ล่าสุดผู้นำเท้ง พูดในรายการถกไม่เถียง
ออกอากาศวันที่ 2 มิถุนายน 2568
“เท้ง” สยายปีก ! เปิดไพ่ลับ ผ่าทางตัน ใครนั่งบัลลังก์ “นายกฯ” แทน “อิ๊งค์” ? #ถกไม่เถียง
แสดงมุมมองว่า จริยธรรม นักการเมือง ต้องให้ประชาชนตัดสิน
ไม่เห็นด้วยกับการยื่นเรื่องจริยธรรมนักการเมืองเข้าสู่ศาล
มองเป็นเรื่องนำอำนาจศาลมามีอิทธิพลเหนือการเมือง
แนวการพูดทั้งหมด ทำให้เห็นตรรกะเบื้องหลัง
การกระทำแปลกๆ ของพรรคประชาชน
ในที่นี้ ผู้เขียนขออธิบาย...
จริยธรรม เป็นเรื่องซับซ้อน คนที่ตัดสินควรมีความรู้และข้อมูลเพียงพอ
ภาษีประชาชนคือเงินเดือนผู้พิพากษา ท่านใช้อำนาจตุลาการ
กม ใด ที่มีบทลงโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ ก็ไปแก้ กม
ผู้พิพากษา ตัดสินตาม กม และหลักฐานที่ปรากฏ
ตัวอย่างจริยธรรมของนักการเมือง ทุกเคส มีความซับซ้อนสูง ที่มาที่ไป
ผลกระทบมากน้อย ผู้ที่ตัดสินได้ต้องมีความรู้ด้านการบริหารราชการแผ่นดินด้วย
ขณะเดียวกัน รัฐสภาขับเคลื่อนไม่ได้ทุกเรื่อง เสียงฝ่ายค้าน น้อยกว่าเสียงรัฐบาลในสภา
ฝ่ายค้านจึงไม่อยู่ในฐานะคุมผลการโหวตในสภาได้ ดังนั้น การพยายามขอให้ยุบสภา
ขอให้ลาออก ขอให้ยุตินโยบาย ผ่านอำนาจรัฐสภา ทำไม่ได้ เพราะพรรครัฐบาลคือเสียงข้างมาก
จึงมีกลไกศาลขึ้นมาคานอำนาจ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ (check & balance system)
จับตา พรรคส้มอาจเสื่อมความนิยม
เพราะไม่รอบรู้ เรื่อง โครงสร้างอำนาจทั้งระบบ
อำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ
บทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์
บริบทวัฒนธรรม
ทหารมีไว้ทำไม
กลไกผู้ชุมนุม แสดงออกทางการเมือง
ซึ่ง ไม่ใช่เพียงรอบรู้
แต่สามารถใช้องคาพยพต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด
บนความเข้าใจขอบเขตสิทธิอำนาจ และสถานการณ์
จังหวะใด ควรจะพูดการเลือกตั้ง
จังหวะใด ควรจะพูดเรื่องรัฐประหาร
อยากเป็นจอมยุทธิ์ ต้องรู้เพลงกระบี่
พรรคควรหาที่ปรึกษาทาง กม ที่เชี่ยวชาญ มีภูมิรู้ แต่ไม่เจ้าเล่ห์จนเสียหาย
เป็นนักการเมือง วนอยู่แต่เรื่องเลือกตั้ง คงไม่พอ
ประเทศไทยต้องการพรรคที่ทำประโยชน์ได้ ไม่สุดโต่ง
สังคมไม่อาจแบกรับความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วได้
แนะนำ พิธา ย้ายไปพรรคอื่น
เมื่อพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย...ไม่ใช่ตัวเลือก รีเซ็ตการเมืองด้วยพรรคที่ 3
ไม่สงสัย เหตุใดพรรคส้มแพ้นิติสงคราม
ออกอากาศวันที่ 2 มิถุนายน 2568
“เท้ง” สยายปีก ! เปิดไพ่ลับ ผ่าทางตัน ใครนั่งบัลลังก์ “นายกฯ” แทน “อิ๊งค์” ? #ถกไม่เถียง
แสดงมุมมองว่า จริยธรรม นักการเมือง ต้องให้ประชาชนตัดสิน
ไม่เห็นด้วยกับการยื่นเรื่องจริยธรรมนักการเมืองเข้าสู่ศาล
มองเป็นเรื่องนำอำนาจศาลมามีอิทธิพลเหนือการเมือง
แนวการพูดทั้งหมด ทำให้เห็นตรรกะเบื้องหลัง
การกระทำแปลกๆ ของพรรคประชาชน
ในที่นี้ ผู้เขียนขออธิบาย...
จริยธรรม เป็นเรื่องซับซ้อน คนที่ตัดสินควรมีความรู้และข้อมูลเพียงพอ
ภาษีประชาชนคือเงินเดือนผู้พิพากษา ท่านใช้อำนาจตุลาการ
กม ใด ที่มีบทลงโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ ก็ไปแก้ กม
ผู้พิพากษา ตัดสินตาม กม และหลักฐานที่ปรากฏ
ตัวอย่างจริยธรรมของนักการเมือง ทุกเคส มีความซับซ้อนสูง ที่มาที่ไป
ผลกระทบมากน้อย ผู้ที่ตัดสินได้ต้องมีความรู้ด้านการบริหารราชการแผ่นดินด้วย
ขณะเดียวกัน รัฐสภาขับเคลื่อนไม่ได้ทุกเรื่อง เสียงฝ่ายค้าน น้อยกว่าเสียงรัฐบาลในสภา
ฝ่ายค้านจึงไม่อยู่ในฐานะคุมผลการโหวตในสภาได้ ดังนั้น การพยายามขอให้ยุบสภา
ขอให้ลาออก ขอให้ยุตินโยบาย ผ่านอำนาจรัฐสภา ทำไม่ได้ เพราะพรรครัฐบาลคือเสียงข้างมาก
จึงมีกลไกศาลขึ้นมาคานอำนาจ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ (check & balance system)
จับตา พรรคส้มอาจเสื่อมความนิยม
เพราะไม่รอบรู้ เรื่อง โครงสร้างอำนาจทั้งระบบ
อำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ
บทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์
บริบทวัฒนธรรม
ทหารมีไว้ทำไม
กลไกผู้ชุมนุม แสดงออกทางการเมือง
ซึ่ง ไม่ใช่เพียงรอบรู้
แต่สามารถใช้องคาพยพต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด
บนความเข้าใจขอบเขตสิทธิอำนาจ และสถานการณ์
จังหวะใด ควรจะพูดการเลือกตั้ง
จังหวะใด ควรจะพูดเรื่องรัฐประหาร
อยากเป็นจอมยุทธิ์ ต้องรู้เพลงกระบี่
พรรคควรหาที่ปรึกษาทาง กม ที่เชี่ยวชาญ มีภูมิรู้ แต่ไม่เจ้าเล่ห์จนเสียหาย
เป็นนักการเมือง วนอยู่แต่เรื่องเลือกตั้ง คงไม่พอ
ประเทศไทยต้องการพรรคที่ทำประโยชน์ได้ ไม่สุดโต่ง
สังคมไม่อาจแบกรับความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วได้
แนะนำ พิธา ย้ายไปพรรคอื่น
เมื่อพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย...ไม่ใช่ตัวเลือก รีเซ็ตการเมืองด้วยพรรคที่ 3