เท้ง เสนอ 6 ข้อรบ.เร่งดำเนินการ ช่วยน้ำท่วมใต้ เร่งรายงานแนวโน้มมวลน้ำ อาหาร ยา ต้องเข้าถึง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5473017
.

.
เท้ง เสนอรัฐบาล บริหารวอร์รูมน้ำท่วมภาคใต้ที่บูรณาการทุกหน่วยงานได้จริง – เร่งประชาสัมพันธ์ศูนย์อพยพ-เร่งระดมอุปกรณ์จำเป็นลงพื้นที่ – จัดส่งอาหารอย่างทั่วถึง พร้อมจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า รายงานข้อมูลสถานการณ์น้ำย่างต่อเนื่อง
.
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่าตนติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด ทราบว่ามีฝนตกหนักมากอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 20-24 พ.ย. ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในวงกว้าง ทั้งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่นครศรีธรรมราชจนถึงนราธิวาส และภาคใต้ฝั่งตะวันตกในจังหวัดตรังและสตูล และขณะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25-26 พ.ย. ทำให้ระดับน้ำในหลายพื้นที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น มีความจำเป็นต้องอพยพพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
.
ถึงอย่างนั้น พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่น เช่น เทศบาลนครหาดใหญ่ ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมสูงเป็นจำนวนมาก หลายพื้นที่ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ไฟส่องสว่าง และยังมีความสับสนเกี่ยวกับข้อมูลติดต่ออพยพ ศูนย์อพยพ เส้นทางการอพยพ การขอความช่วยเหลือในการอพยพ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอพยพ
.
สส. และทีมงานพรรคประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมทางภาคใต้ขณะนี้ ได้จัดตั้งโรงครัวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงเร่งประสานงานเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการอพยพ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการช่วยเหลือทำได้อย่างจำกัด เพราะปริมาณผู้ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมีจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การเข้าถึงจุดที่ต้องการความช่วยเหลือทำได้อย่างยากลำบาก
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนทราบว่าล่าสุดรัฐบาลได้ตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำแล้ว แต่เพื่อให้การแก้ไขปัญหาและการช่วยเหลือประชนชนสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันสถานการณ์มากยิ่งขึ้น ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
.
1. เร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ จุดอพยพและเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยสำหรับแต่ละพื้นที่ ให้ประชาชนทราบโดยด่วน เพื่อให้สามารถอพยพได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย
.
2. สำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมในระดับสูง และมีประชาชนต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก ให้รัฐบาลและจังหวัดจัดทำระบบการแจ้งขอรับและติดตามความช่วยเหลือให้เป็นระบบเดียวกัน เพื่อป้องกันการตกหล่น และความซ้ำซ้อนในการช่วยเหลือของแต่ละหน่วยงาน
.
3. ออกแบบมาตรการในการช่วยเหลือเด็กเล็ก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ที่ติดอยู่ในบ้านและอาจต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษในการอพยพ
.
4. ควรเร่งระดมอุปกรณ์ พาหนะที่จำเป็นในการอพยพประชาชนจากพื้นที่อื่น ๆ เข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือในพื้นที่ที่ประสบภัยโดยด่วนที่สุด
.
5. จัดส่งอาหารสด อาหารแห้ง อาหารพร้อมรับประทาน น้ำดื่ม และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า ยารักษาโรค ผ้าอนามัย เข้ามาเพิ่มเติมในพื้นที่ประสบภัย และจัดเตรียมระบบการกระจายอาหารและของจำเป็นต่างๆ ไปยังจุดอพยพ จุดประสานความช่วยเหลือ โรงครัวต่างๆ ในพื้นที่อย่างทั่วถึง
.
6. จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ทำหน้าที่รายงานข้อมูลและแนวโน้มสถานการณ์น้ำในแต่ละลำน้ำอย่างต่อเนื่อง ให้หน่วยงานท้องถิ่นและประชาชนรับทราบสถานการณ์จริงและแนวโน้มที่แม่นยำ เพื่อให้สามารถวางแผนรับมือสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
.
“ผมขอส่งความห่วงใยถึงผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่หน้างานทุกคนที่กำลังเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขอให้ดำเนินการอพยพออกจากจุดเสี่ยงภัยได้โดยเร็วที่สุด ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน” นายณัฐพงษ์กล่าว
.
.
3 แคนดิเดตนายก พรรคปชน. พบนักธุรกิจญี่ปุ่น โชว์วิสัยทัศน์ สร้างเศรษฐกิจมั่นคง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5472991
.
แคนดิเดตนายก พรรคปชน. พบสมาคมนักธุรกิจญี่ปุ่น เสนอวิสัยทัศน์รัฐบาลประชาชน สร้างเศรษฐกิจมั่นคง-งานคุณภาพให้คนไทย หวังญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนเทคโนโลยีอนาคต
.
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชนและนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคประชาชน เข้าหารือกับ Keidanren หรือ สหพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Japan Business Federation) ซึ่งเป็นองค์กรเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของภาคเอกชนญี่ปุ่น ประกอบด้วยบริษัทเอกชนชั้นนำกว่า 1,500 บริษัท สมาคมเฉพาะอุตสาหกรรม และสมาคมเศรษฐกิจระดับภูมิภาคของญี่ปุ่น โดยเคย์ดันเร็นเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเสนอแนะแนวนโยบายเศรษฐกิจและการค้าต่อรัฐบาลญี่ปุ่น
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าพรรคประชาชนตระหนักดีว่าญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในด้านการค้าการลงทุน สร้างงานและรายได้ที่มั่นคงให้กับคนไทย ในโอกาสที่ประเทศไทนกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พรรคประชาชนในฐานะพรรคอันดับหนึ่งของประเทศ มีความตั้งใจจะจัดตั้งรัฐบาล เข้าสู่การบริหารประเทศให้ได้ในต้นปีหน้า โดยหนึ่งในนโยบายหลักที่พรรคจะทำ คือการนำประเทศไทยไปอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของ Global Supply Chain ซึ่งพรรคประชาชนเชื่อว่าญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่เราจะร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ผลิตสินค้ามูลค่าสูง และสร้างงานที่มีคุณภาพให้กับคนไทย
.
นอกจากนี้พรรคยังมีนโยบายในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ โดยมุ่งเน้นการบริหารที่โปร่งใส ปลดล็อกกฎระเบียบที่ล้าสมัย หรือสร้างความยุ่งยากต่อการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ พรรคประชาชนตั้งเป้าว่าจะแสวงหาอุตสาหกรรมใหม่ๆ และเพิ่มนักลงทุนต่างชาติ ให้เข้ามาประกอบกิจการและแบ่งปันนวัตกรรมกับไทย
.
ด้านนายซูซูกิ จุน ผู้แทนสมาคมเคย์ดันเร็น ยืนยันว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นต้องการมากที่สุดตอนนี้ คือการรักษาซัพพลายเชนของญี่ปุ่นในไทยที่มีมาอย่างยาวนาน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในระบบอุตสาหกรรมโลก และสำหรับนักธุรกิจญี่ปุ่น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจลงทุน คือการมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ได้แก่ความเปิดกว้างและโปร่งใส จึงต้องการคำมั่นสัญญาว่ารัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
นายซูซูกิ ยังกล่าวว่าญี่ปุ่นและไทยควรเพิ่มความร่วมมือทวิภาคีในอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสีเขียว และอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยซูซูกิระบุว่า สิ่งที่ญี่ปุ่นมั่นใจว่าเป็นผู้มีนวัตกรรมดีที่สุดในโลก และสามารถมาลงทุนในไทยได้แน่นอน คือ BESS (Battery Energy Storage System) หรือ ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้แบตเตอรี่ในการเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในเวลาที่ต้องการ ระบบนี้ทำงานโดยการเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ในแบตเตอรี่ในช่วงที่มีการผลิตไฟฟ้าสูงหรือความต้องการใช้น้อย แล้วนำมาจ่ายออกในช่วงที่ความต้องการไฟฟ้าสูงขึ้นหรือเมื่อแหล่งพลังงานไม่เพียงพอ
นายซซูกิยังย้ำว่าไทยควรใช้กรอบความร่วมมือที่มีอยู่แล้วกับญี่ปุ่น เช่น EPA (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ) และ RCEP (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ให้เกิดประโยชน์กว้างขวางมากขึ้น
.
นายณัฐพงษ์ยืนยันว่า การบริหารประเทศแบบโปร่งใส Lean and Clean Thailand เป็นนโยบายหลักของพรรค จึงขอให้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นมั่นใจได้ว่าหากพรรคประชาชนบริหารประเทศ จะมีการสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่โปร่งใส เปิดกว้าง เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ
.
จากนั้น นายวีระยุทธ ได้เสนอนโยบายเศรษฐกิจของพรรคประชาชน ที่มุ่นเน้น “Look North” หรือการมองหาพัธมิตรด้านการลงทุนและการแบ่งปันนวัตกรรมจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก รวมถึงญี่ปุ่น พรรคมีนโยบาย Orange Megaprojects ซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโดยภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุน Smart grid หรือระบบส่งไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบจัดการขยะ และระบบขนส่งมวลชนทั่วถึงทั้งประเทศ ซึ่งพรรคประชาชนเชื่อว่าจะสามารถเชิญชวนผู้ประกอบการญี่ปุ่นมาสร้างซัพพลายเชนใหม่ผ่านการลงทุนเหล่านี้ได้
.
ทั้งนี้ ผู้แทนญี่ปุ่นได้ชื่นชมว่ายุทธศาสตร์นโยบายเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นแผนการที่เยี่ยมยอด แต่ญี่ปุ่นยังมีความกังวลว่าจะสามารถปฏิบัติให้เกิดผลจริงได้หรือไม่ โดยความกังวลของญี่ปุ่นคือเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองไทย และบทบาทของไทยในระยะหลังที่ไม่ค่อยรักษาสมดุลระหว่างชาติมหาอำนาจอย่างระมัดระวัง ในประเด็นนี้ ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร รองหัวหน้าพรรคฝ่ายต่างประเทศ ได้ให้คำมั่นว่าหากพรรคประชาชนได้บริหารประเทศ จะบริหารบนหลักความโปร่งใส ยึดมั่นในธรรมาภิบาล ให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกประเทศ และปรับความสัมพันธ์กับพันธมิตรแต่ละประเทศให้มีความสมดุลมากขึ้นอย่างแน่นอน
.
การหารือครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการทำงานระหว่างพรรคประชาชนกับสหพันธุ์ธุรกิจญี่ปุ่น โดยทั้งสองฝ่ายจะหาโอกาสในการประชุมลงรายละเอียดระดับเซกเตอร์ในอนาคตต่อไป เพื่อรักษาและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้มั่นคงและยั่งยืนยิ่งขึ้น
.
.
กมธ.แก้รธน. นัดถกเนื้อหาครั้งสุดท้าย 25 พ.ย. นรเศรษฐ์ ห่วงยุบสภาก่อนโหวตวาระ 3
https://www.matichon.co.th/politics/news_5472616
.
กมธ.แก้รธน. นัดถกเนื้อหาครั้งสุดท้าย 25 พ.ย. คาด 26 พ.ย.พิจารณาเสร็จทั้งฉบับ ก่อนส่ง “วันนอร์” ขณะที่ “นรเศรษฐ์” รับมีหลายเนื้อหารอพิจารณา เหตุมีความเห็นแย้ง ห่วงยุบสภาเกิดก่อนโหวตวาระสาม วอนฝ่ายการเมืองอย่าเล่นเกมทำลายเจตนารมณ์ปชช.ที่อยากได้รธน.ฉบับใหม่
.
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นาย
นรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว.ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 พฤศจิกายน) กมธ.จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเนื้อหาที่รอการพิจารณา ซึ่งมีทั้งที่ต้องลงมติในชั้นกมธ.ฯ และการปรับแก้ไขถ้อยคำตามที่กฤษฎีกาเสนอ จากนั้นในวันที่ 26 พฤศจิกายน ช่วงเช้าได้เชิญผู้ที่แปรญัตติเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงประกอบคำแปรญัตติ โดยมีผู้เสนอคำแปรญัตติทั้งสิ้น 5 คน แบ่งเป็น สส.1 คน และสว.4 คน เบื้องต้นคาดว่ากมธ.ฯ จะพิจารณาเนื้อหาทั้งฉบับให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนดเวลา คือ วันที่ 26 พฤศจิกายน ก่อนที่จะส่งรายงานของ กมธ.ฯ ให้นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า เพื่อให้บรรจุวาระการประชุมของรัฐสภา
JJNY : 5in1 เท้งเสนอ6ข้อช่วยน้ำท่วมใต้│แคนดิเดตปชน.พบนักธุรกิจญี่ปุ่น│กมธ.นัดถกครั้งสุดท้าย│เปิดภาพเนิน745│มันกัมพูชาโวย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5473017
.
.
.
3 แคนดิเดตนายก พรรคปชน. พบนักธุรกิจญี่ปุ่น โชว์วิสัยทัศน์ สร้างเศรษฐกิจมั่นคง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5472991
.
.
กมธ.แก้รธน. นัดถกเนื้อหาครั้งสุดท้าย 25 พ.ย. นรเศรษฐ์ ห่วงยุบสภาก่อนโหวตวาระ 3
https://www.matichon.co.th/politics/news_5472616
.