รักกันมา 20 ปี มีลูก 3 คน…แต่เขายอมหย่า เพียงเพราะอยากไปนั่งดื่มกับเพื่อน

กระทู้สนทนา
ใครจะคิดว่า...คนที่เคยเป็นทุกอย่างให้กัน
วันหนึ่งจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ว่า
ก็ได้นะ...หย่ากัน
เรารู้จักกันตั้งแต่อนุบาล
เรียนห้องเดียวกันยันจบ ม.6
โตมาด้วยกัน แต่อยู่กันแบบเพื่อนคนละโลก
ใครๆ ก็ไม่เคยคิดว่าเราสองคนจะลงเอยกัน
แม้แต่ตัวเราเอง
จนเรียนจบมหาลัย คนละสถาบัน คนละคณะ
ถึงกลับมาเจอกันอีกครั้ง
ในวัยที่พอจะเข้าใจชีวิต
เราเริ่มคุยกัน...
เริ่มรักกันแบบเงียบๆ
และในที่สุด...แต่งงานกัน
ใช้ชีวิตคู่มา 20 ปี
มีลูก 3 คน มีหมาอีก 1 ตัว
สร้างบ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความเข้าใจ
ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เพียบพร้อมแบบในนิยาย
ไม่เก่งทำอาหาร ไม่เก่งดูแลบ้าน ไม่แม้แต่จะดูแลลูกได้เก่งเท่าเขา
แต่ฉันทำงานหนัก หาเงินเก่ง พาครอบครัวผ่านทุกวิกฤต
ความมั่นคงในบ้านนี้ 65% มาจากฉัน
ส่วนความอบอุ่นทั้งหมด...มาจากเขา
เขาคือ family man ในฝันของผู้หญิงทุกคน
รักลูก รักบ้าน ซ่อมไฟเป็น ล้างแอร์ได้
หาอาหารให้ลูกกินเวลาฉันติดงาน
เป็นพ่อที่ดีที่สุด และเป็นสามีที่อบอุ่นที่สุด
จนเมื่อปีที่แล้ว
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป...
เขาเริ่มมีเพื่อนกลุ่มใหม่ เป็นสายเที่ยวกลางคืน
นั่งดื่มร้านเหล้า มีสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อยเดินเสิร์ฟ
มีพริตตี้ เด็กดริ๊งคอยเทคแคร์
เขาไปกับเพื่อนด้วยเหตุผลว่า "เกรงใจเพื่อน"
ฉันไม่ชอบเลย ฉันบอกตรงๆ
ฉันไม่ไว้ใจสถานที่แบบนั้น
ไม่ไว้ใจสังคมแบบนั้น
ไม่ใช่เพราะฉันไม่ไว้ใจเขา
แต่เพราะฉันรู้ว่า
ผู้ชายที่ดีๆ มากมาย เคยเปลี่ยนไป เพราะ "ของใหม่" แบบนั้น
เราเคยทะเลาะกันแรงครั้งหนึ่ง
ฉันยื่นคำขาดว่า ถ้ายังจะไปสถานที่แบบนั้นอีก ฉันจะไม่ทน
เขารับปากว่า "จะไม่ไปอีกเลยตลอดชีวิต"
ฉันเชื่อ...และเรื่องก็จบลงตรงนั้น
จนเมื่อเดือนก่อน
ฉันกำลังจะแพลนไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว
เป็นทริปในฝันของฉัน ที่รอมาทั้งชีวิต
ลูกไปด้วยไม่ได้ เขาไม่อยากไปด้วย
ฉันเลยแพลนจะไปคนเดียว 7 วัน
ก่อนจะบินไม่กี่สัปดาห์
เขาถามฉันว่า...
“ระหว่างที่เธอไม่อยู่บ้าน...
ขอฉันไปเที่ยวกับเพื่อนได้มั้ย?”
ฉันอึ้ง...
คำถามง่ายๆ แต่บาดลึก
ฉันถามกลับว่า
“แล้วทำไมต้องรอให้ฉันไม่อยู่บ้าน ถึงจะไปได้?”
เขานิ่ง แล้วตอบว่า
“ก็ไม่ได้จะทำอะไรเสียหาย ไปแค่นั่งกินกับเพื่อน”
“ถึงเพื่อนจะมีสาวมานั่งด้วย แต่ฉันก็ไม่ยุ่งกับใคร”
แต่ฉันไม่โอเค...
เพราะฉันไม่เคยห้ามเขาเที่ยวเลย
จะกินเหล้า ดูบอล ไปดูคอนเสิร์ต ไปทะเล
ฉันไม่เคยยุ่ง
แค่ “อย่าไปในที่ที่มีสาวๆ มานั่งบริการ” เท่านั้นเอง
เพราะฉันรู้ตัวว่ารับไม่ได้กับความรู้สึกที่ว่า
มือที่เขากลับมาโอบฉัน อาจเป็นมือเดียวกับที่เพิ่งไปลูบคลำใครมา
เราทะเลาะกันหนักมาก
เขาพูดว่า
“ผมไว้ใจคุณนะ คุณไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวตั้ง 7 วัน
ผมยังไม่คิดอะไรเลย”
คำพูดนั้นเหมือนหันมีดมาทิ่ม
ฉันกลายเป็นคนที่ไม่รักลูก ทิ้งลูก ทิ้งสามีไปเที่ยว
ทั้งที่ฉันก็แค่พยายามใช้ชีวิตของตัวเองบ้างเท่านั้น
เขาเริ่มเปลี่ยน
จากคนสุขุม เป็นคนพูดเอาชนะ
จากคนที่เคยฟัง กลายเป็นคนที่เอาแต่ตะบี้ตะบันให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
จนฉันทนไม่ไหว
พูดไปด้วยน้ำเสียงที่สะกดอารมณ์สุดชีวิต...
“หรือฉันเป็นปัญหา...
ถ้างั้นก็หย่ากันเลยมั้ย?”
เป็นครั้งแรกที่ฉันพูดคำนี้ออกไป
แล้วเขาตอบรับ
“ก็ได้นะ”
...โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ปกติเขาไม่เคยรับคำท้าหย่า
เขาไม่เคยเห็นคำนี้เป็นทางเลือกจริง
แต่ครั้งนี้...
เขากลับพูดมันง่ายๆ เหมือนจะไปตลาด
และบทสนทนาหลังจากนั้น
คือการเริ่มต้นพูดคุยเรื่อง "รายละเอียดการหย่า"
ฉันช็อก...
ใจสลาย...
แต่ก็ยังนั่งคุยกับเขาพูดต่อจนจบ
รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล
มีลูก 3 คน บ้าน 1 หลัง หมาอีก 1 ตัว
อยู่ดีๆ เขาก็เลือกจะหย่า...
เพราะแค่อยากกลับไปนั่งร้านเหล้า
กับเพื่อน...ที่มีสาวๆ เดินเสิร์ฟข้างโต๊ะ
ถ้าคุณกำลังอ่านเรื่องนี้ แล้วรู้สึกจุก
ขอให้รู้ไว้นะคะ
“ความรักอย่างเดียว มันไม่พอ”
ความเข้าใจ + ความซื่อสัตย์ + ความรับผิดชอบต่อกัน
ถึงจะพอ...และถึงจะยั่งยืน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่