ฝ่ายค้านถกหน.พรรคร่วม 3 ก.ค. ‘ณัฐพงษ์’ ขอรอผลศาลรธน.พรุ่งนี้ ก่อนเดินหน้าซักฟอก ม.151
.
.
ฝ่ายค้านขยับ นัดประชุม หน.พรรคร่วมฝ่ายค้าน 3 ก.ค.นี้ ‘ณัฐพงษ์’ ลั่นไม่ให้เสียของ ขอดู ‘ศาล รธน.’ สั่ง ‘นายกอิ๊งค์’ หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ก่อนเดินหน้าซักฟอก ม.151 ชี้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอด
.
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของพรรคการเมืองฝ่ายค้านว่า หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยประกาศเข้ามาอยู่พรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีการประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. จากนั้นวันที่ 3 ก.ค. จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ในเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ส่วนผลการหารือต้องรอหลังการประชุม ซึ่งยอมรับว่าจะมีการประชุมเพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ยังเห็นว่าจะมีกลไกอื่นที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลในสภาได้
.
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคประชาชนไม่ได้คัดค้านในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 แต่เห็นว่าจังหวะในการยื่นจะต้องยื่นให้มีความแม่นยำ ซึ่งจะต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะในวันที่ 1 ก.ค. ที่จะต้องติดตามความชัดเจนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์การเมืองยังไม่แน่นอนว่านายกฯสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่
.
“สิ่งที่เราอยากเห็นคือรัฐบาลชุดใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ และการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 ทำได้ปีละ 1 ครั้งในหนึ่งสมัยประชุม ถ้ายื่นตั้งแต่เนิ่นๆ ตอนนี้เท่ากับว่าอาจจะยื่นอีกครั้งหนึ่งต้องรอดูรัฐบาลปีหน้า” นายณัฐพงษ์กล่าว
.
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า อีกมุมหนึ่งหากไม่ยื่นเลยก็จะช้าไป กรณีเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง และหากตอนนี้ยื่นญัตติไปต่อนายกรัฐมนตรี หากเกิดอุบัติเหตุต่อนายกรัฐมนตรีขึ้นมา ก็ไม่สามารถบอกได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าในการยื่นนั้นจะเสียของหรือไม่ เพราะฉะนั้นในการประเมินสถานการณ์ตอนนี้ขอดูเวลาอีกสักหน่อย ขอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ และรอความชัดเจนอีกหลายเรื่องให้มีความแม่นยำ เชื่อว่าจะไม่ทำให้เสียเวลาแต่อย่างใด
.
เมื่อถามว่า ประเมินร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 อย่างไร หากไม่ผ่าน นายณัฐพงษ์กล่าวว่า งบประมาณก็เป็นกฎหมายสำคัญ แต่เชื่อว่าร่างกฎหมายทุกฉบับที่รัฐบาลจะผลักดันหลังจากนี้มีโอกาสสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอดเวลา ตราบใดที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เพราะบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลสามารถส่งข้อเรียกร้องต่างๆนานาได้ทุกครั้ง เนื่องจากเสียงของรัฐบาลเกินจากฝ่ายค้านแค่ 10 เสียงเท่านั้น
.
.
เท้ง ปลื้มคะแนนนิยมเพิ่ม แต่ไม่ประมาท ชี้ฝ่ายค้านไม่ควรนั่ง ‘รองปธ.สภาฯ’ แต่ขอคุย ‘ภท.’ ก่อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5253478
.
เท้ง ดีใจ คะแนนนิยมเพิ่ม แต่ไม่ประมาท มอง คะแนนนิยม ‘แพทองธาร’ ตก กระทบความเชื่อมั่นรัฐบาล เชื่อ มีชื่อ ‘บิ๊กตู่’ เพราะ ปชช. ต้องการคนที่มีความเข้มแข็งและมาจากฝ่ายทหาร ชี้ ฝ่ายค้านไม่ควรนั่ง ‘รองปธ.สภาฯ’ แต่ขอคุย ‘ภท.’ ก่อนจะเสนอหรือไม่ เหตุทางนิตินัยยังเป็นเสียงของรัฐบาล
.
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่รัฐสภา นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพลที่พรรคประชาชนมีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นนำนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ว่า รู้สึกดีใจแล้วขอบคุณประชาชนที่มอบความไว้วางใจ ขณะเดียวกันไม่ได้ประมาท และยังห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ และกล่าวอ้างอิงว่าที่คะแนนนิยม ของนายกรัฐมนตรีตกลง หรือการขาดความเชื่อมั่นต่อนายกฯ ทำให้ส่งผลถึงความเชื่อมั่น ทำให้พรรคประชาชนหรือแคนดิเดตนายกฯคนอื่นจากพรรคการเมืองที่มีอยู่เพิ่มขึ้น จึงต้องบอกว่าส่วนหนึ่งสาเหตุที่เกิดมาจากการขาดความเชื่อมั่นรัฐบาลในปัจจุบัน
“
จากโพลที่เพิ่มขึ้นของผมหรือพรรคประชาชน แม้เราจะรู้สึกดีใจและขอบคุณ ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจพวกเรามากขึ้น พวกเรายังไม่ประมาท ยังคงเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่” นายณัฐพงษ์กล่าว
ส่วนผลโพลจะส่งผลต่อสนามเลือกตั้งหรือไม่ นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยู่ที่ความคงเส้นคงวาของการสื่อสารและการปฏิบัติตัว การยืนอยู่บนหลักการหรือนำเสนอสิ่งต่าง ๆ และทางออกให้กับสังคมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะนำมาส่งชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งถัดไป แต่นับจากวันนี้จนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้ว่าผลโพลเป็นอย่างไรก็ตามหากละทิ้งหลักการ หากเลือกที่จะสื่อสารหรือชี้นำสังคมไปในทางใดทางหนึ่ง เอาผลประโยชน์ระยะสั้นของตัวเองเป็นหลัก เชื่อว่าประชาชนมองออก ซึ่งผลโพลในวันนี้ไม่ได้หมายถึงการเลือกตั้งในอนาคตแต่ทางกลับกันในการวางตัว หรือการปฏิบัติตัว ที่ยืนอยู่บนหลักการยึดถือประโยชน์ของประชาชน และสังคมเป็นตัวตั้งจะนำมาสู่ชัยชนะ
เมื่อถามว่าชื่อของพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาอยู่ในโพลมีคะแนนสูงกว่า น.ส.
แพทองธาร ชิณวัตร นายกรัฐมนตรี มีนัยยะหรือไม่ นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า การสำรวจโพลที่ผ่านมาไม่เคยมีชื่อพล.อ.
ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ดีๆ มีความนิยม 12 % เป็นเพราะว่าพล.อ.
ประยุทธ์ เพิ่งมาอยู่ในรายชื่อครั้งนี้ แต่อีกมุมหนึ่งมองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นอยู่ คะแนนนิยมของนายกฯคนปัจจุบันที่ตกลง สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชน นำมาสู่ความต้องการที่จะเลือกนายกฯ ที่มีความเข้มแข็งและมาจากฝ่ายทหาร เรื่องนี้จะต้องสื่อสารกับประชาชนทุกกลุ่มสิ่งที่เราไม่ต้องการเห็นคือ นายกฯที่เป็นผู้ทำรัฐประหารซะเอง รวมถึงการใช้การเมืองนอกระบบ โดยในช่วงการเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อตอนนี้ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่บนหลักการ ปฏิเสธการปฏิวัติรัฐประหารให้หนักแน่นที่สุด ไม่ควรมีการเปิดช่องใดที่นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ขบวนการนอกรัฐธรรมนูญ
.
“
ไม่ต้องการเห็นนายกฯที่มาจากนอกระบบ เพราะนอกจากสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการทำรัฐประหารแล้ว สิ่งที่เลวร้ายเช่นเดียวกัน คือการที่ได้มาโดยนายกรัฐมนตรี นอกระบบตามมาตรา 5 และเชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ที่จะเดินไปสู่จุดนั้น ดังนั้นสิ่งที่พรรคประชาชนกำลังนำเสนออยู่ คือการ ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจอย่างมีวุฒิภาวะ ให้มีความละเอียดรอบคอบมากที่สุดเพราะทุกอย่างยึดโยงกัน การอภิปรายตามมาตรา 151 ก็เป็นสิ่งที่พร้อมเดินหน้าเต็มที่ แต่ขอประเมินดูสถานการณ์ที่ถูกต้องและเป็นทางออกให้กับสังคมไทยก่อน ซึ่งการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านสัปดาห์นี้จะได้คำตอบ” นาย
ณัฐพงษ์ กล่าว
.
ส่วนเรื่องเสนอชื่อตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่สอง ที่ว่างอยู่นั้น นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชน เป็นพรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้านตามกฎหมายไม่สามารถเสนอตำแหน่งรองประธานสภาฯได้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะเสนอตำแหน่งรองประธานหรือไม่ขอไปพูดคุยกันก่อน เพราะมีข้อมูลบางส่วน ถ้าหากมีการเสนอชื่อและพรรคภูมิใจไทยได้ตำแหน่ง ในทางนิตินัยหมายถึงภูมิใจไทยเป็นฝ่ายรัฐบาล แม้ทางพฤตินัยภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้าน อาจส่งผลต่อการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะต้องนับเสียงของฝ่ายค้าน เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันอย่างรอบคอบว่าพรรคภูมิใจไทยจะเสนอหรือไม่
.
.
“กัณวีร์” ค้านรัฐประหาร จี้นายกฯ ถ้าคิดถึงผลประโยชน์ของชาติ รีบยุบสภา
.
“กัณวีร์” จี้ “นายกฯ แพทองธาร” รีบยุบสภาคืนเสียงให้ประชาชน ถ้าคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ลั่น ต้องไม่ปล่อยให้วิกฤติทางการเมืองถูกใช้เป็นเครื่องมือทำรัฐประหาร
.
เมื่อเวลา 16.21 น. วันที่ 29 มิถุนายน 2568 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ระบุว่า ถ้านายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวตั้งจริงๆ ก็รีบยุบสภาโดยเร็วเถิดหากยังคิดถึงประเทศชาติของเราอยู่
ทั้งนี้ ตนเคารพทุกความคิดเห็น ทุกความเห็นต่างของประชาชน และการชุมนุมเรียกร้องของประชาชนเป็นสิทธิที่ทำได้ตามหลักประชาธิปไตย แต่ตลอด 20 ปีการเมืองไทย ตั้งแต่ปี 2548-2568 เราผ่านการชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่มาหลายครั้ง มีทั้งการบาดเจ็บและแถมยังมีการสูญเสียชีวิต และที่น่ารังเกียจที่สุดคือในจำนวนการชุมนุมใหญ่ใน 20 ปีที่ผ่านมานั้น มี 2 ครั้งที่วิกฤติทางการเมืองถูกใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมในการรัฐประหาร
.
“ใน 2 ครั้งนั้น แน่นอนว่าเกิดขึ้นกับพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) และอา (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) ของนายกฯ แพทองธารฯ ซึ่งผมมั่นใจว่านายกฯ น่าจะเข้าใจดีกว่าใคร ว่าทำไมเราต้องไม่ปล่อยให้วิกฤติทางการเมืองถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการรัฐประหาร ดังนั้น คนที่จะแก้ไขปัญหาและยับยั้งไม่ให้บ้านเมืองเดินไปสู่การรัฐประหารนั้น ก็คือตัวนายกรัฐมนตรีที่ควรตัดสินใจทางการเมืองที่มีทางเลือกแค่ทางเดียว คือยุบสภาและคืนอำนาจกลับไปให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่เพียงเท่านั้น”
.
นายกัณวีร์ ยังย้ำในตอนท้ายด้วยว่า “ยุบสภา คืนเสียงให้ประชาชน ไม่เอารัฐประหาร ผมยังยืนยันแบบนี้ครับ”
...
https://x.com/nolkannavee/status/1939252767396417869/
JJNY : ‘ณัฐพงษ์’ ขอรอผลศาลรธน.พรุ่งนี้│ชี้ไม่ควรนั่ง ‘รองปธ.สภาฯ’ แต่ขอคุยก่อน│“กัณวีร์”ค้านรัฐประหาร│15 องค์กรจี้ลาออก
.
เท้ง ปลื้มคะแนนนิยมเพิ่ม แต่ไม่ประมาท ชี้ฝ่ายค้านไม่ควรนั่ง ‘รองปธ.สภาฯ’ แต่ขอคุย ‘ภท.’ ก่อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5253478
.
เท้ง ดีใจ คะแนนนิยมเพิ่ม แต่ไม่ประมาท มอง คะแนนนิยม ‘แพทองธาร’ ตก กระทบความเชื่อมั่นรัฐบาล เชื่อ มีชื่อ ‘บิ๊กตู่’ เพราะ ปชช. ต้องการคนที่มีความเข้มแข็งและมาจากฝ่ายทหาร ชี้ ฝ่ายค้านไม่ควรนั่ง ‘รองปธ.สภาฯ’ แต่ขอคุย ‘ภท.’ ก่อนจะเสนอหรือไม่ เหตุทางนิตินัยยังเป็นเสียงของรัฐบาล
.
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพลที่พรรคประชาชนมีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นนำนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ว่า รู้สึกดีใจแล้วขอบคุณประชาชนที่มอบความไว้วางใจ ขณะเดียวกันไม่ได้ประมาท และยังห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ และกล่าวอ้างอิงว่าที่คะแนนนิยม ของนายกรัฐมนตรีตกลง หรือการขาดความเชื่อมั่นต่อนายกฯ ทำให้ส่งผลถึงความเชื่อมั่น ทำให้พรรคประชาชนหรือแคนดิเดตนายกฯคนอื่นจากพรรคการเมืองที่มีอยู่เพิ่มขึ้น จึงต้องบอกว่าส่วนหนึ่งสาเหตุที่เกิดมาจากการขาดความเชื่อมั่นรัฐบาลในปัจจุบัน
“จากโพลที่เพิ่มขึ้นของผมหรือพรรคประชาชน แม้เราจะรู้สึกดีใจและขอบคุณ ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจพวกเรามากขึ้น พวกเรายังไม่ประมาท ยังคงเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่” นายณัฐพงษ์กล่าว
ส่วนผลโพลจะส่งผลต่อสนามเลือกตั้งหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยู่ที่ความคงเส้นคงวาของการสื่อสารและการปฏิบัติตัว การยืนอยู่บนหลักการหรือนำเสนอสิ่งต่าง ๆ และทางออกให้กับสังคมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะนำมาส่งชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งถัดไป แต่นับจากวันนี้จนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้ว่าผลโพลเป็นอย่างไรก็ตามหากละทิ้งหลักการ หากเลือกที่จะสื่อสารหรือชี้นำสังคมไปในทางใดทางหนึ่ง เอาผลประโยชน์ระยะสั้นของตัวเองเป็นหลัก เชื่อว่าประชาชนมองออก ซึ่งผลโพลในวันนี้ไม่ได้หมายถึงการเลือกตั้งในอนาคตแต่ทางกลับกันในการวางตัว หรือการปฏิบัติตัว ที่ยืนอยู่บนหลักการยึดถือประโยชน์ของประชาชน และสังคมเป็นตัวตั้งจะนำมาสู่ชัยชนะ
เมื่อถามว่าชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาอยู่ในโพลมีคะแนนสูงกว่า น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร นายกรัฐมนตรี มีนัยยะหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การสำรวจโพลที่ผ่านมาไม่เคยมีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ดีๆ มีความนิยม 12 % เป็นเพราะว่าพล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งมาอยู่ในรายชื่อครั้งนี้ แต่อีกมุมหนึ่งมองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นอยู่ คะแนนนิยมของนายกฯคนปัจจุบันที่ตกลง สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชน นำมาสู่ความต้องการที่จะเลือกนายกฯ ที่มีความเข้มแข็งและมาจากฝ่ายทหาร เรื่องนี้จะต้องสื่อสารกับประชาชนทุกกลุ่มสิ่งที่เราไม่ต้องการเห็นคือ นายกฯที่เป็นผู้ทำรัฐประหารซะเอง รวมถึงการใช้การเมืองนอกระบบ โดยในช่วงการเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อตอนนี้ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่บนหลักการ ปฏิเสธการปฏิวัติรัฐประหารให้หนักแน่นที่สุด ไม่ควรมีการเปิดช่องใดที่นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ขบวนการนอกรัฐธรรมนูญ
.
“ไม่ต้องการเห็นนายกฯที่มาจากนอกระบบ เพราะนอกจากสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการทำรัฐประหารแล้ว สิ่งที่เลวร้ายเช่นเดียวกัน คือการที่ได้มาโดยนายกรัฐมนตรี นอกระบบตามมาตรา 5 และเชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ที่จะเดินไปสู่จุดนั้น ดังนั้นสิ่งที่พรรคประชาชนกำลังนำเสนออยู่ คือการ ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจอย่างมีวุฒิภาวะ ให้มีความละเอียดรอบคอบมากที่สุดเพราะทุกอย่างยึดโยงกัน การอภิปรายตามมาตรา 151 ก็เป็นสิ่งที่พร้อมเดินหน้าเต็มที่ แต่ขอประเมินดูสถานการณ์ที่ถูกต้องและเป็นทางออกให้กับสังคมไทยก่อน ซึ่งการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านสัปดาห์นี้จะได้คำตอบ” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
ส่วนเรื่องเสนอชื่อตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่สอง ที่ว่างอยู่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชน เป็นพรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้านตามกฎหมายไม่สามารถเสนอตำแหน่งรองประธานสภาฯได้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะเสนอตำแหน่งรองประธานหรือไม่ขอไปพูดคุยกันก่อน เพราะมีข้อมูลบางส่วน ถ้าหากมีการเสนอชื่อและพรรคภูมิใจไทยได้ตำแหน่ง ในทางนิตินัยหมายถึงภูมิใจไทยเป็นฝ่ายรัฐบาล แม้ทางพฤตินัยภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้าน อาจส่งผลต่อการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะต้องนับเสียงของฝ่ายค้าน เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันอย่างรอบคอบว่าพรรคภูมิใจไทยจะเสนอหรือไม่
.
.
.