[CR] [พาแม่ไปเที่ยวแถว Kansai กันเถอะ] Day 3 - วันสุดท้ายที่เกียวโต ณ.ป่าไผ่

Day 3
(Arashiyama Bamboo groove >> Aeon Mall Kyoto >> Osaka)


=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=

(: เช้าวันสุดท้ายที่เกียวโตแล้ว วันนี้แพลนเราจะหลวมๆ ถึงขั้นหลวมมาก 55 คือมีแค่ไปป่าไผ่ Arashiyama เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟกลับเข้าโอซาก้าช่วงบ่ายเท่านั้นเลย แต่ถึงยังงั้นพวกเราก็เลือกที่จะ Check out ออกจากโรงแรมกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง เพราะอยากจะไปถึงป่าไผ่ให้เช้าที่สุด จะได้ไม่เจอฝูงมหาชนและกรุ๊ปทัวร์พส.จีน

(: เราแบกกระเป๋าเดินทางทั้งหมดมาไว้ที่ตู้ Locker ที่สถานี เช้าๆแบบนี้เลือกได้เลยว่าอยากฝากตู้ตรงไหนในสถานี จะเอาตู้ไซส์ไหน อารมณ์เลือกที่จอดรถตอนห้างเปิด !!! สำหรับผม ผมคิดว่าบริเวณที่สะดวกน่าจะเป็นตู้ Locker ทางเดินไปชานชาลาที่ 30 ตามภาพด้านล่าง เพราะพอเอากระเป๋าเข้า Locker เสร็จก็เดินไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลา 32 ไปป่าไผ่ Arashiyama หรือเดินไปขึ้น Haruka เข้า Osaka ที่ชานชาลา 30 ได้เลย

(: วิธีใช้ก็สามารถทำตามขั้นตอนบนหน้าจอได้เลย และจ่ายด้วย IC card ได้


(: ตรงแถวๆ หน้าชานชาลาที่ 30 จะมีเก้าอี้นั่งรอรถไฟอยุ่และก็ร้านอูด้งเจ้านี้

(: เลี้ยวขวาไปที่ชานชาลาที่ 32 กันเลย เราเดินทางด้วย JR San-In line นั่งไป 7 สถานีลงที่ Saga-Arashiyama station


(: นั่งรถไฟมาประมาณ 20 นาทีก็ถึง Saga Arashiyama JR station เราจะออกทางออก South Gate หรือผมว่าเราสามารถเดินตามนักท่องเที่ยวกันไปได้ เพราะแทบทุกคนที่มาที่นี้ล่วนมีจุดมุ่งหมายที่ป่าไผ่นั่นเอง

(: แอบมองเทออยู่นะจ๊ะ !! มองไปด้านข้างน่าจะเป็นรถไฟสายโรแมนติคที่จอดอยู่สถานี Saga Torokko station ซึ่งอยู่ติดกับ JR station เลย

(: มายืนด้านหน้าสถานี Saga Arashiyama ฟ้าแบบฟ้าตะโกนมากทุกคน
พอออกจากสถานี JR ส่วนมากนักท่องเที่ยวก็จะเดินชิลล์ๆตามทางไปยังป่าไผ่ Arashiyama แต่ดูทรงแล้วแม่น่าจะเดินไม่ไหวเพราะระยะทางรวมเกือบ 2 km ได้ ผมเลยเลือกที่จะเดินไปที่สถานีรถไฟ Randen ที่อยู่ใกล้ๆ แทน

(: ส่วนซ้ายมือก็ Sagano Torokko Station

(: เดินมาจาก JR Saga Arashiyama station ประมาณ 5 นาทีก็ถึง Randensaga ที่สถานีจะไม่มีจนท.หรือที่ขายตั๋วนะฮะ
ให้เราขึ้นที่ประตูด้านหลัง แล้วพอจะลงค่อยจ่ายเงินที่พนง.ขับรถไฟ ซึ่งจ่ายด้วย IC card ก็ได้ด้วย

(: จาก Randensaga ที่ผมขึ้นก็อีกแค่ 1 ป้าย ตดยังไม่ทันหายเหม็น เราก็จะถึง Arashiyama (Randen) แล้ว
คนบนรถไฟมองพวกผมงงๆว่าพวกแกจะขึ้นทำไมแค่ป้ายเดียว แต่ก็ถือซะว่าซื้อเวลาและช่วยเซฟเข่าแม่ผมละกัน 555 ถ้าบ้านไหนมีผู้สูงอายุเดินทางด้วยก็แนะนำนะครับ ย่นระยะทางสำหรับเดินได้เยอะทีเดียว


(: วิวทางรถไฟจากไอ้หนุ่มท้ายขบวนฮะ ^^ ซึ่งพอถึงสถานีปลายทาง คุณลุงคนขับก็จะเปลี่ยนมานั่งที่ทางด้านนี้แทน

(: Arashiyama (Randen) station จะอยู่กึ่งกลางระหว่างป่าไผ่และสะพาน Togetsukyo

(: ผมเลือกที่จะไปป่าไผ่ Arashiyam Bamboo Groove กันก่อนเพื่อจะรีบไปแชะภาพตัวเองกับเหล่าต้นไผ่สูงก่อนที่จะมีเพื่อนที่ไม่รู้จักมาร่วมเฟรมแบบงง ฮ่าๆๆ วิธีการเดินไปป่าไผ่ก็ง่ายๆ ครับ ออกจากสถานี Randen ก็เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไปเรื่อย ๆ

(: เดินมาซักแปรบก็จะผ่านด้านหน้า Tenryuji Temple
(: เจอป้ายนี้ก็เลี้ยวซ้ายได้เลย

(: เดินตามทางเข้ามาสักพักก็จะเริ่มเห็นฝูงไผ่ละฮะ ไม่รุ้ด้วยสายพันธ์ุหรืออากาศหรือการดูแล ต้นไผ่ที่ญี่ปุ่นถึงสูงและตั้งตรงมาก ที่ประเทศไทยไม่ค่อยเคยเห็นสุงขนาดนี้เลย แม่ผมบอกที่เมืองไทยไม่โตเพราะโดนตัดไปกินเป็นหน่อไม้หมด 555 หลักการแม่ผมหักทุกกฤษฎีที่ผมกะพี่สาวพยายามคิด ช้อตฟิวมากแม่


(: เราสามารถเดินเข้าวัด Tenryuji ได้จากประตูด้านข้างบริเวณป่าไผ่ได้นะฮะ แล้วเดินชมสวนหินในบริเวณวัดแล้วไปออกด้านประตูหน้าที่เราผ่านมากันตอนแรก

(: มาเช้าๆ แบบนี้ ป่าไผ่ก็เป็นของเราซิคร้าบ จะ 16 แอค 32 แอค หรือร้อยแอคก็ถ่ายโล้ด หามุมแชะภาพได้สบายๆ



(: ด้านในป่าไผ่จะมีศาลเจ้า Nonomiya Shrine เป็นศาลเจ้าเล็กๆ สงบๆ มีชาวญี่ปุ่นเข้ามาสักการะ ถ้าจำไม่ผิดผู้คนมักมาขอพรเรื่องความรัก love






(: ไม่รู้อันนี้เป็นรูปแบบการจัดสวนที่ญี่ปุ่น หรือเกิดเองตามธรรมชาตินะครับ ดูราวกับทะเลมอสเลย ช่างเข้ากับบรรยากาศของศาลเจ้า

(: เราใช้เวลากันที่ป่าไผ่และศาลเจ้ากันซักพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาเคลื่อนทัพกันแล้ว โดยเราจะเดินย้อนกลับทางที่เราเดินเข้ามา จนถึงต้นซอยที่เป็นร้านขายของทอดเสียบไม้ ก็ซื้อกันคนละไม้แล้วเดี๋ยวเอาไปนั่งกินกันตรงริมสะพาน Togetsukyo กัน

(: ตอนนี้ 9 โมงนิดๆ ผู้คนและรถเริ่มหนาตาขึ้นแล้วครับ แต่พวกร้านค้า ร้านอาหารยังไม่มีร้านไหนเปิดนะฮะ แต่เริ่มเห็นเจ้าของร้านเริ่มเตรียมร้านกันแล้ว

(: เดินย้อนกลับทางเดิมมาเรื่อยๆ ผ่าน Randen station ก็เดินต่ออีกนิดจนสุดทาง เราก็จะเจอ Togetsukyo bridge ไปครับไปยืนรับลม รับพลังงานกันที่กลางสะพาน

(: มองย้อนกลับไปที่ทางที่เราเดินข้ามมา

(: เมื่อวานผมไปยืนฟังเสียงน้ำในแม่น้ำไหลที่ Uji bridge
วันนี้เสียงน้ำไหลที่ Togetsukyo bridge ก้อไพเราะแล้วก้อเงียบสงบไม่แพ้กันเลยครับ จำไม่ได้ว่าผมยืนหลับตาฟังเสียงตรงนั้นนานเท่าไร ให้นั่งหลับตาฟังทั้งวันก็ไม่เบื่อฮะ อันนี้ผมไปเล่าให้เพื่อนฟังว่าเมื่อก่อนไม่เคยรุ้สึกสงบเวลาฟังเสียงน้ำไหลมาก่อน เพื่อนสงสัยว่าผมคงเครียดมากๆ รึป่าว ?!? นั่นสิครับหรือผมเริ่มแก่แล้ว 555



(: อีกฝั่งของสะพาน เดี๋ยวเราข้ามถนนแล้วไปนั่งกินอะไรกันริมน้ำฝั่งนู้นกันฮะ

(: เรามานั่งกินของทอดเสียบไม้รองท้องกันฮะ วิวภูเขาเขียวๆ แซมด้วยสีเหลืองๆชมพูอ่อนๆ ตัดกับสะพานขาวๆ และสายน้ำ เข้าใจแล้วครับว่าทำไม Arashiyama ถึงเป็น Famous spot ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แค่นี้ก็สวยงามมากพอสำหรับผมแล้ว


ไปกันต่อที่คอมเม้นด้านล่างกันคร้าบ
tripnote003
ชื่อสินค้า:   เกียวโต , Arashiyama , Kinkakuji , Fushimi Inari Shrine
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่