ราคาอาหารจานด่วน 13 ปี คนเมืองจ่ายแพงขึ้น 106.5%
.
.
AREA เปิดรายงานผลสำรวจ ราคาอาหารจานด่วนย่านสีลม-สุรวงศ์ 13 ปี คนเมืองจ่ายแพงขึ้น 106.5% ปัจจัยค่าเช่าที่แพง
.
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย AREA รายงานผลสำรวจ การเปลี่ยนแปลงราคาอาหาร พ.ศ.2555-2568 การสำรวจนี้ดำเนินการเฉพาะในพื้นที่สีลม-สุรวงศ์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจหรือ Central Business District (CBD) ของประเทศไทย และมีคนทำงานในสำนักงานเป็นจำนวนมาก
.
ทั้งนี้โดยมีสมมติฐานว่าราคาอาหารในย่านนี้น่าจะเป็นราคามาตรฐานเพราะเป็นในใจกลางเมือง ในบริเวณอื่นน่าจะถูกกว่านี้ ยกเว้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปท่องเที่ยวเป็นครั้งคราว การสำรวจพื้นที่สีลม จึงถือเป็นตัวแทนสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยโดยรวม
.
โดยสรุปพบว่าราคาอาหารเฉลี่ย เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นดังนี้
.
พ.ค. 55 ราคาเฉลี่ย 31 บาท
.
พ.ค. 56 ราคาเฉลี่ย 31.8 บาท
.
พ.ค. 57 ราคาเฉลี่ย 34.3 บาท
.
พ.ย. 57 ราคาเฉลี่ย 36.1 บาท
.
พ.ค. 58 ราคาเฉลี่ย 38.4 บาท
.
พ.ย. 58 ราคาเฉลี่ย 40 บาท
.
พ.ค. 59 ราคาเฉลี่ย 41.7 บาท
.
พ.ย. 59 ราคาเฉลี่ย 43.1 บาท
.
พ.ค. 60 ราคาเฉลี่ย 45.7 บาท
.
พ.ย. 60 ราคาเฉลี่ย 47.1 บาท
.
พ.ค. 61 ราคาเฉลี่ย 48.1 บาท
.
พ.ย. 61 ราคาเฉลี่ย 49 บาท
.
พ.ค. 62 ราคาเฉลี่ย 50.2 บาท
.
พ.ค. 63 ราคาเฉลี่ย 51.4 บาท
.
มิ.ย. 64 ราคาเฉลี่ย 53.5 บาท
.
พ.ค. 65 ราคาเฉลี่ย 57 บาท
.
พ.ค. 67 ราคาเฉลี่ย 62.8 บาท
.
มิ.ย. 68 ราคาเฉลี่ย 64 บาท
.
เมื่อประเมินจากภาพรวมสะสม 13 ปี (พฤษภาคม 2555 – มิถุนายน 2568) ราคาเพิ่มจาก 31.0 บาท เป็น 64.0 บาท หรือเพิ่มขึ้น 106.5% และหากคิดเป็นการเพิ่มขึ้นต่อปี ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นประมาณ 5.7% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร เพราะสูงกว่าอัตราภาวะเงินเฟ้อ ราคาอาหาร ณ เดือนพฤษภาคม 2566 หรือเป็นเวลา 9 ปีหลังรัฐประหารเมื่อพฤษภาคม 2557 เพิ่มขึ้น 77% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 6.6% ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมาก หากเทียบกับก่อนรัฐประหารในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555-2557 ปรากฏว่าราคาอาหารเพิ่มขึ้นเพียง 10.7% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 5.2% ต่ำกว่าช่วงหลังรัฐประหาร ดังนั้นในยุคก่อนรัฐประหาร ราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าช่วงหลังรัฐประหารอย่างชัดเจน ส่วนในปีของรัฐบาลเศรษฐาเพิ่มขึ้น 3.3%
.
มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า อาจมีบางบริเวณ เช่น เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองอุตสาหกรรมที่มีการปรับเพิ่มของราคาขายมากกว่านี้ หรือสำหรับรายการอาหารแบบฟาสต์ฟูด ก็อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่ได้มีการควบคุม แต่สำหรับประชาชนกันเอง ย่อมมีความเห็นใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามสมควร จึงทำให้แทบไม่มีการปรับราคาขาย แต่ระยะหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ทำให้การเพิ่มราคาอาหารเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
.
ในกรณีนี้บางท่านอาจตั้งข้อสังเกตว่า แม้ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณอาจจะลดน้อยลง แต่จากการสังเกตก็พบว่า ปริมาณก็อาจลดลงบ้าง อย่างไรก็ตามก็ยังอาจมีบางท่านให้ข้อสังเกตว่า แม้บางร้านปริมาณจะคงเดิม แต่คุณภาพก็อาจลดลง แต่ข้อนี้ ผู้สำรวจคงไม่สามารถไปตรวจสอบในรายละเอียดในระดับนั้น และคงอยู่ที่วิจารณญาณของทุกท่านที่พิจารณาผลการสำรวจนี้ ผู้ค้าบางรายกล่าวว่า ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารได้เพราะคนซื้อไม่มีกำลังซื้อเท่าที่ควร ทั้งที่วัตถุดิบในการทำอาหารเพิ่มขึ้นก็ตาม จะสังเกตได้ว่าร้านที่ยังพยายามยืนราคาอาหารไว้ หรือไม่ขึ้นราคา จะมีผู้เข้าคิวอุดหนุนมากเป็นพิเศษ
.
จากการสัมภาษณ์ผู้ค้าพบว่า สิ่งที่ส่งผลที่เด่นชัดกว่าก็คือ ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกเพื่อการขายอาหาร หากค่าเช่าแพงขึ้นมาก ก็จะทำให้ราคาอาหารเพิ่มมากขึ้น บางแห่งเช่าพื้นที่ขนาดประมาณ 18 ตารางเมตร เป็นเงินถึง 60,000 บาทต่อเดือน (ตรม.ละ 3,333 บาท) ดังนั้นรัฐบาลหรือกรุงเทพมหานคร อาจช่วยจัดหาพื้นที่ค้าขายในราคาถูก เพื่อให้ผู้ค้าสามารถยืนหยัดขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ประชาชน
.
และด้วยเหตุที่ค่าเช่าพื้นที่ขายแพง ก็เลยมีร้านอาหารประเภท “อาหารกล่อง” คือให้ผู้ซื้อๆ กลับไปรับประทานที่อื่น จึงประหยัดค่าเช่าได้มาก ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ และตามศูนย์อาหารต่างๆ ก็พบว่า ร้านค้าหลายแห่งหายไป บางแห่งปิดร้านไปตั้งแต่ช่วงโควิดเมื่อ 1-2 ปีก่อน (2563-2564) อย่างไรก็ตามร้านค้าที่ปิดไปส่วนมาก เพิ่งปิดในช่วงปี 2564-2565 นี้เอง ในการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ร้านค้าบางแห่งก็ยังซบเซาอยู่
.
สำหรับราคาอาหารในปี 2568-2569 น่าจะยังค่อนข้างทรงตัวเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองกันทั่วหน้า หากขึ้นราคาสินค้าอาหารอีก ก็คงยิ่งขายยาก ราคาอาหารจึงน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2% เช่นกัน
.
.
จับตา แพทยสภา สอบสวนจริยธรรมหมอ ล็อต 2 คดีชั้น 14 คาดไม่น้อยกว่า 5 ราย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9815931
.
จับตา แพทยสภา สอบสวนจริยธรรมหมอ ล็อต 2 คดีชั้น 14 คาดไม่น้อยกว่า 5 ราย เรียกประชุมคณะกรรมการ ก.ค.นี้ ชี้ปล่อยผ่านไม่ได้
.
วันที่ 22 มิ.ย. 2568 แหล่งข่าวจากแพทยสภา เปิดเผยว่า ในการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ นั้น ในล็อตที่ 2 จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ราย ที่ได้จากการขยายผลจากการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ถูกร้องเรียนในล็อตแรก
.
โดยกระบวนการจากนี้ จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แล้วมาดำเนินการผ่าน 7 ขั้นตอนเหมือนเดิม ทั้งนี้ จะมีการหารือลงในรายละเอียดกันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ก.ค.นี้
.
ในส่วนของการตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ นั้น สามารถตั้งรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นอนุกรรมการใหม่ได้ แต่อย่างน้อยจะต้องมีส่วนที่สามารถเชื่อมโยงกับชุดเดิมได้ เพื่อให้พิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกันไม่เกิดความสะดุด
.
แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าการพิจารณาจริยธรรมแพทย์ในล็อตที่ 2 นี้ อาจจะใช้เวลานานขึ้น แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เพราะเรื่องใหญ่ได้ผ่านไปแล้ว แต่การสอบจริยธรรมแพทย์ล็อตที่ 2 นี้ เนื่องจากเป็นการสืบสวนสอบสวนได้จากล็อตแรก ทางแพทยสภาจึงเห็นว่า เมื่อมีความเกี่ยวข้อง จึงไม่อาจปล่อยผ่าน เห็นควรว่าจะต้องนำมาสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อสรุป
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลโดยเทียบเคียงกับการตรวจสอบจริยธรรม แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการส่งต่อและรักษาตัวนาย
ทักษิณ ชินวัตร ล็อตแรก ดำเนินการ 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 คณะอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา ซึ่งมีกรอบเวลาในการทำงาน 4 เดือน ขยายเวลาได้ 2 เดือน
.
จากนั้นจะนำมติเข้าสู่ ขั้นที่ 2 อนุกรรมการกลั่นกรอง ให้ความเห็นเพิ่มเติมประกอบในสำเนา มีกรอบเวลาทำงาน 1-2 เดือน แล้วส่งมายังขั้นที่ 3 คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ที่มีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง โดยขั้นตอนนี้มีกรอบเวลา 1-2 เดือน ในการพิจารณาว่าคดีที่ถูกร้องมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็จะจบไป
.
แต่ถ้ามีมูลก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติมในขั้นที่ 4 อนุกรรมการสอบสวนพิจารณาคดีต่อ กรอบเวลา 180 วันหรือ 6 เดือน ให้มีมติว่ามีการ “
ยกข้อกล่าวหา” หรือ “
ผู้ถูกร้องมีความผิด”
.
จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นที่ 5 อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศ ให้ความเห็นต่อคดี เพื่อทำสำนวน ส่งไปขั้นที่ 6 คณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษอย่างไร หรือต้องมีการยกข้อกล่าวหาไป
.
และ ขั้นที่ 7 เสนอต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งถ้ามีการพิจารณาโต้แย้ง ก็จะต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็นถ้า 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม ผู้ถูกดำเนินการก็จะมีการยื่นต่อศาลปกครองต่อไป แต่ถ้าเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ก็จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ
.
.
องค์การนักศึกษา ม.ราม เรียกร้อง นายกลาออก นัดรวมพลใหญ่ทุกมหา’ลัย 28 มิ.ย. อนุสาวรีย์ชัยฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5241997
.
องค์การนักศึกษา ม.ราม เรียกร้อง นายกลาออก นัดรวมพลใหญ่ทุกมหา’ลัย 28 มิ.ย. อนุสาวรีย์ชัยฯ
.
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นายศิริมงคล อินทร์แก้ว นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ออกแถลงการณ์องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรื่อง ขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง
.
พร้อมนัดรวมพลนักศึกษาทั่วประทศ 28 มิถุนายน 2568 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
.
นายศิริมงคล กล่าวว่า องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในนามของเยาวชนและนักศึกษาผู้ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ขอออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อสถานการณ์ บ้านเมืองในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนถึงภาวะวิกฤตทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่กำลังสร้างความเสียหาย อย่างรุนแรงต่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวมภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบัน นำโดยนายกรัฐมนตรี ได้เกิดปัญหาหลากหลายที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น
.
1. ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่ภาวะค่าครองชีพสูง รายได้ลดลง หนี้สินครัวเรือนพุ่งสูง และ โอกาสทางเศรษฐกิจที่ไม่กระจายตัว
2. การบริหารจัดการปัญหาในพื้นที่ชายแดนและประเด็นความมั่นคง ที่ขาดความชัดเจน
3. กรณีมีการเผยแพร่ คลิปเสียงที่ถูกกล่าวอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งกำลังเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยอย่างกว้างขวาง และมีนัยยะสำคัญต่อจริยธรรมของผู้นำประเทศ
.
จากเหตุผลข้างต้นองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เห็นว่า นายกรัฐมนตรีได้หมดความชอบ ธรรมในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เราขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่งโดยทันที
.
และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีความรับผิดชอบโดยตรงในฐานะผู้ร่วมบริหารประเทศ หาก ยังคงดำรงอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ ย่อมเท่ากับการสมยอมต่อความผิดพลาด และละเลยต่อเสียงเรียกร้องของประชาชน ที่กำลังเสื่อมศรัทธาอย่างรุนแรง
.
เราจึงขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาถอนตัวออกจากการร่วมบริหาร ประเทศในทันที เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อหลักจริยธรรมและความรับผิดชอบทางการเมืองเพื่อเปิดทางให้มี การจัดตั้งรัฐบาลที่ยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง และสามารถฟื้นฟูศรัทธา ความมั่นคง และความยุติธรรมในสังคมไทยได้
พร้อมกันนี้ เราย้ำว่า เสียงของประชาชนคือรากฐานของประชาธิปไตย การรับฟัง การเคารพ และการ ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชน คือหน้าที่ของผู้นำที่แท้จริง
.
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จะยังคงยืนหยัดเคียงข้างประชาชนและเดินหน้าผลักดันการ เปลี่ยนแปลงอย่างสันติ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศ
.
“ด้วยจิตสำนึกต่อหน้าที่และความรับผิดชอบต่อสังคม จึงขอเชิญและเรียกร้องให้ บัณฑิตรามคำแหงทุกท่าน และทุกมหาวิทยาลัย ร่วมกันเรียกร้องขับเคลื่อน กับ ม็อบใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันที่ 28 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา16.00 น.เป็นต้นไป” นายศิริมงคล กล่าว
JJNY : 5in1 จานด่วน 13ปี จ่ายแพงขึ้น│จับตาแพทยสภา│อ.นศ.ม.รามร้องลาออก│ชาวบ้านร่วมใจช่วยสร้างหลุมหลบภัย│กัมพูชาประท้วงไทย
.
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย AREA รายงานผลสำรวจ การเปลี่ยนแปลงราคาอาหาร พ.ศ.2555-2568 การสำรวจนี้ดำเนินการเฉพาะในพื้นที่สีลม-สุรวงศ์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจหรือ Central Business District (CBD) ของประเทศไทย และมีคนทำงานในสำนักงานเป็นจำนวนมาก
.
ทั้งนี้โดยมีสมมติฐานว่าราคาอาหารในย่านนี้น่าจะเป็นราคามาตรฐานเพราะเป็นในใจกลางเมือง ในบริเวณอื่นน่าจะถูกกว่านี้ ยกเว้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปท่องเที่ยวเป็นครั้งคราว การสำรวจพื้นที่สีลม จึงถือเป็นตัวแทนสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยโดยรวม
.
โดยสรุปพบว่าราคาอาหารเฉลี่ย เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นดังนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เมื่อประเมินจากภาพรวมสะสม 13 ปี (พฤษภาคม 2555 – มิถุนายน 2568) ราคาเพิ่มจาก 31.0 บาท เป็น 64.0 บาท หรือเพิ่มขึ้น 106.5% และหากคิดเป็นการเพิ่มขึ้นต่อปี ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นประมาณ 5.7% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร เพราะสูงกว่าอัตราภาวะเงินเฟ้อ ราคาอาหาร ณ เดือนพฤษภาคม 2566 หรือเป็นเวลา 9 ปีหลังรัฐประหารเมื่อพฤษภาคม 2557 เพิ่มขึ้น 77% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 6.6% ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมาก หากเทียบกับก่อนรัฐประหารในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555-2557 ปรากฏว่าราคาอาหารเพิ่มขึ้นเพียง 10.7% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 5.2% ต่ำกว่าช่วงหลังรัฐประหาร ดังนั้นในยุคก่อนรัฐประหาร ราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าช่วงหลังรัฐประหารอย่างชัดเจน ส่วนในปีของรัฐบาลเศรษฐาเพิ่มขึ้น 3.3%
.
มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า อาจมีบางบริเวณ เช่น เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองอุตสาหกรรมที่มีการปรับเพิ่มของราคาขายมากกว่านี้ หรือสำหรับรายการอาหารแบบฟาสต์ฟูด ก็อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่ได้มีการควบคุม แต่สำหรับประชาชนกันเอง ย่อมมีความเห็นใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามสมควร จึงทำให้แทบไม่มีการปรับราคาขาย แต่ระยะหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ทำให้การเพิ่มราคาอาหารเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
.
ในกรณีนี้บางท่านอาจตั้งข้อสังเกตว่า แม้ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณอาจจะลดน้อยลง แต่จากการสังเกตก็พบว่า ปริมาณก็อาจลดลงบ้าง อย่างไรก็ตามก็ยังอาจมีบางท่านให้ข้อสังเกตว่า แม้บางร้านปริมาณจะคงเดิม แต่คุณภาพก็อาจลดลง แต่ข้อนี้ ผู้สำรวจคงไม่สามารถไปตรวจสอบในรายละเอียดในระดับนั้น และคงอยู่ที่วิจารณญาณของทุกท่านที่พิจารณาผลการสำรวจนี้ ผู้ค้าบางรายกล่าวว่า ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารได้เพราะคนซื้อไม่มีกำลังซื้อเท่าที่ควร ทั้งที่วัตถุดิบในการทำอาหารเพิ่มขึ้นก็ตาม จะสังเกตได้ว่าร้านที่ยังพยายามยืนราคาอาหารไว้ หรือไม่ขึ้นราคา จะมีผู้เข้าคิวอุดหนุนมากเป็นพิเศษ
.
จากการสัมภาษณ์ผู้ค้าพบว่า สิ่งที่ส่งผลที่เด่นชัดกว่าก็คือ ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกเพื่อการขายอาหาร หากค่าเช่าแพงขึ้นมาก ก็จะทำให้ราคาอาหารเพิ่มมากขึ้น บางแห่งเช่าพื้นที่ขนาดประมาณ 18 ตารางเมตร เป็นเงินถึง 60,000 บาทต่อเดือน (ตรม.ละ 3,333 บาท) ดังนั้นรัฐบาลหรือกรุงเทพมหานคร อาจช่วยจัดหาพื้นที่ค้าขายในราคาถูก เพื่อให้ผู้ค้าสามารถยืนหยัดขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ประชาชน
.
และด้วยเหตุที่ค่าเช่าพื้นที่ขายแพง ก็เลยมีร้านอาหารประเภท “อาหารกล่อง” คือให้ผู้ซื้อๆ กลับไปรับประทานที่อื่น จึงประหยัดค่าเช่าได้มาก ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ และตามศูนย์อาหารต่างๆ ก็พบว่า ร้านค้าหลายแห่งหายไป บางแห่งปิดร้านไปตั้งแต่ช่วงโควิดเมื่อ 1-2 ปีก่อน (2563-2564) อย่างไรก็ตามร้านค้าที่ปิดไปส่วนมาก เพิ่งปิดในช่วงปี 2564-2565 นี้เอง ในการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ร้านค้าบางแห่งก็ยังซบเซาอยู่
.
สำหรับราคาอาหารในปี 2568-2569 น่าจะยังค่อนข้างทรงตัวเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองกันทั่วหน้า หากขึ้นราคาสินค้าอาหารอีก ก็คงยิ่งขายยาก ราคาอาหารจึงน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2% เช่นกัน
.
จับตา แพทยสภา สอบสวนจริยธรรมหมอ ล็อต 2 คดีชั้น 14 คาดไม่น้อยกว่า 5 ราย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9815931
.
จับตา แพทยสภา สอบสวนจริยธรรมหมอ ล็อต 2 คดีชั้น 14 คาดไม่น้อยกว่า 5 ราย เรียกประชุมคณะกรรมการ ก.ค.นี้ ชี้ปล่อยผ่านไม่ได้
.
วันที่ 22 มิ.ย. 2568 แหล่งข่าวจากแพทยสภา เปิดเผยว่า ในการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ นั้น ในล็อตที่ 2 จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ราย ที่ได้จากการขยายผลจากการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ถูกร้องเรียนในล็อตแรก
.
โดยกระบวนการจากนี้ จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แล้วมาดำเนินการผ่าน 7 ขั้นตอนเหมือนเดิม ทั้งนี้ จะมีการหารือลงในรายละเอียดกันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ก.ค.นี้
.
ในส่วนของการตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ นั้น สามารถตั้งรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นอนุกรรมการใหม่ได้ แต่อย่างน้อยจะต้องมีส่วนที่สามารถเชื่อมโยงกับชุดเดิมได้ เพื่อให้พิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกันไม่เกิดความสะดุด
.
แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าการพิจารณาจริยธรรมแพทย์ในล็อตที่ 2 นี้ อาจจะใช้เวลานานขึ้น แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เพราะเรื่องใหญ่ได้ผ่านไปแล้ว แต่การสอบจริยธรรมแพทย์ล็อตที่ 2 นี้ เนื่องจากเป็นการสืบสวนสอบสวนได้จากล็อตแรก ทางแพทยสภาจึงเห็นว่า เมื่อมีความเกี่ยวข้อง จึงไม่อาจปล่อยผ่าน เห็นควรว่าจะต้องนำมาสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อสรุป
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลโดยเทียบเคียงกับการตรวจสอบจริยธรรม แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการส่งต่อและรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร ล็อตแรก ดำเนินการ 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 คณะอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา ซึ่งมีกรอบเวลาในการทำงาน 4 เดือน ขยายเวลาได้ 2 เดือน
.
จากนั้นจะนำมติเข้าสู่ ขั้นที่ 2 อนุกรรมการกลั่นกรอง ให้ความเห็นเพิ่มเติมประกอบในสำเนา มีกรอบเวลาทำงาน 1-2 เดือน แล้วส่งมายังขั้นที่ 3 คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ที่มีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง โดยขั้นตอนนี้มีกรอบเวลา 1-2 เดือน ในการพิจารณาว่าคดีที่ถูกร้องมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็จะจบไป
.
แต่ถ้ามีมูลก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติมในขั้นที่ 4 อนุกรรมการสอบสวนพิจารณาคดีต่อ กรอบเวลา 180 วันหรือ 6 เดือน ให้มีมติว่ามีการ “ยกข้อกล่าวหา” หรือ “ผู้ถูกร้องมีความผิด”
.
จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นที่ 5 อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศ ให้ความเห็นต่อคดี เพื่อทำสำนวน ส่งไปขั้นที่ 6 คณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษอย่างไร หรือต้องมีการยกข้อกล่าวหาไป
.
และ ขั้นที่ 7 เสนอต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งถ้ามีการพิจารณาโต้แย้ง ก็จะต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็นถ้า 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม ผู้ถูกดำเนินการก็จะมีการยื่นต่อศาลปกครองต่อไป แต่ถ้าเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ก็จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ
.
.
องค์การนักศึกษา ม.ราม เรียกร้อง นายกลาออก นัดรวมพลใหญ่ทุกมหา’ลัย 28 มิ.ย. อนุสาวรีย์ชัยฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5241997
.
พร้อมนัดรวมพลนักศึกษาทั่วประทศ 28 มิถุนายน 2568 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ