เท้ง ชี้ปมคลิปเสียง โทษแต่กัมพูชาก็ไม่ถูก แนะผู้นำประเทศ เจรจาหลังบ้านต้องระวัง
.
.
เท้ง ชี้ปมคลิปเสียง โทษกัมพูชาฝ่ายเดียวไม่ถูก แนะผู้นำประเทศ เจรจาหลังบ้านต้องระวัง ลั่นไทยต้องเข้มแข็ง-มีวุฒิภาวะ หลังนทท.เขมร โผล่ร้องเพลงชาติบนปราสาทตาควาย
.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองไทย-กัมพูชาว่า ผู้นำประเทศตอนนี้ต้องกำหนดบทบาทตัวเองให้ดี
.
เพราะกัมพูชาพยายามใช้จังหวะขับเคลื่อนอะไรหลายๆ อย่าง เช่น การปล่อยคลิปเสียงทั้งที่รู้ว่าผิดมารยาททางการทูตอย่างรุนแรง และอาศัยจังหวะนี้เพื่อประโยชน์ภายในประเทศตัวเอง
.
จุดที่สำคัญที่ป้องกันไม่ให้ไปถึงจุดนั้น คือ การเจรจาของนายกรัฐมนตรี การเจรจาหลังบ้านในฐานะผู้นำประเทศต้องระมัดระวังทุกช่องทางที่มีการสื่อสาร
.
“ช่องทางหลังบ้านยังสามารถทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะโทษฝั่งนั้นฝั่งเดียวก็ไม่ถูก ต้องอยู่ที่ฝั่งเราด้วย หากบทสนทนานายกฯ ยืนอยู่ในหลักการ ในฐานะผู้นำประเทศ โดยไม่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว บทสนทนาก็จะเปลี่ยนไป ถึงแม้จะมีการแอบอัดคลิปแต่บทสนทนาเป็นไปในทางผู้นำกับผู้นำ ตนคิดว่าก็จะไม่นำมาสู่การที่มีคลิปหลุดแบบนี้ สมเด็จฮุนเซนก็ไม่สามารถนำคลิปเสียงไปใช้ประโยชน์ได้” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่ามีการเรียกร้องให้เปิดคลิปเสียงนักการเมืองที่ไปคุยกับทางกัมพูชาและดีลผลประโยชน์ส่วนตัวเพิ่มเติมอีก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ใครก็ตามไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหนที่มีหลักฐานชี้ชัดว่าการเจรจาใดๆ เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของนักการเมือง ตนคิดว่าสังคมควรรับทราบ
.
เมื่อถามว่าเมื่อเช้านี้ทหารกัมพูชาได้นำชาวบ้านกัมพูชามาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาควาย จะยังสามารถพูดคุยกันได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ท่าทีการแสดงออกของเราควรทำอย่างเข้มแข็ง และวุฒิภาวะ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราต้องการตัวผู้นำประเทศที่สื่อสารมาทางนี้ ทำอย่างไรไม่ให้แสดงออกถึงความอ่อนแอและเป็นรองกัมพูชาอยู่ เราต้องแสดงถึงความเข้มแข็ง ให้ประชาชนเชื่อมั่นแต่ต้องมีวุฒิภาวะ ป้องกันไม่ให้เกิดการปลุกปั่นและนำมาสู่ความขัดแย้งของประชาชนทั้งประเทศ
.
.
"เท้ง" ย้ำ ! "ปชน." ไม่ร่วมมือ "ภท." ดัน "อนุทิน" นั่งนายกฯ แน่ เหน็บพรรคร่วมฯต่อรองเก้าอี้ มากกว่าแก้ปห.ประเทศ
.
วันที่ 20 มิ.ย.68 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของรัฐบาลภายหลังมีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า จากหน้ากระดานที่เป็นอยู่ ตัวนายกรัฐมนตรีสูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้ว และการลาออกคงไม่ใช่ทางเลือกด้วยสมการที่เป็นอยู่ ตนคิดว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว ทางออกเดียวคือการยุบสภา จากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ ตนเชื่อว่าเลือกมาแล้ว ก็ไม่สามารถกาทางออกให้กับประเทศได้ ปัญหาสำคัญเช่นการปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องอื่นๆ การรวมตัวกันของรัฐบาลที่เหลืออยู่คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
.
เมื่อถามว่า มองปฏิกิริยาการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงต่อรองเก้าอี้กรัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด เห็นจากการสื่อสารเมื่อวานนี้ ที่บอกว่าต้องไปคุยกับนายกรัฐมนตรี คงจะเป็นเรื่องนี้มากกว่าการเอาประเด็นปัญหาของประเทศเป็นหลัก
.
เมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลเหล่านี้เห็นผลประโยชน์ของพรรคตัวเองมากกว่าประเทศใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นบริบททางการเมืองที่ผ่านมา พรรคประชาชนเคยอภิปรายสื่อสารแบบนี้มาก่อนแล้ว เช่น การอภิปรายงบประมาณว่าเราอยากเห็นการจัดสรรงบประมาณทที่เป็นประโยชน์กับประเทศ แต่กลายเป็นว่าทุกครั้งจังหวะก้าวทางการเมืองเป็นการต่อรองตำแหน่งและผลประโยชน์มากกว่า ที่เป็นสิ่งที่พวกเราเป็นห่วง จึงนำมาสู่ข้อเรียกร้องว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของประเทศ
.
ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าตอนนี้ยังเกาะกลุ่มรวมตัวกันได้อยู่ ถึงจะไปได้ก็เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่มีสภาพแบบนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ตัวนายกรัฐมนตรีเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำลายความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนอีกหลายคน
.
เมื่อถามว่าเปิดสมัยประชุมสภาฯมาแล้ว จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องรอดู พรรคฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะทำหน้าที่กลไกตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อกดดันนายกฯ ให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน
.
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลรวมกันไม่ได้พรรคประชาชน จะรวมกับพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต เป็นนายกฯหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ เรายืนยันมาโดยตลอดว่าในหน้ากระดานที่เป็นอยู่ เราไม่สามารถสนับสนุนให้ใครก็ตามมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อ ณ ตอนนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ จึงยืนยันในจุดยืนเดิมว่าเราอยู่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่รัฐบาลบอกให้รักและสามัคคีกันในสถานการณ์แบบนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องความสามัคคีตนคิดว่าเป็นเรื่องต้องมีอยู่แล้ว แต่ไม่อยากให้ใช้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ การเมืองภายในประเทศ อาศัยเป็นจุดช่วงชิงใช้กระแสชาตินิยมมาเรียกร้อง ให้ใช้อำนาจนอกระบบ
.
เมื่อถามว่า นายกฯจะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อทำภารกิจกับแม่ทัพภาคที่ 2 จะสยบรอยร้าวได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกฯสมควรทำอยู่แล้ว ต้องพยายามให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ และมีบทบาทนำกองทัพ ตนคาดหวังว่านายกฯจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นกลับคืนมา
.
เมื่อถามว่า ในช่วงที่มีการชุมนุมตอนนี้จะมีสิ่งเร้าให้เกิดการเล่นนอกกติกาหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าประชาชนอยากให้เปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ แต่การเปลี่ยนตัวมีหลายช่องทาง ช่องทางที่เราไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เกิดมากที่สุด คือการเรียกร้องให้เกิดอำนาจนอกระบบจนเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ช่องทางอื่นยังมีเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยสมการการเมืองยังไม่เปลี่ยน ได้รัฐบาลคล้ายเดิม เพียงแต่หัวผู้นำประเทศ แต่ไม่สามารถพลักดันแก้ไขปัญหาประเทศได้ หากประชาชนต้องการทางออกจริงๆ ตนคิดว่าการเลือกตั้งใหม่ ให้เสียงของประชาชนเป็นผู้กำหนดอนาคตประเทศจะเป็นทางออกที่ถูกต้องที่สุด
.
เมื่อถามว่าได้คุยกับฝ่ายค้านกลุ่มใหม่ที่จะมีอยู่ร่วมกันแล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้มีการนัดเฉพาะกิจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งฝ่ายค้านในสภาฯก็มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหมายถึงพรรคภูมิใจไทยที่เข้ามาล่าสุด ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆอย่างเป็นทางการ
.
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอาจจะมีการซื้องูเห่าเพิ่ม ได้เน้นย้ำคนในพรรคประชาชนหหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำใดๆ ตนมั่นใจในเพื่อนร่วมพรรค
.
เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้มีฝั่งรัฐบาลระบุว่ามีงูเห่าฝากเลี้ยงไว้ในพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเคยสื่อสารไปแล้ว ว่าหากใครมีก็ตาม ให้เปิดชื่อออกมา เพื่อความเป็นธรรมกับทุกคน เจ้าตัวจะได้ออกมาชี้แจง แต่โดยส่วนตัวตนเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมพรรคทุกคน พร้อมย้ำว่าไม่มีแน่นอน ส่วนจะมีการคาดโทษหรือไม่หากไม่มาร่วมโหวตในสภาฯ ตนคิดว่าทุกการลงมติเป็นหน้าที่ของสส.อยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีการเจ็บป่วยบ้าง แต่ตนเชื่อว่าเพื่อนสส.ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ ที่ผ่านมามีหลายคนเข้าโรงพยาบาลไปรักษาตัวบ้าง เพราะฉะนั้น เสียงที่คาดหายไปไม่ได้อยู่ที่งูเห่าเสมอไป
.
เมื่อถามว่าหากพรรครวมไทยสร้างชาติจะเปลี่ยนตัวนายกฯเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และหากรัฐบาลไม่ตอบรับจะเป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูสมการ ณ ตอนนี้ พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย คือ 2 ใน 3 ต้องรวมตัวกันได้ถึงจะได้เสียงข้างมากเดินหน้าต่อ แต่จุดยืนของพรรคประชาชน ชัดเจนว่าเราไม่ร่วมรัฐบาล ฉะนั้น สภาพที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมา จึงเกิดสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ตนคิดว่าเป็นวิ่งที่ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น
.
.
อาจารย์ มธ. อ่านเกม ‘คลิปเสียง’ ชี้ปิดประตูเจรจาลับการทูตไทย เชื่อกัมพูชามีไพ่เด็ด 4 ใบในชั้นศาลโลก
.
นักวิชาการธรรมศาสตร์ วิเคราะห์กรณีปล่อยคลิปเสียงนายกฯ กับ “ฮุนเซน” กระทบการทำงานภายในประเทศไทย คาด “อิ๊งค์” ยกหูเองไม่ปรึกษาทีม ระบุผลพวงเหตุการณ์นี้ปิดประตูตายการเจรจาลับทางการทูต ขณะที่เกมยาว “กัมพูชา” ยังมีไพ่เด็ดอีก 4 ใบ ในชั้นศาลโลก
.
ผศ. ดร.ธนภัทร ชาตินักรบ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า การปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประเทศไทย กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดน ไทย–กัมพูชา ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กัมพูชากำลังเดินเกมส่งเรื่องข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก
.
ทั้งนี้ เนื่องจากคลิปเสียงดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นภายในของทีมประเทศไทยด้วยกันเอง เพราะมีความเป็นไปได้ว่าการยกหูโทรศัพท์ต่อสายพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน เป็นการตัดสินใจของแพทองธารโดยลำพัง ไม่ผ่านการปรึกษาจากคณะทำงานร่วม ตรงนี้สะท้อนผ่านท่าทีของ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ดูสับสนและไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงแรก
.
มากไปกว่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ยังถือเป็นการปิดตายประตูการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้นำไทยปัจจุบันและกัมพูชา เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อกันได้ถูกทำลายลงแล้ว ทั้งที่การเจรจาในทางลับถือเป็นเรื่องปกติทางการทูต เพื่อบริหารจัดการความขัดแย้งให้เข้าสู่ภาวะปกติ
.
ธนภัทรกล่าวต่อไปว่า หนึ่งในเหตุจูงใจของการปล่อยคลิปเสียง อาจมาจากความต้องการสร้างคะแนนนิยมของสมเด็จฮุน เซน เพื่อทำให้ประชาชนในกัมพูชาเห็นว่าตนอยู่ในสถานะที่เหนือกว่านายกรัฐมนตรีของไทย ทำให้นายกรัฐมนตรีไทยที่ต้องอ่อนน้อมและเป็นฝ่ายเข้าหาตน อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความขึงขัง เอาจริงเอาจัง และเด็ดขาดในการเจรจาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ มากกว่าการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีต่อผู้นำรัฐบาลไทย ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน กำลังโดนข้อครหาจากหลายฝ่ายในประเทศ
JJNY : เท้งแนะผู้นำเจรจาหลังบ้านต้องระวัง│"เท้ง"ย้ำ! "ปชน."ไม่ร่วมมือ"ภท."│มธ.อ่านเกม‘คลิปเสียง’│กห.กัมพูชาลั่นมีหลักฐาน
.
.