เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. แหล่งข่าวจากแพทยสภาแจ้งว่า ในการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ล็อตที่ 2 ซึ่งจะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ราย ที่ได้จากการขยายผลจากการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ ที่ถูกร้องเรียน ในล็อตแรก โดยกระบวนการจากนี้จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แล้วมาดำเนินกานผ่าน 7 ขั้นตอนเหมือนเดิม ซึ่งจะมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ก.ค.นี้ ในส่วนของการตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ นั้น สามารถตั้งรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นอนุกรรมการใหม่ได้ แต่อย่างน้อยจะต้องมีส่วนที่สามารถเชื่อมโยงกับชุดเดิมได้ เพื่อให้พิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกันไม่เกิดความสะดุด
7 ขั้นตอนการสอบสวนของแพทยสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลโดยเทียบเคียงกับ การตรวจสอบจริยธรรม แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง การส่งต่อและรักษาตัวในทักษิณ ชินวัตร ล็อตแรก ดำเนินการ 7 ขั้นตอนดังนี้
.
ขั้นที่ 1 คณะอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา ซึ่งมีกรอบเวลาในการทำงาน 4 เดือน ขยายเวลาได้ 2 เดือน จากนั้นจะนำมติเข้าสู่
ขั้นที่ 2 อนุกรรมการกลั่นกรอง ให้ความเห็นเพิ่มเติมประกอบในสำเนา มีกรอบเวลาทำงาน 1-2 เดือน จากนั้นก็จะส่งมายัง
ขั้นที่ 3 คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ที่มีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง โดยขั้นตอนนี้มีกรอบเวลา 1-2 เดือนในการพิจารณาว่าคดีที่ถูกร้องมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็จะจบไป แต่ถ้ามีมูลก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติมใน
ขั้นที่ 4 อนุกรรมการสอบสวนพิจารณาคดีต่อ กรอบเวลา 180 วันหรือ 6 เดือน ให้มีมติว่ามีการ “ยกข้อกล่าวหา” หรือ “ผู้ถูกร้องมีความผิด”
จากนั้นจะเข้าสู่
ขั้นที่ 5 อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศ ให้ความเห็นต่อคดี เพื่อทำสำนวน ส่งมา
ขั้นที่ 6 คณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษอย่างไร หรือต้องมีการยกข้อกล่าวหาไป และ
ขั้นที่ 7 เสนอต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งถ้ามีการพิจารณาโต้แย้ง ก็จะต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็นถ้า 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิมก็จะมีการยื่นต่อศาลปกครองต่อไป แต่ถ้าเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ก็จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ
https://www.hfocus.org/content/2025/06/34482
สืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ ที่ถูกร้องเรียน ในล็อตแรก นับหนึ่งใหม่ | แพทย์ฟ้องศาลปกครองสูงสุดแล้ว
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. แหล่งข่าวจากแพทยสภาแจ้งว่า ในการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ล็อตที่ 2 ซึ่งจะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ราย ที่ได้จากการขยายผลจากการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ ที่ถูกร้องเรียน ในล็อตแรก โดยกระบวนการจากนี้จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แล้วมาดำเนินกานผ่าน 7 ขั้นตอนเหมือนเดิม ซึ่งจะมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ก.ค.นี้ ในส่วนของการตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ นั้น สามารถตั้งรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นอนุกรรมการใหม่ได้ แต่อย่างน้อยจะต้องมีส่วนที่สามารถเชื่อมโยงกับชุดเดิมได้ เพื่อให้พิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกันไม่เกิดความสะดุด
.
ขั้นที่ 1 คณะอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา ซึ่งมีกรอบเวลาในการทำงาน 4 เดือน ขยายเวลาได้ 2 เดือน จากนั้นจะนำมติเข้าสู่
ขั้นที่ 2 อนุกรรมการกลั่นกรอง ให้ความเห็นเพิ่มเติมประกอบในสำเนา มีกรอบเวลาทำงาน 1-2 เดือน จากนั้นก็จะส่งมายัง
ขั้นที่ 3 คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ที่มีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง โดยขั้นตอนนี้มีกรอบเวลา 1-2 เดือนในการพิจารณาว่าคดีที่ถูกร้องมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็จะจบไป แต่ถ้ามีมูลก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติมใน
ขั้นที่ 4 อนุกรรมการสอบสวนพิจารณาคดีต่อ กรอบเวลา 180 วันหรือ 6 เดือน ให้มีมติว่ามีการ “ยกข้อกล่าวหา” หรือ “ผู้ถูกร้องมีความผิด”
ขั้นที่ 5 อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศ ให้ความเห็นต่อคดี เพื่อทำสำนวน ส่งมา
ขั้นที่ 6 คณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษอย่างไร หรือต้องมีการยกข้อกล่าวหาไป และ
ขั้นที่ 7 เสนอต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งถ้ามีการพิจารณาโต้แย้ง ก็จะต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็นถ้า 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิมก็จะมีการยื่นต่อศาลปกครองต่อไป แต่ถ้าเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ก็จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ
https://www.hfocus.org/content/2025/06/34482