[CR] [พาแม่ไปเที่ยวแถว Kansai กันเถอะ] Day 5 - Chill & Shop @ Shinsaibashi & Dotonburi

=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=

(: เผลอแปบเดียว ทริปของเราก็ผ่านไปครึ่งทางแล้ว เค้าถึงบอกกันนะครับว่า เวลาเรามีความสุขเวลาจะผ่านไปเร็วมากๆ

เช้านี้เราเติมพลังกันก่อนด้วยอาหารเช้าของโรงแรม ทุกเช้าอาหารจะเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ดีเลยครับสำหรับแขกที่พักที่นี้หลายวัน จำได้ว่าตอนนอนที่สาขาในโตเกียว อาหารเช้าเหมือนเดิมทุกวัน

(: บรรยากาศเช้าวันจันทร์จากย่านนัมบะครับ ระหว่างที่เรากำลังจะเดินไปศาลเจ้า Hozenji ซึ่งอยุู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก เดินประมาณ 10 นาทีก็ถึง

(: ความแปลกตาและดึงดูดของวัดนี้ก็คือ พระพุทธรูปที่วัด Hozenji จะมีมอสขึ้นคลุมทั้งตัวพระพุทธรูปเลย เนื่องจากผู้ที่มาสักการะจะตักน้ำรดลงที่พระพุทธรูปจากความเชื่อที่ว่ากันว่าถ้าเราได้รดน้ำลงส่วนไหนของพระพุทธรูปแล้ว จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยที่ร่างกายบริเวณนั้นของเรา พวกเรามาถึงศาลเจ้า Hozenji ประมาณ 9 โมงเช้า ในวัดแทบไม่มีใครเลย สงบและเงียบมากๆ โชคดีเลยครับ จะได้ขอพรและตักน้ำรดที่พระได้ไม่ต้องเกรงใจใคร

(: บริเวณวัดถือว่าเล็กมากๆ เลยครับ และแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีวัดมาแฝงอยู่ในย่าน Shopping หรือใกล้ๆ ร้านนั่งดื่มแบบนี้ ถ้ามาตอนเย็นๆ ค่ำๆที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ คงได้อีกอารมณ์นึงเลย

(: แล้วเราก็เดินเล่นมั่วๆ ไปมาแบบไม่ดู Map จนเดินมาทะลุที่ Dotonburi ช่วงสายๆ แปดเก้าโมงเช้า ร้านค้ายังไม่เปิด ผู้คน นักท่องเที่ยวประปรายตา ใครอยากถ่ายรูปคู่กะหนุ่ม Glico Man มาเช้าๆ แบบนี้ก็น่าสนใจนะครับ เพราะเดี๋ยวอีกซักชั่วโมงสองชั่วโมง ความครึกครื้นและผู้คนก็คงจะเริ่มทยอยมากันจนแทบไม่มีที่จะเดิน

(: เราจะกลับโรงแรมกันก่อนนะครับ เนื่องจากส่วนใหญ่ร้านอาหาร ร้านค้า และห้างสรรพสินค้าที่ญี่ปุ่นจะเปิดช่วงเวลา 10 หรือ 11 โมง แต่จะเข้าโรงแรมมือเปล่าเช้านี้ก็คงไม่ฟิน เลยแวะซื้อน้ำองุ่นกะพวกเค้กไดฟูกุมาเติมน้ำตาลกัน น้ำองุ่นกลิ่นและรสชาติเบาๆแบบผู้ดีไปนิดครับ ฮ่าๆๆ อยากได้แรงๆกว่านี้อีกหน่อย

(: ได้เวลาอันสมควรแล้ว !!! วันแห่งการ SHOPPING ได้เริ่มต้นณ.บัดนี้ นี้ นี้ เดี๋ยวเราจะนั่ง Osaka Metro จากสถานี Namba ไปที่สถานี Shinsaibashi แล้วประเดิมด้วยการเดินเล่นที่ Pop Culture street @ Parco Shinsaibashi จากนั้นก็เดินไล่ดูของบนเล้น Shinsaibashi มาเรื่อยๆ จนบรรจบที่ Dotonburi โดยผมได้ Download แผนผัง Store map บนเส้น Shinsaibashi จาก Website นี้เลยครับ แล้วเอามานั่งดู นั่งวงร้านที่จะต้องเข้าแน่ๆ จะได้วางแผนการช็อปกันได้ถูก เผื่อร้านที่อยากจะเข้าดันไม่มีที่นี้ จะได้วางแผนหาสาขากันถูกครับ

(: ที่สถานี Shinsaibashi เราเดินออกทางออกที่เชื่อมกับห้าง Parco เลยก็จะเจอ Godzilla ที่ประตูทางเข้า แล้วตรงขึ้นไปที่ชั้น 6/7 Pop Culture street ที่รวบรวม Cartoon character เจ๋งๆ ดังๆ เพียบ คำแนะนำของผมนะครับคือ กุมกระเป๋าสตางค์ กำบัตรเครดิตไว้แน่นๆ อย่าให้มันออกมานอกกระเป๋าง่ายๆ นะครับ

(: ร้านแรกที่สาวกอนิเมะห้ามพลาดก็ต้อง Ghibi store

(: Crayon Shinchan Official Shop การ์ตูนโปรดที่ดูหลังกลับจากโรงเรียนแทบทุกวัน ขนาดไปตั้งแต่ห้างเปิด ตู้จุ่มก็ของหมดแล้ว หรือไปเช้าเกินยังไม่เติมของ T.T

(: ร้านหมีสุดคิ้ว Rilakkuma & Korilakkuma ที่ตกแม่ผมทุกรอบไป คราวนี้ได้กลับบ้านอีก 2 ตัว พอถึงโรงแรมก็เอาน้อนออกมานั่งดู ไม่ค่อยจะเห่อเลยยย

(: เรื่องโปรดพี่สาวผม Snoopy ก็ถึงกับทำให้พี่ผมล้มละลายตั้งแต่ร้านแรก

(: เชื่อมั้ยครับว่าแค่เราเข้ากันแค่ไม่กี่ร้านก็เกือบหมดครึ่งเช้าไปแล้ว แล้วที่ชั้นนี้ยังมีร้านอีกตั้งเยอะทั้ง Pop mart, Pokemon shop แล้วก็ร้านจากการ์ตูนเรื่องอื่นๆอีกที่ผมไม่รุู้จัก ถ้าใครจะมาเผื่อเวลากันเยอะๆ นะครับจะได้เข้าทุกๆ ร้านที่ตั้งใจไว้

(: ที่ชั้นล่าง มีร้านอาหารให้เลือกเยอะระดับนึงเลยครับ มีร้านพวกอิซากายะด้วย แต่คุณแม่จิ้มแล้วจะซ้ำราเมนร้าน Kumakura ที่เคยกินที่เกียวโต ก็ต้องตามใจเค้าละ !!! ก่อนจะเข้าไปในร้านก็กดเลือกเมนูและจ่ายเงินที่ตู้กดหน้าร้านนะครับ ที่สาขานี้ที่นั่งทั้งหมดจะเป็นแบบบาร์ ผมเลยได้นั่งติดกับสาวญี่ปุ่น อิอิ แต่ที่ผมตกใจนอกจากความน่ารักของเธอแล้ว คือคนญี่ปุ่นเป็นคนกินเร็วมากๆๆๆๆ ขนาดที่ว่าได้ราเมนพร้อมๆ กัน ผู้ชายอย่างผมกินยังไปแค่ครึ่งชาม เค้ากินหมดแล้วทั้งข้าว ราเมนและเกี๊ยวซ่า สปีดการกินของเราคือสู้ไม่ได้เลย