1. เราจะไม่นำมีดที่เคยเอามาแทงเรา ไปแทงคนอื่น (วิโรจน์ชี้ จะไม่ทำนิติสงคราม)
นักการเมืองที่ขาดความตระหนักด้านจริยธรรม เกิดผลเสียหายแก่ประเทศได้
เพราะตำแหน่งของเขา คุมผลได้ผลเสียของชาติ คุณคือฝ่ายค้าน มีหน้าที่สะกัดมีด
ที่จะแทงประชาชนโดยนักการเมืองเหล่านั้น

ผู้พูดกำลังเหมาว่า ศาล คือ อาวุธ ของคนที่จ้องกำจัดศัตรูทางการเมือง หรือเปล่า?
หากเป็นเช่นนั้น  คุณกำลังไม่ยอมรับอำนาจของฝ่ายตุลาการ
ซึ่งเป็นช่องทางดำเนินการ เมื่อสภาไม่ทำหน้าที่

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ความผิดที่มาจากจริยธรรมของนักการเมือง
สุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ซึ่งในที่นี้ จะเห็นได้ว่าฮุนเซนกำความลับ
ของตระกูลชินวัตร เป็นไปได้ที่จะนำมาเป็นข้อต่อรอง กดดันการตัดสินใจของนายกฯได้

2. จริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องให้ประชาชนตัดสิน ไม่ใช่ศาล (หัวหน้าเท้ง)
- เป็นเรื่องซับซ้อนเกินกว่าประชาชนตัดสินเอง ต้องอาศัยความรู้ด้านการเมืองการปกครอง
ศึกษาที่มาที่ไปและผลกระทบของความผิด
- ประชาชนไม่มีเวลาตัดสินจริยธรรมนักการเมืองแต่ละคน ในหนึ่งปี มีนักการเมืองที่ผิดจริยธรรมจำนวนมาก
- ให้ประชาชน ตัดสินผ่านการเลือกตั้ง หรือ ประชามติ ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่มาจากภาษี
ทั้งที่ปชช จ่ายภาษีเป็นเงินเดือนผู้พิพากษา ซึ่งท่านใช้อำนาจตุลาการแทนปวงชนชาวไทยในการตัดสิน
ไม่สงสัย เหตุใดพรรคส้มแพ้นิติสงคราม

3. เลือกตั้งคือทางออก
- เป็นการทำนายอนาคตที่มีแนวโน้มคลาดเคลื่อนสูง
ซึ่งนี่คือจุดอ่อนที่อาจทำให้เป็นนักบริหารที่ดีไม่ได้
เพราะการบริหาร ต้องเป็นนักติดสินใจ ที่มองอนาคตได้อย่างหลักแหลม
เหตุใด การยุบสภาจึงมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย?
นั้นเป็นเพราะเพื่อไทยคุมอำนาจ ใช้โอกาสสร้างผลงาน
อำนาจรัฐ เปรียบเสมือนยานพาหนะสู่การสร้างผลงานเป็นรูปธรรม
และการควบคุมสถานการณ์ที่มีประสิทธิภาพ

- คะแนนเสียงปัจจุบันของรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน
เมื่อแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีให้พรรคร่วมแล้ว
ย่อมการันตีความมั่นใจ ย่อมทิ้งตำแหน่งออกจากรัฐบาลกันง่ายๆ
หรือหากพรรคใดถอนตัว เพื่อไทยจะคืนดีกับภูมิใจไทยก็เป็นไปได้

- เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคที่ได้คะแนนนำอาจไม่ใช่พรรคประชาชน
เพราะครั้งหน้าจะไม่มีพิธา แต่จับตาสุชัชวีย์ หรือ พรรคหน้าใหม่ ที่ประชาชนเลือกแล้ว
เขาพร้อมเป็นรัฐบาล ที่สำคัญ พรรคเพื่อไทย ยังมีกำลังดึงคนเก่งเข้ามา ล่าสุด จักรภพ เพ็ญแข
ถ้าทำผลงานไปจนครบวาระ มีความสำเร็จเป็นรูปธรรม ส่งผลต่อการเลือกตั้งแน่นอน

4. ระบบสำคัญกว่าบุคคล (นายกคือใครก็ได้)
มองขนาดนั้นไม่ได้ เพราะผู้นำที่เก่ง ปรับเปลี่ยนระบบได้
ปัจจัยตัวบุคคลยังคงสำคัญ
เช่น แม่ทัพ กับ กลยุทธิ์การรบ ประกอบกัน
ต่อให้แผนการรบดี แต่แม่ทัพไม่อาจกำกับหรือพลิกแพลงยามคับขันได้
ก็แพ้สงคราม หรือ แม่ทัพ อาจจะอยู่ในภาวะที่สู้ไม่ได้เต็มที่เพราะมีบุญคุญ
และเงื่อนงำ ที่ฮุนเซ็นอาจใช้เป็นเงื่อนไขกดดันได้

5. สนใจเฉพาะปัญหาทาง กม เช่น ม 112 แก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรม
ทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่า พรรคประชาชนขับเคลื่อนประเทศเพื่อคนกลุ่มใด
เพราะทิศทางนั้นไม่ใช่ความกังวลของประชาชนโดยรวม ณ ปัจจุบัน
เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

จุดที่อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทย กับ พรรคประชาชนประสานกันได้ คือ กม นิรโทษกรรม
ตามข่าว พรรคประชาชน ย้ำจุดยืน ถก นิรโทษกรรม ไม่ควรเลือกปฏิบัติหรือมีเงื่อนไข

จากข้อวิเคราะห์ดังกล่าว มีแนวโน้มที่ประชาชนเสื่อมความนิยมพรรคประชาชน
- คำพูดติดตัว คือ "จะเป็นฝ่ายค้าน"  ไม่โดนใจผู้เลือกตั้ง
- ตรรกะสุ่มเสี่ยงต่อการบริหารประเทศ คนรุ่นใหม่ที่สนใจการเมืองสายกลาง
อาจกำลังมองหาผู้นำพรรค ที่สุขุม มีความเป็นปราชญ์ อย่างสุชัชวีย์ กร คุณหญิงสุดารัตน์
- ประชาชนขาดความไว้วางใจ พรรคควรออกมาอธิบายอย่างจริงใจและเปิดใจ
ว่าคนในพรรคติดคดี หรือ อยู่ในช่วงดำเนินคดี ขาดคุณสมบัติ รมต. หรือไม่ อย่างไร
จึงเป็นที่มาของวิธีคิด แก้ กม ก่อนกำจัดรัฐบาลที่สุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ
ฉายภาพ เราช่วยท่านไม่ได้ ตอนนี้เราถูกมัดแขน เราต้องแกะเชือกออกก่อน

อย่างไรก็ดี หากยึดผลประโยชน์บ้านเมืองเป็นที่ตั้ง อาจมีทางเลือกอื่นๆ ที่ลดทอน
ปัญหาแห่งคดีที่แกนนำพรรคประชาชนเผชิญ รวมถึงการจัดตั้ง ครม ที่มีคนนอกมาร่วมทำผลงาน
ซึ่งประชาชนที่เห็นใจและแกนนำม็อบ จะช่วยคิดหาทางออก
แทนการจับมือกับพรรครัฐบาลซึ่งกำลังถูกตั้งคำถามจากประชาชน  
เพราะเมื่อพรรคประชาชนทำเช่นนี้ ก็คือ วิธีการเดียวกับเพื่อไทย ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า
ฐานการตัดสินใจหลัก คือ ให้คุณทักษิณ เจ็บน้อยที่สุด จากผลทาง กม
จนเป็นที่มาหักหลังประชาชนไปจับมือกับพรรคลุงก็ได้  
เหล่านี้ จะเป็นข้อกังขา จนถึงตอนหาเสียงครั้งต่อไป
-เสียสถานะฮีโร่ให้แกนนำม็อบ ที่พูดแทนใจประชาชนได้มากกว่า

อนึ่ง  ผู้วิเคราะห์เห็นใจและขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย
หากย้อนเวลาได้ หากทุกฝ่ายใจเย็น แล้วทำเพื่อชาติก่อน

สมมุติ พรรคเพื่อไทยทำเพื่อชาติก่อน การกลับมาของคุณทักษิณ จะสง่างาม
ถ้าในวันนั้น เพื่อไทยจับมือก้าวไกล ประเทศไทยน่าจะไปไกลกว่านี้
ก็ได้แค่สมมุติ ความจริง คือ คนที่เลือกเดินเส้นทางที่มีประชาชนเป็นเป้าหมาย
คือ จตุพร พรหมพันธุ์  ซึ่งเขาอาจมีความคับแค้นดั้งเดิมกับคุณทักษิณ
แต่การต่อสู้ของเขา  ชัดเจนว่า เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ทั้งการคลายความตึงเครียดของสังคมและรวมเงินบริจาคหนุนกำลังกองทัพไทย