เชิงป้องกัน
1. คอนโดมีการจัดกิจกรรมช่วงเปิดตัว และ promotion ช่วง pre-sales และรอบ VIP และประกาษขายพร้อมๆกันหลายแห่ง (low rise)
2. ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า บริษัท นี้เคยสร้างคอนโดมากี่แห่งแล้ว และมีปัญหาความล่าช้าในการสร้างหรือไม่ ต้องระวังอีกอย่างคือ กรรมการชุดนี้ ใช้ชื่ออื่นๆในการจดทะเบียนบริษัทด้วย
3. กรณีของผม คอนโดที่สร้างโดย บริษัท นี้ จะจดทะเบียนให้เป็นคนละบริษัทกันเลย คือ 1 คอนโด ต่อ 1 บริษัท แต่กรรมการบริษัทจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ก่อนการจองคอนโด ควรตรวจสอบประวัติ บริษัท และตัวกรรมการให้ดี เพื่อให้รู้ว่า กรรมการชุดนี้ มีปัญหาความล่าช้า หรือ ก่อสร้าง ที่อื่นๆก่อนหน้าหรือไม่
4. ภายหลังพบว่า มีคอนโดที่กรรมการชุดนี้บริหารอยู่ แต่ไม่สามารถปิดโครงการได้ เนื่องจาก ล่าช้า และปัญหาด้านอื่นๆ ทำให้ กรรมการ ชุดนี้ อาจจะสร้างโครงการผีขึ้นมา และอัดโปรโมชั่นให้ผ่อนดาว์น เพื่อเอาเงินตรงนี้ ไปโปะโครงการเก่าๆที่มีปัญหา โดยที่ไม่ได้มีความตั้งใจสร้างโครงการใหม่ตั้งแต่แรก
5. หากโครงการไหนที่เปิดตัวพร้อมๆกันหลายๆที่ควรระวังให้ดีก่อนซื้อ โดยเฉพาะบริษัทที่ไม่ใช่ brand ใหญ่จะน่ากลัวมาก
เชิงแก้ไข
6. มาถึงจังหวะที่ติดต่อใครไม่ได้เลย และโทรไปเบอร์สำนักงาน ก็ไม่มีคนรับ และ sales ก็ลาออกไปแล้ว ทำให้ การผ่อนค่างวดไม่แน่ใจว่าทางคอนโดรับชำระอย่างไร และไม่มีการส่งใบเสร็จรับเงินมาด้วย ลิงค์ชำระผ่านบัตรเครดิตจากที่เคยใช้ได้ ก็ใช้ไม่ได้แล้ว
7. ทำการดำเนินคดี โดยแต่งตั้งทนาย เพื่อฟ้องบังคับให้คืนเงินจอง ดาว์น รวมดอกเบี้ยผิดนัด ตามสัญญาจะซื้อจะขาย (ควรเลือกทนายให้ดี ไม่งั้นจะเน้นให้เราไปประนอมกับอีกฝ่าย และเราก็ไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวนด้วย)
ทนายแจ้งว่า หากให้ ศคบ ช่วยดำเนินคดีแทน จะจบแบบประนีประนอม และใช้เวลานานมาก (แต่สงสัยว่า เราดำเนินคดีแบบกลุ่ม ได้ไหม และจะมีอำนาจต่อรองมากกว่า ฟ้องเองเดี่ยวๆหรือไม่)
8. จำเลยย้ายที่อยู่หนีหลายครั้ง ครั้งหนึ่งหนีไปบนอาคารห้องชุด ที่ไม่ให้ทางศาลสามารถส่งหมายใดๆได้เลย เพราะบริษัทให้ รปภ ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกขึ้นอาคารเลย ทำให้ในทาง กฎหมาย หมายจะไม่ถึงจำเลย ทำให้ต้องเสนอศาลประกาศด้วยวิธีอื่นๆแทน เช่น ทาง internet แทน
9. อ่านกระทู้อื่นๆ พบว่า การประนีประนอมยอมความ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ดังนั้น ตัดสินใจจะฟ้องให้จำเลยรับผิดตามมูลหนี้เดิม คือ ผิดสัญญาจะซื้อจะขาย เพราะ แม้ประนีประนอมไปเช่น ผ่อนชำระ บริษัทก็ไม่น่าจะชำระหนี้ได้อยู่ดี และเสียเวลาและสุขภาพจิตในการติดตามทวงหนี้ในแต่ละงวดอีก
10. เข้าใจว่า หากฟ้องตามมูลหนี้เดิม เราก็จะบังคับคดีได้ไวขึ้นด้วย ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตามการประนีประนอม
11. ศาลนัดครั้งแรก จำเลยขอเลื่อนไปเกือบ 2 เดือน และย้ายที่อยู่หนีไปอีกหน (ตุกติก ตาม steps บริษัทที่โกง และหนีหนี้)
หลังศาลนัดอีกครั้ง จะมา update ความคืบหน้า ครับ
แชร์ประสบการณ์การจองคอนโดที่ไม่ดำเนินการสร้าง
1. คอนโดมีการจัดกิจกรรมช่วงเปิดตัว และ promotion ช่วง pre-sales และรอบ VIP และประกาษขายพร้อมๆกันหลายแห่ง (low rise)
2. ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า บริษัท นี้เคยสร้างคอนโดมากี่แห่งแล้ว และมีปัญหาความล่าช้าในการสร้างหรือไม่ ต้องระวังอีกอย่างคือ กรรมการชุดนี้ ใช้ชื่ออื่นๆในการจดทะเบียนบริษัทด้วย
3. กรณีของผม คอนโดที่สร้างโดย บริษัท นี้ จะจดทะเบียนให้เป็นคนละบริษัทกันเลย คือ 1 คอนโด ต่อ 1 บริษัท แต่กรรมการบริษัทจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ก่อนการจองคอนโด ควรตรวจสอบประวัติ บริษัท และตัวกรรมการให้ดี เพื่อให้รู้ว่า กรรมการชุดนี้ มีปัญหาความล่าช้า หรือ ก่อสร้าง ที่อื่นๆก่อนหน้าหรือไม่
4. ภายหลังพบว่า มีคอนโดที่กรรมการชุดนี้บริหารอยู่ แต่ไม่สามารถปิดโครงการได้ เนื่องจาก ล่าช้า และปัญหาด้านอื่นๆ ทำให้ กรรมการ ชุดนี้ อาจจะสร้างโครงการผีขึ้นมา และอัดโปรโมชั่นให้ผ่อนดาว์น เพื่อเอาเงินตรงนี้ ไปโปะโครงการเก่าๆที่มีปัญหา โดยที่ไม่ได้มีความตั้งใจสร้างโครงการใหม่ตั้งแต่แรก
5. หากโครงการไหนที่เปิดตัวพร้อมๆกันหลายๆที่ควรระวังให้ดีก่อนซื้อ โดยเฉพาะบริษัทที่ไม่ใช่ brand ใหญ่จะน่ากลัวมาก
เชิงแก้ไข
6. มาถึงจังหวะที่ติดต่อใครไม่ได้เลย และโทรไปเบอร์สำนักงาน ก็ไม่มีคนรับ และ sales ก็ลาออกไปแล้ว ทำให้ การผ่อนค่างวดไม่แน่ใจว่าทางคอนโดรับชำระอย่างไร และไม่มีการส่งใบเสร็จรับเงินมาด้วย ลิงค์ชำระผ่านบัตรเครดิตจากที่เคยใช้ได้ ก็ใช้ไม่ได้แล้ว
7. ทำการดำเนินคดี โดยแต่งตั้งทนาย เพื่อฟ้องบังคับให้คืนเงินจอง ดาว์น รวมดอกเบี้ยผิดนัด ตามสัญญาจะซื้อจะขาย (ควรเลือกทนายให้ดี ไม่งั้นจะเน้นให้เราไปประนอมกับอีกฝ่าย และเราก็ไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวนด้วย)
ทนายแจ้งว่า หากให้ ศคบ ช่วยดำเนินคดีแทน จะจบแบบประนีประนอม และใช้เวลานานมาก (แต่สงสัยว่า เราดำเนินคดีแบบกลุ่ม ได้ไหม และจะมีอำนาจต่อรองมากกว่า ฟ้องเองเดี่ยวๆหรือไม่)
8. จำเลยย้ายที่อยู่หนีหลายครั้ง ครั้งหนึ่งหนีไปบนอาคารห้องชุด ที่ไม่ให้ทางศาลสามารถส่งหมายใดๆได้เลย เพราะบริษัทให้ รปภ ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกขึ้นอาคารเลย ทำให้ในทาง กฎหมาย หมายจะไม่ถึงจำเลย ทำให้ต้องเสนอศาลประกาศด้วยวิธีอื่นๆแทน เช่น ทาง internet แทน
9. อ่านกระทู้อื่นๆ พบว่า การประนีประนอมยอมความ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ดังนั้น ตัดสินใจจะฟ้องให้จำเลยรับผิดตามมูลหนี้เดิม คือ ผิดสัญญาจะซื้อจะขาย เพราะ แม้ประนีประนอมไปเช่น ผ่อนชำระ บริษัทก็ไม่น่าจะชำระหนี้ได้อยู่ดี และเสียเวลาและสุขภาพจิตในการติดตามทวงหนี้ในแต่ละงวดอีก
10. เข้าใจว่า หากฟ้องตามมูลหนี้เดิม เราก็จะบังคับคดีได้ไวขึ้นด้วย ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตามการประนีประนอม
11. ศาลนัดครั้งแรก จำเลยขอเลื่อนไปเกือบ 2 เดือน และย้ายที่อยู่หนีไปอีกหน (ตุกติก ตาม steps บริษัทที่โกง และหนีหนี้)
หลังศาลนัดอีกครั้ง จะมา update ความคืบหน้า ครับ