหมือนเกินจริงแต่เราการันตีว่าทั้หมดที่เราเขียนมาทั้งหมดเป็นความจริงที่เราคิดมาตลอดทุกวันจนถึงวันนี้ ขอบคุณค่ะที่ฟังเสียงของเรา คุณคือผู้อ่านที่ดี โปรดรักษาทักษะนั้นไว้
21 แล้วแต่ครอบครัวทำเราเหมือนคนพึ่งตัวเองไม่ได้
ตั้งแต่เด็กแล้วที่ครอบครัวเลี้ยงเรายิ่งกว่าใข่ในหิน ไม่เคยให้ขึ้นรถสาธารณะเอง แทกซี่ยิ่งแล้วใหญ่ ไปไหนต้องมีสมาชิกครอบครัวไปรับไปส่งด้วย ทั้งชีวิตอยู่ในโซนรถติดมาตลอด ไปไหนมาไหนก็ลำบากอยู่แล้ว เหมือน1/4ของชีวิตเราเติบโตบนรถ เราไม่เคยมีการคมนาคมที่สะดวกเลย ครั้งแรกที่ได้ขึ้นรถเมล์ก็ปาเข้าไปแล้วค่ะ18(ขึ้นกับแม่) เราเห็นเด็กประถม, มัธยม, วัยรุ่นอายุน้อยกว่าเรานั่งคนเดียวได้ เรารู้สึกละอายใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะ
ตอนประถมและมัธยม เราจะเป็นเพื่อนคนนั้นที่กลับบ้านคนแรกเสมอ ไม่เคยเที่ยวกับเพื่อน ไม่เคยค้างบ้านคนอื่น ครอบครัวสั่งสอนเราให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเอาไว้แต่ก็บอกให้เราระแวงคนอื่นไว้ก่อน สังคมของเราแทบจะมีแต่การเรียน, เรียน, และเรียนในห้องเรียนเท่านั้นค่ะ จันทร์-ศุกร์ โรงเรียนเข้าตอน7.40 ต้องออกจากบ้านก่อน6โมงไม่งั้นสายแน่นอน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบทุ่ม เสาร์อาทิตย์มีแต่เรียนพิเศษกับช่วยงานที่บ้าน เราไม่สามารถเผื่อเวลาอยู่กับเพื่อนได้เลย
ถึงบ้านก็ทำการบ้าน เราบอกตอนนี้ได้เลยว่าคนที่บ้านเราไม่เคยให้เกียรติเราเลย บ้านเราคนอยู่เยอะ ดูทีวีเสียงดัง ญาติที่เป็นเด็กก็เสียงดังตลอด ตอนนี้ก็ยังมีนิสัยนี้อยู่ จะให้ทำงานการบ้านไม่มีสมาธิเลยค่ะ จะไปทำที่อื่นคาเฟ่ไรงี้ก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจแล้วว่าไม่ให้ไป
เราไม่เคยชวนใครเที่ยว ต่อให้มีคนชวนไปเราก็ไปไม่ได้ค่ะ เพราะเรารู้คำตอบที่ครอบครัวจะให้อยู่แล้วเมื่อเราบอกว่าจะไปไหน เรา'เที่ยว'ได้แค่กับครอบครัว ชอบชวนเที่ยวตอนใกล้สอบ 'ครอบครัว'ก็จะก็บอกว่า 'หยุดไม่กี่วันเอง เอาหนังสือไปติวที่โน่นก็ได้' แล้วก็มาใช้ข้ออ้างว่า 'เดี๋ยวเราหมกมุ่นอยู่แต่ในบ้าน' -> แล้วคิดว่าเป็นเพราะใคร? ทุกทริปที่เที่ยวเหมือนเราไม่ได้เที่ยวเลย ทุกครั้งเราต้องดูแลผู้ใหญ่ ช่วยยกช่วยถือช่วยพยุง เหมือนเราไปเป็นเบ้ฟรี ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า 'ไว้อ่านตอนอยู่บนรถก็ได้' สุดท้ายเราเมารถไม่ได้ติว เราแทบจะไม่มีประสบการณ์ดีๆระลึกวัยเด็กเลย
ตอนเราเข้าม. บทสนทนาแรกๆหลังเลิกเรียนกับเพื่อนใหม่ก็จะเชิงประมาณว่า 'กลับบ้านแล้วหรอ' 'บ้านอยู่แถวไหน' 'กว่ามาถึงม. ใช้เวลานานมั้ย' ตอบตามความเป็นจริงว่าชั่วโมงครึ่งค่ะ เชื่อมั้ยคะทุกคนตอบเสียงเดียวกันกลับมาว่า 'ถ้านานขนาดนั้น ทำไมไม่อยู่หอ' หลังจากนั้นเราก็รู้เพื่อนทุกคนที่ม. อยู่หอกันหมดเลยค่ะ ทั้งหอในและนอก เราก็บอกไปว่าครอบครัวไม่ให้อยู่ เราก็มาคิดต่อดีๆ อยู่หอจ่ายค่าเช่าจริงแต่ประยัดเวลา มียามตลอด ไม่ใช่ที่เปลี่ยว ของกินไม่ใช่ปัญหา หอในที่เพื่อนอยู่เป็นระบบเข้าออกคีย์การ์ด หอแบบนี้พวกเขาจะให้เราอยู่มั้ยนะ? แต่ลืมไปว่าแค่จะไปเซเว่นหน้าซอยบ้าน300เมตรตอนกลางวัน ต้องมีคนไปด้วย
ตัดมาปัจจุบัน เรากำลังจะจบม.แล้วค่ะ แต่เรื่องงานกับการเดินทางและครอบครัวเป็นปัจจัยที่บั่นทอนจิตใจเรามากค่ะ เราได้ฝึกงานบริษัทในเมืองซึ่งระยะทางไม่ใกล้ไม่ไกล แต่เป็นระยะทางที่ต้องผ่านรถติดหนักทุกวัน เราอยากอยู่หอไม่ก็คอนโดค่ะ เราไม่อยากพึ่งครอบครัวเหมือนเราดูแลตัวเองไม่ได้ เราไม่อยากทนเผื่อเวลาเดินทางเป็นชั่วโมงๆ ทำไมคนอื่นอยู่คนเดียวได้ ทำไมเขาสามารถอาศัยในหอ อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโดได้ ถ้าไม่ปลอดภัยจริงทำไมคนอื่นเขาถึงอยู่ต่อไปได้
เราเข้าใจค่ะ พวกเขาทำอย่างนี้เพื่อความปลอดภัยของเรา แต่พวกเขาไม่รู้จักสมดุลการดูแลค่ะ กลายเป็นว่าเราเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้โตจริงๆ เราพลาดอะไรหลายอย่างในชีวิตมาก เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากเติบโตเอง เราไม่เที่ยวไม่ช๊อปไม่ฟุ่มเฟือย ทำฟรีแลนซ์เปิดคอมมิชชั่นเอง เรามีเงินที่จะเช่าอยู่ 2-3ปี ด้วยเงินเก็บตัวเองตอนนี้ค่ะ เรารู้ว่าถ้าเราบอกไปพวกเขาไม่ให้แน่ๆ แต่ถ้าเราไม่ไป เราก็ไม่โตเช่นกัน
เราเลยคิดว่าค่อยๆแอบย้ายของของเรา แล้วหนีออกจากบ้านไปอยู่คอนโดเลยดีมั้ย ตอนนี้เราไม่ต้องการกำลังใจ ใจเราเหนื่อยจริงแต่เราต้องการทางไปต่อค่ะ
ถึงทุกท่านที่ได้อ่านถึงจุดนี้ เราขอบอกไว้ว่าดูเหมือนเกินจริงแต่เราการันตีว่าทั้หมดที่เราเขียนมาทั้งหมดเป็นความจริงที่เราคิดมาตลอดทุกวันจนถึงวันนี้ ขอบคุณค่ะที่ฟังเสียงของเรา คุณคือผู้อ่านที่ดี โปรดรักษาทักษะนั้นไว้