เท้ง เชื่อ ‘พท.-ภท.’ จับมือตลอดรอดฝั่งแน่ ชี้ กม.คอมเพล็กซ์ ไม่จำเป็นต้องเสร็จในรัฐบาลนี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5142147
.
.
เท้ง เชื่อ ‘พท.-ภท.’ จับมือตลอดรอดฝั่งแน่ เว้น ‘นายกฯอิ๊งค์’ ตัดสินใจยุบสภาฯ ขณะที่ กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ไม่จำเป็นต้องเสร็จในรบ.นี้ ชี้ หากทำความเข้าใจกับประชาชน ผ่านประชามติ ทุกคนยอมรับ ก็เดินหน้าได้
.
เมื่อวันที่ 17 เมษายน เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่านค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วุฒิสภาตั้งคณะทำงานศึกษาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยใช้เวลา 180 วัน ในส่วนของส.ส.คิดว่าควรต้องรอผลการศึกษาของวุฒิสภาก่อนหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าเรื่องระยะเวลาคงไม่มีตัวเลขเฉพาะเจาะจง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้สังคมตกผลึกในเรื่องนี้กับการลงรายละเอียดและศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมถึงความชัดเจนในมาตรการการฟอกเงินและการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น และถ้าเรื่องต่างๆ เหล่านี้มีความชัดเจนและสังคมให้การยอมรับมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต่อต้านในเรื่องนี้ เนื่องจากมีการทำความเข้าใจอย่างเพียงพอแล้ว ตนคิดว่าจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่รัฐบาลจะมีความชอบธรรมในการเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ แต่สิ่งที่ขาดความชอบธรรมในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่อาจจะมีความเร่งรีบในการดำเนินการเรื่องนี้มากเกินไป
.
เมื่อถามย้ำว่า จำเป็นต้องรอการศึกษาจากวุฒิสภาหรือไม่ ในเมื่อทางสภาผู้แทนราษฎรก็ศึกษามาแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ยังลงรายละเอียดไม่มากเพียงพอ และใช้ระยะเวลาในการศึกษาน้อยเกินไป ดังนั้นการศึกษาของวุฒิสภาก็เป็นส่วนหนึ่งที่มาช่วยประกอบมากกว่า ซึ่งตนคิดว่าสิ่งสำคัญในเรื่องนี้นอกจากวุฒิสภาแล้วคือการทำความเข้าใจในสังคม
.
เมื่อถามว่า คิดว่าผลการศึกษาแค่ไหนที่เห็นว่าจะเป็นเกณฑ์สามารถนำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ มาพิจารณาต่อได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคำถามหลายคำถามก็เป็นสิ่งที่ประชาชนกำลังตั้งคำถามอยู่ ถ้ารัฐบาลสามารถตอบความชัดเจนในเรื่องเหล่านั้นได้ทั้งหมด ก็น่าจะสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ต่อ รวมถึงข้อเสนอของภาคประชาชนที่เสนอเข้ามาคือเรื่องการทำประชามติ ตนคิดว่าไม่ใช่กฎหมายทุกเรื่องจะต้องทำประชามติก่อนเสนอเข้าสภาฯ แต่อย่างน้อยการทำประชามติก็จะเป็นเวทีในการเปิดพื้นที่รณรงค์ ทำความเข้าใจ ก่อนที่จะนำไปสู่คำถามในการทำประชามติ ซึ่งจังหวะที่เหมาะที่สุดเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ เช่น อาจจะทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็เป็นไปได้ เพราะเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วน
.
“ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่กฎหมายฉบับนี้จะต้องผ่านในรัฐบาลชุดนี้ หรือรัฐบาลชุดหน้า ถ้าเราไม่ได้มองในเรื่องผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจรัฐเป็นหลัก ถ้าเรามองเรื่องของการแก้ไขปัญหาในสังคมเป็นหลัก การเปิดพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทำความเข้าใจเต็มที่ ก่อนที่จะมีการออกเสียงประชามติซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งและมีความเป็นไปได้ที่ผมคิดว่าจะเป็นทางออกของสังคมที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
ต่อข้อถามว่ามองท่าทีอย่างไรระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาพูดแล้วว่าอาจจะเป็นความคิดเห็นของนายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แต่เรื่องนี้ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องไตร่ตรองดูให้ดีก่อนที่จะเร่งผลักดันอะไร เพราะเห็นได้ชัดว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็อาจจะไม่เห็นด้วยกับความรีบเร่งในการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว เรื่องนี้จึงกลับมาที่จุดยืนเดิมคือการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมให้เป็นที่ยอมรับมากที่สุดก่อน
.
เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นเช่นนี้มองว่าพรรคภูมิใจไทยกับเพื่อไทย ยังไปด้วยกันตลอดรอดฝังหรือไม่ เพราะสภาฯยังเหลือเวลาอีก 2 ปี ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ถ้าดูจากสมการทางการเมืองปัจจุบัน จำนวนส.ส.ของแต่ละพรรคก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอย่างไรทางพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ก็ยังจำเป็นต้องไปต่อด้วยกัน เว้นแต่ว่าอาจจะมีการตัดสินใจจากพรรคเพื่อไทย คือนายกฯในการยุบสภาฯ ซึ่งตนอาจจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะอำนาจอยู่ที่ตัวนายกฯเพียงผู้เดียว
.
.
เท้ง ไม่อยากให้ไทยเลือกข้าง จีนหรือสหรัฐ ก็ได้รับผลกระทบทั้งคู่ แนะระวังท่าที คุย มิน อ่อง ลาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5142111
.
เท้ง ไม่อยากให้ไทยเลือกข้าง จีนหรือสหรัฐ ก็ได้รับผลกระทบทั้งคู่ แนะระวังท่าที คุย มิน อ่อง ลาย
.
วันที่ 17 เมษายน เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามดึงอาเซียนร่วมเจรจากับสหรัฐเรื่องกำแพงภาษีว่า ทุกการเจรจา อยากให้กำลังใจรัฐบาลในการเจรจาทุกรอบ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญการเจรจาขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของนายกฯเป็นหลัก
.
เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันนี้ (17 เม.ย.) จะใช้โอกาสนี้ผนึกกำลังในการเจรจาอย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ทิศทางใหญ่ๆ ตนคิดว่าเห็นตรงกัน จากทั้งตน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะรับตำแหน่งด้วยซ้ำ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างอำนาจต่อรอง การร่วมมือกันในภูมิภาค เช่น เวทีอาเซียน และสิ่งสำคัญ คือ รายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร
.
เมื่อถามย้ำว่า มองว่านายกฯมาถูกทางแล้วใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนคิดว่าหลักๆ คือ รายละเอียดที่จะพูดคุย ขอย้ำว่าการพูดคุยเรื่องความเป็นประชาธิปไตย และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของเมียนมาก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นในเวทีสากล ซึ่งในเวทีระดับนานาชาติ เราไม่อยากให้เลือกข้างใดข้างหนึ่ง ไม่ว่าจีนหรือสหรัฐ เราก็ได้รับผลกระทบ ดังนั้นถ้าเรายึดหลักความเป็นประชาธิปไตย ยึดหลักสร้างความร่วมมือในอาเซียน จะทำให้เรามีอำนาจต่อรองมากขึ้นในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ
.
ส่วนการที่วันนี้ (17 เม.ย.) นายกฯจะพบกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและหัวหน้ารัฐบาลทหารเมียนมา จะเกิดผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลก็ต้องระมัดระวังท่าที เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าท่าทีของไทยที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การที่เราจะเจรจากับมิน อ่อง ลาย ซึ่งเป็นรัฐบาลทหารเมียนมา ก็จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ตนอาจจะให้ความเห็นอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่ทราบรายละเอียด แต่ในหลักการเมื่อได้คุยกันก็ต้องหนีไม่พ้นที่จะได้พูดคุยถึงการฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา
.
.
”ณัฐพงษ์“ มั่นใจลต.ซ่อม เมืองคอน “ปชน.” มีหวัง เหตุพรรคร่วมรบ.ส่งชิงตัดคะแนนกันเอง เผยสิ้นเดือน เม.ย.เตรียมประชุมใหญ่
https://siamrath.co.th/n/615593
.
วันที่ 17 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราชว่า ได้ลงพื้นที่หาเสียงล่วงหน้าแล้ว ขณะเดียวกันในเวทีหาเสียงเลือกตั้งระดับเทศบาลยังมีอีกหลายที่ที่ต้องลงพื้นที่หาเสียง จึงยังไม่สามารถบอกตารางหาเสียงได้ชัดเจน แต่เชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่พรรคประชาชนมีโอกาสมาก ซึ่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า และน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน รวมถึงนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหน้าพรรคประชาชน ก็ลงพื้นที่หาเสียงแล้ว พบว่ามีกระแสตอบรับค่อนข้างดี
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่ลงแข่งขัน ก็ตัดคะแนนกันเองหลายพรรค มีผู้สมัครแข่งกันเอง 6 คน แต่ในมุมฝ่ายค้านหากประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช มองว่าต้องการอีก 1 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร ในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาล เชื่อว่าพรรคประชาชนเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เด่นชัดที่สุด มั่นใจว่ายังมีหวังทุกสนามเลือกตั้ง
.
“การทำงาน สส.ในช่วงปิดสมัยประชุมพรรคไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเปิดหรือปิดสมัยประชุม สส.ของพรรคก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว และมีเวลาทำงานในพื้นที่ได้มากขึ้น ในการเข้าหาประชาชน เพื่อรับฟังเสียงสะท้อน นำเข้าสู่กลไกแก้ไขปัญหาในสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมหน้า และในช่วงปลายเดือนเม.ย.พรรคจะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีประเด็นที่เราเตรียมหารือร่วมกัน โดยเฉพาะโจทย์ปัญหาสำคัญของประเทศ คือเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ระบบราชการ และน่าจะมีบทสรุปที่ชัดเจนมากขึ้นในเรื่องเปิดนโยบายและทิศทางเศรษฐกิจของพรรคประชาชน”นายณัฐพงษ์ กล่าว
JJNY : เท้งเชื่อ‘พท.-ภท.’จับมือ│เท้งไม่อยากให้ไทยเลือกข้าง│”ณัฐพงษ์“มั่นใจ“ปชน.” มีหวัง│WTO เตือนการค้าโลกอาจทรุดหนัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5142147
.
.
เท้ง ไม่อยากให้ไทยเลือกข้าง จีนหรือสหรัฐ ก็ได้รับผลกระทบทั้งคู่ แนะระวังท่าที คุย มิน อ่อง ลาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5142111
.
.
.